กทม.จับมือราชทัณฑ์ นำผู้ต้องขังลอกท่อ เริ่ม 1 ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – กทม.หารือกรมราชทัณฑ์ พร้อมหนุนผู้ต้องขังลอกท่อ เริ่ม 1 ก.ค.นี้ ตั้งเป้า 100 กิโลเมตร  ยัน กทม.มีงบเหลือสำหรับการลอกท่อ  


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม.และผู้เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมกับนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะจากกรมราชทัณฑ์ ที่สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง เรื่องความร่วมมือการดำเนินการทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้กับ กทม.หลังจากมีกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมประสานมายัง กทม.ขอให้ผู้ต้องขังดำเนินการลอกท่อให้กับ กทม.เช่นเดิม หลังจากห่างหายไปหลายปีจากสถานการณ์โควิด-19

นายชัชชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาลงพื้นที่เจอประชาชนบอกว่าผู้ต้องขังลอกท่อดี  มองให้โอกาสผู้ตัองขัง โดยจะต้องดูแลสิทธิมนุษยชนกับผู้ต้องขัง เพื่อมีสิทธิทุกคนเหมือนคนปกติ และต้องให้สมัครใจมาทำงาน  รวมถึงการให้อุปกรณ์ป้องกันในการออกมาปฎิบัติงาน และเรื่องค่าแรง โดย กทม.จะดูแลให้เท่าเทียมกับผู้ที่ปฏิบัติงานทั่วไป ได้ออกมาทำเพื่อสังคม มีรายได้ ปัจจุบัน กทม.มีท่อระบายน้ำที่ต้องลอกประมาณ 6,500 กิโลเมตร ในจำนวนนี้ส่วนของสำนักการระบายน้ำดูแล 2,000 กิโลเมตร และส่วนของแต่ละเขตดูแลเป็นท่อย่อยอีก 4,500 กิโลเมตร ส่วนของปีนี้ดำเนินการลอกไปแล้ว 2,000 กิโลเมตร โดยในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณนี้ยังเหลืองบลอกท่ออีก 15 ล้านบาท โดยจากการหารือกำหนดให้ผู้ต้องขังเริ่มงานลอกท่อได้ วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ตั้งเป้าให้ได้ 100 กิโลเมตร โดยได้สั่งการให้แต่ละสำนักงานเขตหาจุดที่จะให้เข้าดำเนินการได้ทันที และ กทม.สามารถจ้างราชทัณฑ์ตามขั้นตอนกฎหมายระเบียบที่กำหนดโดยตรงได้เพราะเป็นหน่วยงานรัฐบาลกับรัฐบาล และช่วงเดือนกรกฎาคมฝนทิ้งช่วง ก็จะดำเนินการลอกท่อได้สะดวก  แต่ได้กำชับว่าถ้าพร้อมก่อนก็เริ่มได้เลย เพราะปัญหาน้ำท่วมรอไม่ได้  และอยากให้ช่วงที่มีการดำเนินการเจ้าของบ้านแถวนั้นออกมาดูด้วย จะได้เห็นว่ามีอะไรอุดตันบ้าง มีไขมัน ขยะ จะได้ส่งเสริมการร่วมมือกับประชาชนด้วย เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาระยะยาว ส่วนเรื่องค่าแรงของผู้ต้องขังนั้น หลักการคิดต้องไปดูรายละเอียด


ด้านนายอายุตม์ เปิดเผยว่า ขอบคุณผู้ว่าฯ กทม.ที่ให้ความไว้วางใจให้ผู้ต้องขังมีโอกาสได้ออกมาดำเนินการลอกท่อ กรมราชทัณฑ์มีความพร้อม เพราะเคยทำมายาวนาน  และกรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับสิทธิหากออกมาแล้ว เจ็บป่วยก็มีการดูแล  รวมทั้งช่วงที่ปฏิบัติงานมีอาหารเครื่องดื่ม และการออกมาลอกท่อก็เป็นการปรับตัวก่อนพ้นโทษ เบื้องต้นเตรียมนักโทษชั้นเยี่ยม 1,000 คน จากเรือนจำ 10 แห่ง ส่วนมาตรการป้องกันโควิดจะมีการตรวจเอทีเค ทั้งก่อนออกมาปฏิบัติงาน และเมื่อปฏิบัติงานแล้วเสร็จ และได้รับวัคซีนครบโดส ย้ำผู้ดูแลไม่ให้ผู้ต้องขังออกนอกจุดพื้นที่งาน  ส่วนกำไรที่ได้ 70% จะมอบให้ผู้ต้องขังเก็บเป็นเงินเมื่อพ้นโทษ ส่วนปัญหาที่ผ่านมานั้น ติดเรื่องกฎกระทรวงที่ติดขัดอยู่แต่ตอนนี้ได้แก้ไขแล้ว กรมราชทัณฑ์จึงสามารถออกมาลอกท่อได้ตามเดิม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์