BIG STORY : หลายฝ่ายร่วมมือเร่งแก้ ศก. ดูแลปากท้องคนเมืองเพิ่มรายได้

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – ฟังเสียงสะท้อนปัญหาปากท้องคนเมือง พร้อม 4 ข้อเสนอภาคเอกชนถึงรัฐ ต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ประชาชน


ผลกระทบภาพรวมจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ราคาสินค้าเกือบทุกหมวดหมู่ปรับราคา ก่อนหน้านี้ภาคเอกชนมีข้อเสนอให้รัฐเร่งดำเนินการ ซึ่งเป็นข้อเสนอจากนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าสถานการณ์น้ำมันแพงในตอนนี้เป็นสิ่งเร่งด่วนที่ต้องดูแล และหากราคาดีเซล ทะลุกรอบไปถึง 40 บาท/ลิตร เร็วเกินไปจะยิ่งกระทบต่อต้นทุนผลิต ทำให้สินค้าและบริการทยอยปรับขึ้นราคา ซ้ำเติมประชาชน ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจยิ่งฟื้นตัวได้ช้าลงไปเรื่อยๆ

ประชาชนไม่เชื่อมั่นและกลัวการจับจ่ายใช้สอย เพราะคาดว่าสินค้าจะทยอยแพงขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะมีการเก็บกักตุนสินค้า เพื่อไปรอขายในราคาที่สูงต่อไป เกิดปัญหาปริมาณสินค้าตึงตัวได้


สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อออกไป ภาคเอกชนยังเชื่อว่าราคาน้ำมันจะยังคงสูงอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ ดังนั้น ต้องมีการเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนไปพร้อมกับการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่สำคัญต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสร้างการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ และหอการค้าไทยจึงเสนอ 4 เรื่องสำคัญ

เริ่มจาก 1.รัฐบาลต้องพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้าจำเป็นจะต้องขึ้นราคา ให้ทยอยขึ้นเท่าที่จำเป็น เพื่อให้มีการปรับตัว รอให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้มากกว่านี้ 2.การเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ส่วนนี้จำเป็นมากเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ การปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือ soft loan รอบนี้จะช่วยให้พยุงเศรษฐกิจและฟื้นฟูธุรกิจให้กลับมาเดินหน้าได้

3.จัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่เดือดร้อนจริง สำหรับมาตรการคนละครึ่ง เฟส 5 อาจจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เพราะเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดไว้ คงต้องปรับเอางบประมาณส่วนนั้นมาใช้เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลก่อน และต้องจำกัดการช่วยเหลือ ให้เข้าถึงประชาชนเฉพาะบางกลุ่มที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง และ 4.เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ รัฐบาลต้องมาพิจารณาปรับในส่วนนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับเงินเฟ้อและค่าครองชีพ


อีกเรื่องที่สำคัญในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเรื่องนี้ หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นต้องทำไปพร้อมกับมาตรการเสริมสร้างรายได้ให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการค้าขาย อย่างพื้นที่ใน กทม.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปากท้องประชาชน ระหว่างการลงพื้นที่ตามนโยบายผู้ว่าฯ สัญจรครั้งแรก ที่เขตคลองเตย ว่าเห็นถึงความยากลำบากในการประกอบอาชีพของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพค้าขาย หรืออาชีพที่ต้องอาศัยทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งยังมีคนต้องการการจ้างงานแต่ยังหากันไม่เจอ ซึ่ง กทม. จะสามารถเป็นตัวกลางในการสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ซื้อกับผู้ขายมาเจอกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นที่ตลาด หรือช่องทางออนไลน์ รวมทั้งเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชน ซึ่งอาจจะมีการเทรนนิ่งให้เหมาะสมกับฝีมือ ให้รู้ว่าธุรกิจต้องการอะไร ออกใบรับรองทักษะฝีมือ หรือสอนการทำธุรกิจออนไลน์ การไลฟ์ เพื่อช่วยให้เกิดการจ้างงาน ช่วยความเป็นอยู่ประชาชน

นอกจากนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ลงพื้นที่สำรวจความเห็นประชาชนต่อแนวคิดดังกล่าว เช่น นายเสรี เจ้าของร้านชำ ชุมชนโรงหมูเขตคลองเตย บอกว่าตั้งแต่ขายของชำมา 40 กว่าปี ครั้งนี้ถือว่าย่ำแย่ที่สุด หากมีการเปิดพื้นที่ตลาดใหม่ไม่รู้ว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นหรือไม่ ส่วนการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ตนเองไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยี แต่หากทาง กทม. มีนโยบายที่จะเข้ามาสอนก็พร้อมจะเรียนรู้

ด้านนันทนาพร ร้านก๋วยเตี๋ยวมิตร ตลิ่งชัน บอกว่า ครอบครัวสามีขายก๋วยเตี๋ยวมากกว่า 30 ปี ช่วงโควิดกระทบหนัก ตอนนี้เริ่มดีขึ้น มีหน่วยงานติดต่อได้ไปออกบูธบ้าง ขายผ่านช่องทางออนไลน์บ้าง แต่หลังจากเปิดเทอมยอดขายก็ตกลงไปอีก จากที่เคยขายได้วันละ 6,500-7,000 บาท เหลือเพียงวันละ 3,000-4,000 บาท หักต้นทุนแล้วเหลือไม่ถึง 2,000 บาท หากนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. ที่จะให้มีพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้ซื้อกับผู้ขายที่มีความถนัดมาเจอกัน เชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

ในส่วนของการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อมาเพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการรายย่อย จริงๆ ในเมือง กทม. และอาจจะเป็นเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดีย ระบุว่าเห็นด้วยกับแนวคิด กทม. ที่ต้องทำเรื่องนี้เร่งด่วน การทำช่องทางดังกล่าวเปรียบเสมือนการทำตลาดนัดในออนไลน์ ช่วยให้ผู้ซื้อเจอผู้ขาย เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการด้วยในระดับหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]