มอนทรีออล 30 มิ.ย.- ควันพิษจากไฟป่าในแคนาดาได้แผ่ปกคลุมไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกควัน กระทบทั้งคนและสัตว์จำนวนมาก และต้องมีการเตือนภัยคุณภาพอากาศเลวร้าย
ผู้เชี่ยวชาญและทางการเตือนว่า ควันจากไฟป่าเป็นพิษมากกว่าควันประเภทอื่น เพราะประกอบด้วยโอโซน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ สารอินทรีย์ระเหยง่าย และฝุ่นละเอียดพีเอ็ม 2.5 ที่สามารถเข้าไปถึงระบบทางเดินหายใจ เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูบบุหรี่ ผู้สูงวัย และผู้มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง นอกจากนี้ยังมีผลโดยตรงต่อสุขภาพจิต อารมณ์และความเครียด สารพิษจากควันไฟป่ายังอาจแพร่กระจายไปไกลจากจุดที่เกิดไฟป่า ส่งผลต่อสุขภาพของสัตว์ได้เช่นกัน ทำให้สัตว์ป่าไม่ออกหาอาหารหรือจับคู่ ขณะที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในน้ำ เช่น วาฬ โลมา ก็เสี่ยงอันตรายเมื่อขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำ
เจ้าหน้าที่แคนาดาระบุว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้เป็นเรื่องไม่ปกติ และเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เนื่องจากปกติแล้วฤดูไฟป่าจะรุนแรงที่สุดราวเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม ข้อมูลจนถึงวันพุธพบว่า ไฟป่าได้เผาพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 12.8 ล้านไร่ ทำลายสถิติปี 2532 ที่ไฟป่าเผาพื้นที่มากเป็นประวัติการณ์ที่ 11.68 ล้านไร่ เจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมอธิบายว่า สภาพอากาศที่ร้อนและแล้ง ทำให้ต้นไม้และพืชพรรณจำนวนมากแห้งตายกลายเป็นเชื้อไฟขนาดใหญ่ ไฟป่าจากอินทรีย์สารที่คุกรุ่นซึ่งไหม้ลึกลงไปใต้ดินทำให้เกิดควันจำนวนมาก และเกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เพิ่มขึ้น
ไฟป่าแคนาดาส่งผลร้ายแรงต่อสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากป่าเขตหนาวซึ่งเป็นป่าสนจะปล่อยคาร์บอนต่อพื้นที่มากกว่าป่าแบบอื่น 10-20 เท่า สำนักงานบริการติดตามบรรยากาศโคเปอร์นิคัสระบุว่า ป่าจำนวนมากในแคนาดาที่เริ่มไหม้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ได้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์แล้วเกือบ 600 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 88 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่แคนาดาปล่อยทั้งหมดในปี 2564.-สำนักข่าวไทย