ททท. ประกาศผล Travel Content Contest ส่งเสริมท่องเที่ยวไทย

สำนักข่าวไทย 20 ก.ย.- ททท. ร่วมกับ ม. ศิลปากร ประกาศผลและจัดพิธีมอบรางวัล การประกวดเนื้อหาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ททท.      และคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัลการประกวดโครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest   ถ่ายทอดผ่านช่องทางออนไลน์  www.facebook.com/7GreensThailand และ www.facebook.com/Tourismproducts


นายยุทธศักดิ์ สุภสร  ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย (Creative Content Creation for Thailand Tourism Promotion) โดยความร่วมมือระหว่าง ททท. กับมหาวิทยาลัยศิลปากร มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบที่หลากหลาย    สร้างคุณค่าและกระจายการเดินทางท่องเที่ยวเชิงพื้นที่และช่วงเวลา ก่อเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง BCG Economy Model ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอด ตอบสนองพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ซึ่งโครงการดังกล่าวแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่  1. การผลิตเนื้อหา (Content) โดยมหาวิทยาลัยศิลปาการได้จัดทำและสร้างสรรค์ Content ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) ด้วยองค์ความรู้และสาระข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทรัพยากรการท่องเที่ยวของชาติ อีกทั้งยังหวังผลให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนนำไปใช้ในการจัดทำ Content Marketing เส้นทางส่งเสริมการขายทางการตลาดได้อีกทางหนึ่ง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน  2. การจัดประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดทำเนื้อหา Content ประกอบภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก และได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพิจารณาและตัดสิน ซึ่งขอขอบคุณในความร่วมมือของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่ได้ร่วมดำเนินการโครงการมาจนสำเร็จและลุล่วงตามวัตถุประสงค์ และขอแสดงความยินดีแก่ผู้ส่งผลงานและได้รับรางวัลในครั้งนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานโครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย มหาวิทยาลัยศิลปากรได้สร้างคุณค่าและองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยว ทักษะด้านศิลปวัฒนธรรม โดยคณะอาจารย์ บุคลากร และผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารข้อมูลการท่องเที่ยว ได้ร่วมกันรังสรรค์ผลงานจัดทำเนื้อหา Content ทางด้านการท่องเที่ยว สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) รวมจำนวน 106 ผลงาน ตามประเภทสินค้าทางการท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ พื้นที่วัฒนธรรม ทัศนศิลป์ สถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์ แฟชั่น และอาหาร เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานคุณค่าเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และวิถีไทย ส่วนการจัดประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์ค์เพื่อส่งเสวริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest ได้รับความสนใจจากภาคประชาชนในการส่งผลงานเข้าประกวด รวมจำนวน 505 ผลงาน ซึ่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ททท. และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัลประเภทต่างๆ โดยได้นำส่งผลงานทั้งหมดให้แก่ ททท. เพื่อเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลสู่สาธารณะ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ คุณค่าของการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว มรดกทางวัฒนธรรม ศิลปะ การออกแบบ และการบริการ ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดทางการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย


สำหรับผลการประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย แบ่งตามประเภทผลงานที่ได้รับรางวัล ดังนี้  1. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย

รางวัลชนะเลิศ : นายสุชาติ เกื้อทาน

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายมนูญ พงศ์พันธุ์พัฒน์


รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายกัญจน์ภูมิ จันทราทิพย์

2. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

รางวัลชนะเลิศ : นายธนัชพงศ์ ไชยธรรมวัฒน์

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาวอัญชลี ปรีเปรม

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายกฤษณากร มณีรัตน์

3. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ

รางวัลชนะเลิศ : นายพิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายพิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นางสาวอัญชลี ปรีเปรม

4. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย

รางวัลชนะเลิศ : นายภควัต ทองเจริญ

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาวอุษา สุดประเสริฐ

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายวิษณุรักษ์ ศรีบัณฑิต

5. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

รางวัลชนะเลิศ : นายกฤตานนท์ ทศกูล

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายพงศภัค คลังสุภา

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายมารุต ภาเพา

6. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่อเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย ได้แก่ นายรณพร เมนปรีดา

7. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ นางสาวอิสราพร มโนธรรมพิทักษ์

8. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ ได้แก่    นายวิเชียร เพ็ชรไม้

9. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย ได้แก่ นายภควัต ทองเจริญ

10. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ นายกฤตานนท์ ทศกูล

11. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ ได้แก่     นางสาวสุพิชฌาย์ อุตเรือน

   

รางวัลชนะเลิศ (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท Voucher ที่พักมูลค่า 3,000 บาท โล่ประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท Voucher ที่พักมูลค่า 3,000 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,500 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

ทั้งนี้ ผลงานที่ได้รับรางวัลและผลงานที่ผ่านการคัดเลือกกว่า 500 ชิ้น จะจัดเก็บเป็นคลังข้อมูลทางการท่องเที่ยวในรูปแบบ Crowdsourcing โดย ททท. ได้จัดแสดงผลงานการประกวด Travel Content Contest และ Product Showcase นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตามเทรนด์ใหม่ๆ ซึ่งสามารถเข้าชมได้ในรูปแบบ Virtual Event ออนไลน์บน www.tourismthailand.org/travelcontentcontest ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย