หมอสุภัทร ชี้โควิดภาคใต้ ส่วนหนึ่งจากคลัสเตอร์งานศพ-งานบุญ

อสมท 16 ต.ค.-หมอสุภัทร ยันโควิดภาคใต้ขาขึ้น ส่วนหนึ่งจากคลัสเตอร์งานศพ งานบุญ ตั้งวงก๊งเหล้า วงเล่นพนัน วอนปรับวัฒนธรรมไม่กินข้าวร่วมวง ลั่นอีก 3 เดือนช่วงเวลาสำคัญ หวังยอดฉีดวัคซีนครอบคลุม


เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ร่วมกับ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน สมาคมเพื่อนเยาวชนและพัฒนาสังคมภาคใต้ตอนบน และกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชนเขต 11 สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาออนไลน์ “ถอดรหัสงานศพ-งานบุญ ภาคใต้ และการปรับตัวเพื่อหยุดคลัสเตอร์โควิด-19” โดยก่อนการเสวนามีการแสดละครออนไลน์เพื่อสะท้อนภาพงานศพ คลัสเตอร์โควิด-19 จากทีมละครรณรงค์เฉพาะกิจเธียเตอร์ ด้วย

​นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันการระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้อยู่ในขั้นวิกฤติ เช่น ที่อำเภอจะนะ มีโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง โรงพยาบาลสนามขนาด 700 เตียง เต็มทั้งหมด ยังเหลือผู้ป่วยกว่า 300 คน ที่ต้องใช้วิธีการดูแลตัวเองที่บ้าน ทั้งนี้ลักษณะของการติดเชื้อเป็นการติดเชื้อในชุมชน โดยมีกิจกรรมของชุมชนเป็นตัวแพร่เชื้อ ซึ่งงานศพเป็นหนึ่งในกิจกรรมชุมชนที่สำคัญ นอกนั้นเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ วัยรุ่นตั้งวงกินน้ำกระท่อม เป็นต้น จะเห็นว่าสถานการณ์ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างนั้นมีการระบาดตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม มีผู้ป่วยวันละ 400 – 1,000 คน จนถึงเดือนสิงหาคมสถานการณ์ยังทรงตัว แต่พอมีการคลายล็อกเมื่อวันที่ 1 กันยายน เป็นต้นมา ก็พบว่ายอดติดเชื้อใน 7 จังหวัดเพิ่มขึ้นอีก เพราะคนมีการเดินทางมากขึ้น มีการทำกิจกรรมมากขึ้น พบปะสังสรรค์กันมากขึ้น ในขณะที่จังหวัดอื่นๆยอดผู้ติดเชื้อไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก


นพ.สภัทร กล่าวต่อว่าสถานการณ์ในภาคใต้ค่อยๆ มีผู้ป่วยไต่ขึ้นเป็นลำดับและในเดือนตุลาคมนี้ถือว่าสาหัสมาก การเปิดประเทศนั้นกรณีคนต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทยไม่น่าห่วงเท่าไหร่นัก เนื่องจากมีมาตรการที่เข้มงวดมาก ทั้งให้มีการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทาง เมื่อเข้ามาถึงประเทศไทยแล้วก็ให้มีการตรวจซ้ำอีกครั้งถือว่าเป็นมาตรการที่เข้ม แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการติดเชื้อในประเทศเอง โดยเฉพาะกรณีที่จะมีการอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเดือนธันวาคม ส่วนการจัดงานศพ ตนไม่แน่ใจว่าในพื้นที่อื่นๆ นั้นมีลักษณะการจัดงานในรูปแบบใด แต่ขณะนี้ ในจังหวัดสงขลา เริ่มจะมีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการจัดงานศพ การรับประทานอาหารภายในงานจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ จานใครจานมัน หรือแจกอาหารกล่องกลับบ้าน ลักษณะเช่นนี้ ลดความเสี่ยงในการแพร่โรคได้ แต่กรณีที่ตั้งโต๊ะรับประทานอาหารร่วมกัน ถึงแม้จะมีช้อนกลาง แต่มีการพูดคุยระหว่างกัน อาจจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่โรคได้

“ต้องบอกว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะสร้างความลำบากให้เราไม่เกิน 3 เดือน ช่วงปีใหม่เราน่าจะผ่อนคลายมากขึ้น เนื่องจากฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมมากขึ้น อนาคตก็เหนื่อยน้อยลง โอกาสติดเชื้อน้อยลง หัวใจคือ 2-3 เดือนนี้ ที่การฉีดวัคซีนกำลังไต่ขึ้น การป้องกันตัวเองสำคัญ งานบุญงานศพต้องเข้มงวดมาก ตอนนี้ผมไปงานศพ ไม่ถอดหน้ากากเลย ไม่รับประทานอาหารร่วมกันในงาน เพราะต้องทำให้เป็นตัวอย่างเรื่องการป้องกันตนเอง หัวใจของการติดเชื้อคือจมูก กับปาก เมื่อทำอย่างเข้มงวด เราจะปลอดภัยสูง” นพ.สุภัทร กล่าว

