กอนช. ชี้สัญญาณดี น้ำมีแนวโน้มลดลง ตั้งเป้าเคลียร์ใน 20 วัน

กทม. 30 ก.ย.-กอนช. แถลงสถานการณ์น้ำล่าสุด ชี้พบสัญญาณดี หลังปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ จ.นครสวรรค์ และปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักฯ มีอัตราลดลง มุ่งเร่งระบายน้ำแข่งกับอุปสรรคน้ำทะเลหนุนสูงและฝนตกอีกรอบ ตั้งเป้าคลี่คลายภายใน 20 วัน

วันนี้ (30 ก.ย. 64) ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) แถลงถึงประเด็นสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำท่วมล่าสุด ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และนายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ว่า จากการติดตามข้อมูลสถานการณ์พายุจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุที่ขนาบอยู่ทั้งสองฝั่งของประเทศไทยในปัจจุบัน จะไม่ส่งผลกระทบในระยะนี้ แต่จะยังคงมีอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดฝนตก ซึ่งจะมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ โดยระยะประมาณ 10 วันต่อจากนี้ เป็นช่วงที่จะมีฝนตกในพื้นที่ภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นช่วงที่จะมีการเร่งระบายน้ำโดยเร็ว โดยจะเร่งระบายในวันนี้ ถึง 1 ต.ค.64 และเว้นระยะในวันที่ 2-3 ต.ค.64 ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำทะเลหนุนสูง ก่อนจะเร่งระบายอย่างต่อเนื่องอีกครั้งในระหว่างวันที่ 4-8 ต.ค.64 ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกชุกในวันที่ 9-12 ต.ค.64


สำหรับประเด็นข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับมวลน้ำที่จะไหลเข้าสู่กรุงเทพมหานคร กอนช. ได้มีการติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดระดับน้ำ N.67 อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่านได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลง เช่นเดียวกับสถานการณ์บริเวณแม่น้ำปิง ที่สถานี P.17 อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเขื่อนภูมิพล ที่ปริมาณน้ำไหลผ่านมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้มวลน้ำที่จะไหลรวมกันลงสู่พื้นที่ตอนล่างน้อยลงตามลำดับ โดยจากการติดตามสถานการณ์ ณ สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ พบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและกำลังลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ มวลน้ำจาก จ.นครสวรรค์ จะไหลลงมารวมกับแม่น้ำสะแกกรัง โดยวานนี้ (29 ก.ย.64) แม่น้ำสะแกกรัง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 412 ลบ.ม./วิ แต่วันนี้ลดลงเหลือ 393 ลบ.ม./วิ ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า สถานการณ์ของทุกสถานีวัดน้ำดังกล่าวส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างสอดคล้องกัน ซึ่งบ่งบอกว่าปริมาณของน้ำที่จะไหลมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลง ส่วนทางด้านสถานการณ์บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นในอัตราไม่มากนัก โดยจากวานนี้มีอัตราไหลผ่านที่ 2,749 ลบ.ม./วิ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 2,775 ลบ.ม./วิ และจะยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จะขึ้นสู่จุดสูงสุดประมาณช่วงเย็นวันนี้หรือเช้าวันพรุ่งนี้

ดร.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า โดยปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการรักษาให้ระดับน้ำทรงตัว คือการดึงน้ำออกไปทางฝั่งตะวันตก ผ่านคลองมะขามเฒ่าอู่ทอง และแม่น้ำท่าจีน ไปยัง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งช่วยตัดยอดน้ำออกไปได้ในปริมาณมาก โดยวานนี้ มีการผันน้ำเข้าทางฝั่งตะวันตก 254 ลบ.ม./วิ และเพิ่มขึ้นในวันนี้ที่อัตรา 303 ลบ.ม./วิ ซึ่งเป็นผลจากการปฏิบัติงาน โดยทีม กอนช. ซึ่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินสำรวจทุ่งรับน้ำ และพบว่าพื้นที่ลุ่มต่ำในบริเวณฝั่งตะวันตกยังคงมีช่องว่างมากเพียงพอสำหรับรองรับน้ำได้ อย่างไรตาม การผันน้ำอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในระหว่างการเพาะปลูกและยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ซึ่งวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน เร่งตรวจสอบและดูแลทั้งชุมชนและพื้นที่การเกษตรในช่วงก่อนมวลน้ำไหลจะเข้าไปในพื้นที่ในส่วนของฝั่งตะวันออก วานนี้น้ำได้ไหลเข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งได้กลับมาเพิ่มการระบายอีกครั้งหลังจากก่อนหน้าที่ลดการระบายลง เนื่องจากพบว่า บริเวณ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ยังคงมีช่องว่างสำหรับรองรับน้ำได้เพียงพอ โดยน้ำจากการระบายจะไหลผ่าน จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง ก่อนจะเข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดย จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตราที่เพิ่มขึ้นในระยะ 3-4 วัน ข้างหน้านี้ และสถานการณ์จะทรงตัวเช่นนี้อีกประมาณ 7 วัน


“สำหรับสถานการณ์ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้มีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น โดยมีการระบายในอัตรา 1,200 ลบ.ม./วิ เนื่องจากจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้ระดับน้ำไหลผ่านสันทางระบายน้ำล้น (Spillway) อย่างไรก็ตาม กอนช. ได้ประสานกับทางกรมชลประทาน ในการลดอัตราการระบายลงตั้งแต่วันนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการทยอยระบายน้ำจากแม่น้ำป่าสักออกไปก่อนในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อัตราน้ำที่ไหลเข้ามีปริมาณลดลงแล้ว โดยขณะนี้เหลือมวลน้ำอีกราว 400 ล้าน ลบ.ม. ที่จะไหลเข้ามาในเขื่อนเพิ่มเติม โดยระดับน้ำบริเวณท้ายเขื่อนป่าสักฯ จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ และภายหลังน้ำในเขื่อนป่าสักฯ ลดลงแล้ว ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักก็จะลดลงตามลำดับภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์” ดร.สมเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเร่งระบายน้ำออกทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เพื่อรักษาระดับน้ำที่จะปล่อยผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาและเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในระดับคงที่และไม่สูงมากจนเกินไปนัก โดยจะเร่งรัดการระบายน้ำให้คลี่คลายภายใน 20 วัน พร้อมกันนี้ กอนช. ได้มีการประกาศเฝ้าระวังและดูแลในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ปริมาณน้ำจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ได้ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคเหนือได้กว่า 1,800 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กว่า 1,200 ล้าน ลบ.ม. และในภาคกลาง กว่า 700 ล้าน ลบ.ม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]