กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – กรมอนามัยร่วม ศธ.ตรวจสถานศึกษา เน้นย้ำมาตรการเปิด on-site เผยพบเด็กเล็กติดเชื้อจากครอบครัวสูงขึ้น แต่อาการไม่รุนแรง ด้านปลัด ศธ.ย้ำเริ่มฉีดไฟเซอร์เด็ก 5-12 ปี ตามไทม์ไลน์ 1 ก.พ. ยังไม่ชัดพื้นที่ไหนฉีดก่อน แต่จะทยอยตามจังหวัด ไม่ได้พร้อมกันทั้งประเทศ
นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่โรงเรียนเพลินพัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม. ประชุมร่วมเน้นย้ำนโยบายหลักเกณฑ์การเปิดสถานศึกษาในช่วงโควิด-19 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ภาพรวมขณะนี้มีโรงเรียน สถานศึกษาที่เปิด on-site 1.8 หมื่นโรง จากทั้งหมด 3.5 หมื่นโรง หรือประมาณ 53% ส่วนใหญ่เปิดตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ทั้งแบบสลับกันเรียนและออนไลน์ควบคู่กัน โดยหลังการเปิดเรียนช่วงเทอม 2 พบว่ามีเด็กไม่ถึง 20 เคส ที่ติดในโรงเรียน 99% เด็กติดจากในบ้าน ในชุมชน ส่วนอีก 1% ที่ติดจากสถานศึกษา พบว่าติดในช่วงอยู่ที่โรงอาหาร และที่ลานสนามเด็กเล่น
ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็กกลุ่มอายุ 5-12 ปี เบื้องต้นวางไทม์ไลน์ ศธ.ไว้ว่าจะเริ่มวันที่ 1 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่การปูพรมฉีดวันที่ 1 ก.พ.65 พร้อมกันทุกจังหวัด ทุกโรงเรียน แต่จะดูตามความพร้อมและพื้นที่ ซึ่งจะมีแจ้งออกมาอีกครั้ง และทยอยฉีดตามวัคซีนที่ทยอยเข้ามารายสัปดาห์
ตามไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนของ ศธ. กลุ่มอายุ 5-12 ปี พบว่าในช่วงสัปดาห์นี้ 25-26 ม.ค. อยู่ระหว่างสถานศึกษานำส่งรายชื่อและจำนวนนักเรียนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนให้แก่เขตพื้นที่การศึกษา วันที่ 27-28 ม.ค. ประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดและหน่วยงานการศึกษา สรุปข้อมูลนักเรียนอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีน แล้วนำรายชื่อส่งต่อสาธารณสุขจังหวัด
ขณะที่ นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เผยพบอัตราการติดเชื้อของนักเรียนค่อนข้างสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก เพิ่มขึ้น 13-17% แต่อย่างไรก็ตาม พบว่ามีความรุนแรงของโรคและมีอาการน้อยมาก ในช่วงการระบาดโอไมครอน มีเด็กติดเชื้อและเสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงที่พิการแต่กำเนิด ย้ำว่าการฉีดวัคซีนเป็นเพียงหนึ่งมาตรการที่ช่วยลดความรุนแรง และโรงเรียนต้องยึดตามมาตรการการเปิดเรียน ที่ สธ.วางกรอบไว้อย่างเคร่งครัด
ในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) ไฟเซอร์สำหรับฉีดให้เด็กอายุ 5-12 ปี ลอตแรก 3 แสนโดส จะมาถึง และได้วางแผนจัดสรรวัคซีนกระจายให้กับเด็กทั่วประเทศตามสัดส่วนพื้นที่เสี่ยง และจำนวนนักเรียนที่ประสงค์ยินยอมรับวัคซีน โดยจะทยอยกระจายให้ทั่วถึงทั้ง 77 จังหวัด ตามมติคณะกรรมการระดับจังหวัด และเริ่มฉีดตามไทม์ไลน์ของ ศธ. ส่วนเด็กกลุ่มแรกที่สาธารณสุขจะจัดสรรให้ฉีดภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ คือ กลุ่มเด็กเสี่ยง เด็กที่มีโรคประจำตัว ซึ่งหมอเด็กจะเป็นผู้ให้คำแนะนำ ขณะที่ข้อมูล สธ. กลุ่มเด็กอายุ 12-18 ปี ฉีดเข็ม 2 ไปแล้วมากกว่า 80%
โดยวันนี้มาลงพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจการเปิด on-site อย่างที่ ร.ร.เพลินพัฒนา เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล-ม.6 มีการจัดการที่ได้มาตรฐาน จนสามารถกลับมาเปิด on-site ได้เป็นโรงเรียนแรกๆ เน้นย้ำว่าเด็กที่ติดส่วนใหญ่ติดจากครอบครัว ไม่พบว่าติดจากใน โรงเรียน โดยหากโรงเรียนเคร่งมาตรการคัดกรองและป้องกันตัวเอง เด็กๆ ก็จะมาเรียนได้ตามนโยบายพาน้องกลับมาเรียน หลังจากพบว่าช่วงโควิดที่ผ่านมา มีนักเรียน 2.3 แสนคน หลุดจากระบบการศึกษา.-สำนักข่าวไทย