เตือนผู้ป่วย “โรคลมชัก” ไม่ควรขับรถ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ

สธ. 29 พ.ย.- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ป่วยโรคลมชัก ไม่ควรขับรถหรือใช้รถใช้ถนน อาจเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ โดยผู้ป่วยโรคดังกล่าวมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตสูงกว่าคนทั่วไปถึง 7 เท่า พร้อมแนะนำการขอใบอนุญาตขับขี่สำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ฉบับใหม่ที่แพทยสภากำหนด

วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุมีผู้ขับรถชนท้ายรถคันอื่นบริเวณแยกศิริราช กรุงเทพฯ เมื่อช่วงต้นเดืนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากตรวจสอบ พบว่าคนที่ขับรถชนมีอาการชักเกร็งจากการป่วยลมชัก ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว กรมควบคุมโรค จึงขอให้ข้อมูลว่า โรคลมชักเป็นโรคที่เกิดจากกลุ่มอาการชัก อันเนื่องมาจากการที่สมองส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดทำงานมากเกินปกติไปจากเดิมชั่วขณะ จากความผิดปกติของการส่งสัญญาณไฟฟ้าในสมอง ซึ่งมีสาเหตุหลากหลาย พบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยผู้สูงอายุ ผู้ป่วยจะมีอาการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของโรคลมชักและจุดกำเนิดในสมอง อาทิ เกร็งกระตุกทั้งตัว เหม่อ นิ่ง ไม่รู้สึกตัว พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงชั่วขณะ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสูญเสียความสามารถในการควบคุมตนเองขณะมีอาการ เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้


“ผู้ป่วยโรคลมชักมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิตสูงกว่าคนทั่วไปถึง 7 เท่า ซึ่งจากข้อมูลวิจัยในประเทศไทยพบว่า อุบัติเหตุจากการชัก เกิดในยานพาหนะชนิดรถจักรยานยนต์ร้อยละ 81.8 รถยนต์ร้อยละ 25.0 และรถจักรยานร้อยละ 6.8 ประเทศไทยมีกฎหมายบังคับให้ผู้ป่วยโรคลมชักห้ามขับรถ หากจะกลับมาขับรถได้ ผู้ป่วยโรคลมชักต้องสามารถควบคุมอาการชักได้อย่างน้อย 1 ปี ซึ่งโรคลมชักสามารถรักษาให้หายขาดและดำเนินชีวิตปกติได้ ผู้ป่วยต้องรักษาโรคลมชักอย่างต่อเนื่อง ควบคุมไม่ให้มีอาการชัก และระวังผลแทรกซ้อนจากการรักษา เช่น มีอาการเดินเซ มือสั่น ซึม หากมีอาการผิดปกติต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อปรับการรักษาให้เหมาะสม” นายแพทย์โอภาสกล่าว

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า การขอมีใบอนุญาตขับขี่สำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ฉบับใหม่ที่แพทยสภากำหนด จึงขอให้นายทะเบียนทั่วประเทศ เข้มงวดตรวจสอบลักษณะต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับขี่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสำนักงานขนส่ง ทั้งการตรวจสอบหลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ใช้ประกอบคำขอใบขับขี่ครั้งแรก ต่ออายุ เปลี่ยนชนิด หรือประเภทของใบอนุญาต ต้องเป็นใบรับรองแพทย์ตามแบบมาตรฐานที่แพทยสภารับรอง ซึ่งโรคลมชักในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ เป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองป้องกันการบาดเจ็บ โทร. 0 2590 3952 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ญาติเศร้ารับร่าง ตร.เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ

ตั้งแถวรับร่างอย่างสมเกียรติ 2 ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลำปาง และราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ด้านพ่อของ “ร.ต.อ.จตุรงค์” เผยลางบอกเหตุก่อนเครื่องบินตก ลูกมาขอนอนค้างที่บ้าน รู้ข่าวแทบช็อก

“กล้าธรรม” ขอบคุณคะแนนเสียงชาวนครฯ ลั่นพร้อมพัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้

หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรม เข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

“บิ๊กโอ” กล้าธรรม นำโด่งเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8

“บิ๊กโอ” ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม นำโด่งทิ้งห่าง “ไสว” จากภูมิใจไทย แล้วกว่าหมื่นคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8

ตำรวจได้เบาะแสสำคัญโจรชิงทอง กลางห้างฯ อุดรธานี

วงจรปิดเผยคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ก่อเหตุชิงทองมูลค่ากว่าล้านบาท กลางห้างฯ จ.อุดรธานี ล่าสุดตำรวจได้เบาะแสสำคัญ ทั้งเส้นทางหลบหนี รวมถึงพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว