กรุงเทพฯ 31 พ.ค.- สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เผยควันบุหรี่เป็นภัยใกล้ตัวที่ทำให้เด็กป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคปอดเรื้อรัง จากการสูดดมควันบุหรี่จากคนในบ้าน แนะร่วมกันปกป้องลูกหลานห่างไกลจากควันบุหรี่ ด้วยการทำให้บ้านปลอดบุหรี่ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน และสิ่งแวดล้อม
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เนื่องด้วยวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก กรมการแพทย์มีความห่วงใยสุขภาพของเด็กไทย เพราะควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งในร่างกายมนุษย์ที่ไม่มีความปลอดภัย ควันบุหรี่ประกอบด้วยสารเคมีมากกว่า 7,000 ชนิด และมีมากกว่า 60 ชนิด ที่ทางการแพทย์ระบุว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ทั้งนี้ เด็กจะหายใจเอาอากาศปนเปื้อนควันบุหรี่ที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยของเด็ก หากผู้ปกครองหรือบุคคลในบ้านสูบบุหรี่ โอกาสนี้จึงอยากขอเชิญชวนให้ผู้สูบบุหรี่ตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะเลิกสูบ ด้วยการทำให้บ้านปลอดบุหรี่ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน และสิ่งแวดล้อม
นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า บ้านควรเป็นที่ปลอดภัยสำหรับสมาชิกในครอบครัว เพื่อสุขภาพที่ดี ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน ไม่สูบบุหรี่ใกล้เด็กหรือหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์และทารก จะมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์และคลอดบุตร โดยอาจมีอาการครรภ์เป็นพิษ แท้ง คลอดก่อนกำหนด และเกิดอาการไหลตายในเด็กสูงขึ้น มีความเสี่ยงที่ทารกแรกคลอดจะมีน้ำหนักตัวและความยาวน้อยกว่าปกติ พัฒนาการทางสมองช้ากว่าปกติ และอาจมีความผิดปกติทางระบบประสาท ในเด็กเล็กอาจก่อให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวมสูงกว่าเด็กทั่วไป มีอัตราการเกิดโรคหืดเพิ่มขึ้น เกิดการติดเชื้อของหูส่วนกลางในระยะยาว เด็กที่ได้รับควันบุหรี่มือสองจะมีพัฒนาการของปอดน้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้รับควันบุหรี่ วิธีการป้องกัน หลีกเลี่ยงพาเด็กไปในสถานที่ที่มีโอกาสเจอควันบุหรี่ เมื่อจำเป็นต้องออกไปข้างนอก พ่อแม่และผู้ปกครองควรเตรียมหน้ากากอนามัย หรือผ้าปิดจมูกไปด้วยทุกครั้ง พ่อแม่และสมาชิกในครอบครัวควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กโดยไม่สูบบุหรี่ ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี มักจะเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ หากสมาชิกในบ้านสูบบุหรี่ ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพ่อแม่และผู้ปกครองทุกท่านร่วมกันทำ “บ้านปลอดบุหรี่” เพื่อปกป้องสุขภาพให้แก่ลูกหลานของเรา.-สำนักข่าวไทย