นายองอาจ พรหมมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคใต้ตอนบน กล่าวว่า ทางเครือข่ายงดเหล้าให้ความสำคัญในการสร้างชุมชนต้นแบบที่เรียกกันว่า ศูนย์เรียนรู้ชุมชนงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยงมี 16 ชุมชนใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน โดยกระบวนการจะเริ่มจากการชวนคนเลิกเหล้า สู่การจัดสภาพแวดล้อมและเชื่อมกลไกนโยบาย ทั้งระดับตำบลและอำเภอ ซึ่งมีการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ตั้งแต่ระลอกแรก ทางชุมชนก็ปรับตัว ให้ความสำคัญการขับเคลื่อนงดเหล้ากับการป้องกันโควิดควบคู่กันไป เช่น การทำแปลงผักแปลงยาสมุนไพรในชุมชน การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางให้เลิกเหล้า-บุหรี่ และยกระดับชีวิตท่ามกลางวิกฤต เช่น หนุนรถพุ่มพวง


นายองอาจ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีรายงานคลัสเตอร์โควิดที่เกิดจากงานบุญ งานศพ โดยเฉพาะในวงเหล้าและวงการพนัน ทางเครือข่ายจึงให้ความสำคัญ โดยเน้นจับมือกับผู้นำชุมชน ประสานจัดงานบุญงานศพปลอดวงเหล้าวงพนัน ในชุมชนต้นแบบทั้ง 16 แห่ง อีกทั้งร่วมกันประชาสัมพันธ์สร้างกระแสผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้เกิดการตื่นตัว และตระหนักถึงความสำคัญ รวมถึงผลักดันสู่นโยบายอำเภอ ซึ่งนายอำเภอจาก 9 อำเภอใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนได้ให้การตอบรับและประกาศผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้กำกับดูแลให้ชุมชนจัดงานบุญงานศพปลอดวงเหล้าและวงพนัน ลดความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด รวมถึงลดอุบัติเหตุสร้างความปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้ยื่นข้อข้อเสนอผ่านกลไก สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เพื่อส่งผ่านไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดให้ความสำคัญและเข้มงวด ในประเด็นงานศพ งานบุญประเพณี ปลอดจากเหล้าและการพนัน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื่อโควิด 19 และลดปัญหาสังคมอื่นๆ

ขณะที่ นายธนวัฒน์ ป่ากว้าง เยาวชนผู้ป่วยโควิด-19 กล่าวว่า ตนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคําแหง ก่อนหน้านี้อยู่กรุงเทพฯ ได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัวในการช่วยเหลือเบื้องต้นนักศึกษาที่ติดเชื้อโควิด ทั้งมอบถุงยังชีพ ยารักษาโรค เบื้องต้น ต่อมาเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาตนได้กลับมาที่บ้านต่างจังหวัดเพื่อดูแลแม่ที่ป่วย และมีโอกาสได้ไปร่วมงานศพภายในพื้นที่ซึ่งต่อมาพบว่ามีผู้ติดเชื้อจากตลาดสดทุ่งสงมาร่วมงานด้วย และทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์งานศพดังกล่าวจำนวนมาก หลายครอบครัว กระจายหลายอำเภอ รวมถึงครอบครัวตนก็ติดกันหลายคนและเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ส่วนตัวก็เป็นผู้ติดเชื้อซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม

“ตอนอยู่กรุงเทพก็คิดว่ามีความเสี่ยงสูงเพราะเราต้องทำกิจกรรมที่ต้องเจอคนเยอะ ออกไปช่วยเพื่อนนักศึกษาที่ติดหรือถูกกักตัว ก็ป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ ได้กลับมาบ้านที่นครศรีธรรมราช เราคิดว่าน่าจะมีความเสี่ยงน้อยกว่ากรุงเทพฯ แต่มันไม่ใช่เลย กลับกลายเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากงานศพมีคนติดชื้อจำนวนมาก หลายครัวเรือน ดังนั้นอยากจะฝากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลงานบุญของภาคใต้อยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาตัวเอง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ตามมาตรการภาครัฐ งานศพ งานบุญ ประเพณีต่างๆ ควรเอาเฉพาะแก่นแกนสาระสำคัญของงาน ไม่เน้นคนจำนวนมาก จัดงานที่ปลอดเหล้าปลอดพนัน เราน่าจะได้บุญกุศลร่วมกันมากกว่า และยังไม่เสี่ยงติดเชื้อด้วย ขอให้ช่วยกัน เราอยู่รอดกันทุกคน” นายธนวัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]