ยื่น 5 ข้อเรียกร้อง “อนุทิน” ชงเข้มปีใหม่

สธ.17 ธ.ค.- เครือข่ายเยาวชนยื่น 5 ข้อ เรียกร้อง “อนุทิน” ชงตรวจบัตรประชาชนผู้ซื้อ ตัดวงจรขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เร่งออกหลักเกณฑ์ให้ผู้ขายประเมินคนเมาขาดสติเพื่องดจำหน่าย ช่วงปีใหม่ 65 หวั่นเป็นสาเหตุทำเจ็บ – ตาย บนท้องถนน ซ้ำก่ออาชญากรรมเพียบ เสี่ยงทำเกิดคลัสเตอร์โควิดซ้ำรอยการระบาดที่ผ่านมา ลั่นพร้อมร่วมมือ จนท.จับตาคนฝ่าฝืน กม.คุมน้ำเมา


เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายจิรกิตติ์ เหมหิรัญ เลขาธิการสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาววศิณี สนแสบ แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ แกนนำเยาวชนผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน และเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง จำนวน 15 คน เข้ายื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้เร่งออกมาตรการแก้ปัญหาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และคนเมาขาดสติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เพื่อปกป้องเด็ก เยาวชน ประชาชน ลดความสูญเสียเจ็บ-ตายจากอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท อันเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายจิรกิตติ์ กล่าวว่า จากข้อมูลศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ปี 2560พบว่าประเทศไทยมีผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 28.40 %ของประชากร กลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือเด็กและเยาวชน อายุ 15-24ปี พบมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มากถึง 2.2ล้านคน คิดเป็น 23.91%หรือประมาณ 1ใน 4ของเยาวชนทั้งหมด อีกทั้งยังไม่มีแนวโน้มลดลงเลย นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนหนึ่งมีพฤติกรรมการดื่มแบบหัวราน้ำ ดื่มหนัก ดื่มแบบทิ้งตัว ปัจจัยสำคัญของการเกิดนักดื่มหน้าใหม่ คือสามารถเข้าถึงง่าย แม้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551ห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20ปี และมีโทษสูง จำคุกไม่เกิน 1ปี ปรับไม่เกิน 20,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่กลับพบผู้ประกอบการร้านเหล้า ร้านค้ารายย่อยมากกว่า96 % มีการฝ่าฝืนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็ก และคนเมาครองสติไม่ได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย


นายจิรกิตติ์ กล่าวต่อว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสาเหตุสำคัญของความสูญเสีย เจ็บ-ตายจากปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรง ทะเลาะวิวาท และปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับ ซึ่งจากข้อมูลปี2554-2563พบผู้มีอายุ 20-24ปี ดื่มแล้วขับสูงสุด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา เดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับเป็นเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ การรวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ จึงทำให้สถิติความสูญเสียที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งมีการระบาดของโรคโควิด -19 ไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขาดสติ จะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เป็นคลัสเตอร์ ดังที่มีตัวอย่างจากการระบาดในหลายระลอกที่ผ่านมา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้มงวดกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้าน นางสาววศิณี กล่าวว่า ดังนั้นวันนี้เครือข่ายฯ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอให้ดำเนินการดังนี้

  1. ขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า20ปี โดยการให้ร้านเหล้า ผับ บาร์ ร้านค้า ตรวจบัตรประชาชนผู้ซื้ออย่างเคร่งครัดเพื่อตัดวงจรการขายให้เด็ก โดยเฉพาะเมื่อดูจากสรีระร่างกายของผู้ซื้อแล้วยังไม่ชัดเจนเรื่องอายุ
  2. ขอให้กระทรวงสาธารณสุขออกหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน กรณีห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนเมาขาดสติ ที่ปฏิบัติได้จริง วัดผลได้ เพื่อรับมือการกินดื่มช่วงเทศกาลปีใหม่ ปกป้องเด็ก เยาวชน ประชาชน ลดความสูญเสียอันเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนของผู้ขายจะได้มีแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง
  3. เครือข่ายเป็นห่วงว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชาชนจะเพิ่มมากขึ้น และย่อมส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทะเลาะวิวาท สร้างความสูญเสียเจ็บตาย ตลอดจนความเสี่ยงในการตั้งวงรวมกลุ่มกินดื่มอาจนำไปสู่การเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิด-19จึงขอเรียกร้องผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งมีมาตรการเชิงรุก เป็นยาแรงเพื่อล้อมคอกก่อนเกิดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  4. ขอวิงวอนผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด หยุดหาผลประโยชน์จากเด็กและเยาวชน และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อโควิด-19
  5. ขอเชิญชวนเพื่อนเยาวชน ประชาชน ช่วยกันเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ
    “เครือข่ายฯ ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังการกระทำที่ผิดกฎหมายจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนงดตั้งวงกินดื่ม เพื่อสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงในทุกมิติ รวมถึงโควิด-19” นางสาววศิณี กล่าว

ขณะที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กล่าวภายหลังรับเรื่อง ว่า สธ.โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ให้ความสำคัญเรื่องนี้มากเพราะตระหนักดีว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุของอาชญากรรม ความรุนแรง และอุบัติเหตุทางถนน จึงได้ร่วมกับสำนักงานตำรวชแห่งชาติ กำชับทุกพื้นที่ให้ตรวจเข้มการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หากเกิดอะไรขึ้นจะมีการตรวจสอบย้อนกลับไปยังร้านที่ขาย และเอาผิดถึงผู้ปกครองด้วย


ส่วนกรณีห้ามขายให้คนเมาครองสติไม่ได้นั้น ก็จะมีการกำชับเพิ่มเติม โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด กรณีจัดงานหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการโควิด ฟรี เซตติ้ง ป้องกันตัวเองขึ้นสูงสุด และฉีดวัคซีนก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ แพร่เชื้อได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขอให้เครือข่ายฯ ช่วยเห็นหูเป็นตา หากพบการทำผิดกฎหมายสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]