พรุ่งนี้! วันชี้ชะตากัญชาไทย

กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- “25 มกราคมนี้ วันชี้ชะตากัญชาไทย” แพทย์ทางเลือก-แผนปัจจุบัน ชี้ประชาชนต้องได้ประโยชน์จากกัญชา รัฐควรปลดล็อกออกจากยาเสพติด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้มีการเสวนา หัวข้อ “25 มกรา ชี้ชะตากัญชาไทย” โดย มี ภก.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ ผู้อำนวยการกองเเพทย์ทางเลือก กรมการเเพทย์เเผนไทยเเละการเเพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ร่วมเสวนา


ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระบบสมอง ดูแลผู้ป่วยหลายโรค หลายอาการ พบว่า ยาแผนปัจจุบันยังตอบโจทย์ไม่ได้ทั้งหมด เพราะมีข้อจำกัดต้องใช้ยาหลายชนิด เกิดผลข้างเคียงมาก อีกทั้งยายังทำปฏิกิริยาด้วยกันเอง แต่หากกัญชาเข้าถึงครัวเรือน ชุมชน จะช่วยให้คนในชุมชนสามารถดูแลตนเองได้ เพียงแค่เรียนรู้วิธีใช้ในครัวเรือนเพื่อรักษาสุขภาพ ความเข้าใจผิดเรื่องการใช้กัญชาแล้วทำลายระบบสมอง ตับ หรือไต แท้จริงแล้วขึ้นอยู่กับวิธีการนำไปใช้เป็นยาอย่างถูกต้อง

ภก.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทำงานด้านการเก็บระบบข้อมูลสมุนไพรมาโดยตลอด กัญชา เป็นหนึ่งในสมุนไพร และเป็นวัฒนธรรม ภูมิปัญญา มีมาแต่ในอดีตนำมาใช้เพื่อการรักษา หากปัจจุบันประโยชน์ของกัญชา สามารถช่วยเรื่องการรักษาทางการแพทย์ ดังนั้น หากกัญชา ยังถูกกำหนดไว้เป็นสารเสพติด การนำมาใช้จะยากยิ่ง และไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นว่า กัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ที่ประชาชนสามารถปลูกเพื่อสร้างรายได้ ก็จะถูกปิดกั้นโอกาสสร้างรายได้ ข้อมูลที่มีมาก่อนหน้านี้ คือ โอกาสติดกัญชามีน้อยกว่าเหล้า บุหรี่ ดังนั้น หากต้องควบคุม ก็ควรควบคุมเฉพาะส่วนที่มีสามารถนำไปสกัดเป็นสารเสพติดก็พอ


“ได้รวบรวมตำรับการใช้กัญชาเพื่อรักษา มี 241 ตำรับ ใน 21 กลุ่มอาการ กระท่อมมี 75 ตำรับ ใช้ในโรคบิด โรคเบาหวาน และกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับกำลัง เห็นได้ชัดว่าเกิดประโยชน์มากหากรู้จักวิธีใช้ เราควรนำภูมิปัญญาดั้งเดิมมาพัฒนา เช่นกรณีผู้ป่วยที่เป็นต้อหิน ใช้กัญชาในการรักษา ช่วยลดความดัน ลดอาการต้อหินลงได้ หากเราสามารถฟื้นฟูองค์ความรู้ดั้งเดิม นำมาเชื่อมโยงให้สอดคล้องกับการศึกษาสมัยใหม่ ทำให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้น และเกิดนวัตกรรมใหม่ ราก ต้น ใบ ดอก ใช้ได้เกือบทุกส่วน ดังนั้น หากเราปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติดได้ เราจะเป็นมหาอำนาจต้นแบบการใช้กัญชา ในทุกเรื่อง เปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงให้คนทั้งโลกหันมาดูวิถีกัญชาของเรา”ภก.ดร.สุภาภรณ์กล่าว

เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวด้วยว่า หากพรุ่งนี้ (วันที่ 25 มกราคม) มีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดได้ จะทำให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่สำคัญกระแสความต้องการของประชาชนไม่มีใครขวางได้

ด้าน น.พ.เทวัญ กล่าวว่า เคยมีข้อมูลที่เทียบสารซึ่งออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท พบว่า กัญชา มีสารที่อันตรายร้ายแรงน้อยกว่าสารในเฮโรอีน เหล้า ยาสูบ เสียอีก หากจะกล่าวให้ถูกจุดก็คือ กัญชามีสาร THC ซึ่งให้ฤทธิ์ที่หลายคนกังวล และสารนี้มีที่ช่อดอก ฉะนั้นควรควบคุมเฉพาะส่วน อีกทั้งมีการเก็บข้อมูลว่าผู้ที่ติดเหล้า พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการติดเหล้าจำนวนหนึ่ง แต่กัญชาหากไม่เสพ จะเกิดอาการนอนไม่หลับ ปวดเนื้อปวดตัว เท่านั้น ไม่ถึงกับตาย ในอดีตมีตำรับยาแผนไทยแผนหนึ่งใช้สำหรับเลิกฝิ่น วัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบตำรับยาแผนนี้ คือ กัญชาและกระท่อมอย่างละครึ่ง จึงมองกัญชาและกระท่อมในมุมของการรักษาที่ให้ผลดีมากกว่าผลเสีย จึงไม่ควรควบคุมทั้งต้น เพื่อให้ประชาชนได้ปลูกไว้ดูแลตัวเอง ยกเว้นกรณีผู้ที่ต้องการปลูกเชิงพาณิชย์ ควรให้ขออนุญาตเพื่อควบคุมการผลิต


นายศุภชัย ระบุว่า มั่นใจว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทย ที่นำมาพิจารณาเป็นนโยบายรัฐบาล เรื่องการให้ประชาชนได้ประโยชน์จากกัญชา นำไปใช้ในทางการแพทย์ และเป็นพืชเศรษฐกิจ จะประสบผลสำเร็จ และมั่นใจว่าจะสำเร็จครบถ้วนภายในรัฐสภาชุดนี้ ซึ่งหากร่างพระราชบัญญัติยาเสพติด ไม่มีคำว่ากัญชากำหนดอยู่ด้วย หมายความว่า กัญชา ไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่

“ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย มองถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เริ่มศึกษาเรื่องกัญชาอย่างครอบคลุม เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งสามารถแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มครัวเรือนไม่ต้องขออนุญาต เพียงแค่แจ้งผู้นำชุมชน หัวหน้าหมู่บ้าน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าปลูก ที่ไหน อย่างไร เป็นลักษณะของการจดแจ้งก็พอ ส่วนกลุ่มที่ต้องการปลูกเชิงพาณิชย์ชัดเจนว่า ต้องขออนุญาตปลูก”นายศุภชัยกล่าว

นายศุภชัย ระบุด้วยว่า มั่นใจว่านายกรัฐมนตรี จะไม่เปลี่ยนความคิดนโยบายเกี่ยวกับพืชกัญชา ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล ส่วนรัฐมนตรีที่กำกับดูแลป.ป.ส. หากเห็นว่า กฎหมายระหว่างประเทศ มีความสำคัญกว่ากฎหมายของประเทศไทย ขอให้กลับไปคิดใหม่ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เพียงแต่ต้องควบคุมดูแลการใช้ เท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]