ยื่น 5 ข้อเรียกร้อง “อนุทิน” ชงเข้มปีใหม่

สธ.17 ธ.ค.- เครือข่ายเยาวชนยื่น 5 ข้อ เรียกร้อง “อนุทิน” ชงตรวจบัตรประชาชนผู้ซื้อ ตัดวงจรขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เร่งออกหลักเกณฑ์ให้ผู้ขายประเมินคนเมาขาดสติเพื่องดจำหน่าย ช่วงปีใหม่ 65 หวั่นเป็นสาเหตุทำเจ็บ – ตาย บนท้องถนน ซ้ำก่ออาชญากรรมเพียบ เสี่ยงทำเกิดคลัสเตอร์โควิดซ้ำรอยการระบาดที่ผ่านมา ลั่นพร้อมร่วมมือ จนท.จับตาคนฝ่าฝืน กม.คุมน้ำเมา


เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายจิรกิตติ์ เหมหิรัญ เลขาธิการสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาววศิณี สนแสบ แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ แกนนำเยาวชนผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน และเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง จำนวน 15 คน เข้ายื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้เร่งออกมาตรการแก้ปัญหาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และคนเมาขาดสติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เพื่อปกป้องเด็ก เยาวชน ประชาชน ลดความสูญเสียเจ็บ-ตายจากอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท อันเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายจิรกิตติ์ กล่าวว่า จากข้อมูลศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ปี 2560พบว่าประเทศไทยมีผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 28.40 %ของประชากร กลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือเด็กและเยาวชน อายุ 15-24ปี พบมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มากถึง 2.2ล้านคน คิดเป็น 23.91%หรือประมาณ 1ใน 4ของเยาวชนทั้งหมด อีกทั้งยังไม่มีแนวโน้มลดลงเลย นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนหนึ่งมีพฤติกรรมการดื่มแบบหัวราน้ำ ดื่มหนัก ดื่มแบบทิ้งตัว ปัจจัยสำคัญของการเกิดนักดื่มหน้าใหม่ คือสามารถเข้าถึงง่าย แม้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551ห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20ปี และมีโทษสูง จำคุกไม่เกิน 1ปี ปรับไม่เกิน 20,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่กลับพบผู้ประกอบการร้านเหล้า ร้านค้ารายย่อยมากกว่า96 % มีการฝ่าฝืนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็ก และคนเมาครองสติไม่ได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย


นายจิรกิตติ์ กล่าวต่อว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสาเหตุสำคัญของความสูญเสีย เจ็บ-ตายจากปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรง ทะเลาะวิวาท และปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับ ซึ่งจากข้อมูลปี2554-2563พบผู้มีอายุ 20-24ปี ดื่มแล้วขับสูงสุด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา เดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับเป็นเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ การรวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ จึงทำให้สถิติความสูญเสียที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งมีการระบาดของโรคโควิด -19 ไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขาดสติ จะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เป็นคลัสเตอร์ ดังที่มีตัวอย่างจากการระบาดในหลายระลอกที่ผ่านมา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้มงวดกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้าน นางสาววศิณี กล่าวว่า ดังนั้นวันนี้เครือข่ายฯ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอให้ดำเนินการดังนี้

  1. ขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า20ปี โดยการให้ร้านเหล้า ผับ บาร์ ร้านค้า ตรวจบัตรประชาชนผู้ซื้ออย่างเคร่งครัดเพื่อตัดวงจรการขายให้เด็ก โดยเฉพาะเมื่อดูจากสรีระร่างกายของผู้ซื้อแล้วยังไม่ชัดเจนเรื่องอายุ
  2. ขอให้กระทรวงสาธารณสุขออกหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน กรณีห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนเมาขาดสติ ที่ปฏิบัติได้จริง วัดผลได้ เพื่อรับมือการกินดื่มช่วงเทศกาลปีใหม่ ปกป้องเด็ก เยาวชน ประชาชน ลดความสูญเสียอันเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในส่วนของผู้ขายจะได้มีแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง
  3. เครือข่ายเป็นห่วงว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชาชนจะเพิ่มมากขึ้น และย่อมส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทะเลาะวิวาท สร้างความสูญเสียเจ็บตาย ตลอดจนความเสี่ยงในการตั้งวงรวมกลุ่มกินดื่มอาจนำไปสู่การเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิด-19จึงขอเรียกร้องผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งมีมาตรการเชิงรุก เป็นยาแรงเพื่อล้อมคอกก่อนเกิดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  4. ขอวิงวอนผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด หยุดหาผลประโยชน์จากเด็กและเยาวชน และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อโควิด-19
  5. ขอเชิญชวนเพื่อนเยาวชน ประชาชน ช่วยกันเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ
    “เครือข่ายฯ ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังการกระทำที่ผิดกฎหมายจากการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนงดตั้งวงกินดื่ม เพื่อสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงในทุกมิติ รวมถึงโควิด-19” นางสาววศิณี กล่าว

ขณะที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กล่าวภายหลังรับเรื่อง ว่า สธ.โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ให้ความสำคัญเรื่องนี้มากเพราะตระหนักดีว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุของอาชญากรรม ความรุนแรง และอุบัติเหตุทางถนน จึงได้ร่วมกับสำนักงานตำรวชแห่งชาติ กำชับทุกพื้นที่ให้ตรวจเข้มการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หากเกิดอะไรขึ้นจะมีการตรวจสอบย้อนกลับไปยังร้านที่ขาย และเอาผิดถึงผู้ปกครองด้วย


ส่วนกรณีห้ามขายให้คนเมาครองสติไม่ได้นั้น ก็จะมีการกำชับเพิ่มเติม โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด กรณีจัดงานหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการโควิด ฟรี เซตติ้ง ป้องกันตัวเองขึ้นสูงสุด และฉีดวัคซีนก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ แพร่เชื้อได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขอให้เครือข่ายฯ ช่วยเห็นหูเป็นตา หากพบการทำผิดกฎหมายสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]