ททท. ประกาศผล Travel Content Contest ส่งเสริมท่องเที่ยวไทย

สำนักข่าวไทย 20 ก.ย.- ททท. ร่วมกับ ม. ศิลปากร ประกาศผลและจัดพิธีมอบรางวัล การประกวดเนื้อหาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ททท.      และคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัลการประกวดโครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest   ถ่ายทอดผ่านช่องทางออนไลน์  www.facebook.com/7GreensThailand และ www.facebook.com/Tourismproducts


นายยุทธศักดิ์ สุภสร  ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย (Creative Content Creation for Thailand Tourism Promotion) โดยความร่วมมือระหว่าง ททท. กับมหาวิทยาลัยศิลปากร มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบที่หลากหลาย    สร้างคุณค่าและกระจายการเดินทางท่องเที่ยวเชิงพื้นที่และช่วงเวลา ก่อเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง BCG Economy Model ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอด ตอบสนองพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ซึ่งโครงการดังกล่าวแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่  1. การผลิตเนื้อหา (Content) โดยมหาวิทยาลัยศิลปาการได้จัดทำและสร้างสรรค์ Content ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) ด้วยองค์ความรู้และสาระข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทรัพยากรการท่องเที่ยวของชาติ อีกทั้งยังหวังผลให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนนำไปใช้ในการจัดทำ Content Marketing เส้นทางส่งเสริมการขายทางการตลาดได้อีกทางหนึ่ง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน  2. การจัดประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดทำเนื้อหา Content ประกอบภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก และได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพิจารณาและตัดสิน ซึ่งขอขอบคุณในความร่วมมือของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่ได้ร่วมดำเนินการโครงการมาจนสำเร็จและลุล่วงตามวัตถุประสงค์ และขอแสดงความยินดีแก่ผู้ส่งผลงานและได้รับรางวัลในครั้งนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานโครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย มหาวิทยาลัยศิลปากรได้สร้างคุณค่าและองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยว ทักษะด้านศิลปวัฒนธรรม โดยคณะอาจารย์ บุคลากร และผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารข้อมูลการท่องเที่ยว ได้ร่วมกันรังสรรค์ผลงานจัดทำเนื้อหา Content ทางด้านการท่องเที่ยว สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) รวมจำนวน 106 ผลงาน ตามประเภทสินค้าทางการท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ พื้นที่วัฒนธรรม ทัศนศิลป์ สถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์ แฟชั่น และอาหาร เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานคุณค่าเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และวิถีไทย ส่วนการจัดประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์ค์เพื่อส่งเสวริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest ได้รับความสนใจจากภาคประชาชนในการส่งผลงานเข้าประกวด รวมจำนวน 505 ผลงาน ซึ่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ททท. และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัลประเภทต่างๆ โดยได้นำส่งผลงานทั้งหมดให้แก่ ททท. เพื่อเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลสู่สาธารณะ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ คุณค่าของการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว มรดกทางวัฒนธรรม ศิลปะ การออกแบบ และการบริการ ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดทางการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย


สำหรับผลการประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย แบ่งตามประเภทผลงานที่ได้รับรางวัล ดังนี้  1. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย

รางวัลชนะเลิศ : นายสุชาติ เกื้อทาน

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายมนูญ พงศ์พันธุ์พัฒน์


รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายกัญจน์ภูมิ จันทราทิพย์

2. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

รางวัลชนะเลิศ : นายธนัชพงศ์ ไชยธรรมวัฒน์

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาวอัญชลี ปรีเปรม

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายกฤษณากร มณีรัตน์

3. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ

รางวัลชนะเลิศ : นายพิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายพิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นางสาวอัญชลี ปรีเปรม

4. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย

รางวัลชนะเลิศ : นายภควัต ทองเจริญ

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาวอุษา สุดประเสริฐ

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายวิษณุรักษ์ ศรีบัณฑิต

5. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

รางวัลชนะเลิศ : นายกฤตานนท์ ทศกูล

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายพงศภัค คลังสุภา

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายมารุต ภาเพา

6. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่อเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย ได้แก่ นายรณพร เมนปรีดา

7. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ นางสาวอิสราพร มโนธรรมพิทักษ์

8. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ ได้แก่    นายวิเชียร เพ็ชรไม้

9. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย ได้แก่ นายภควัต ทองเจริญ

10. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ นายกฤตานนท์ ทศกูล

11. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ ได้แก่     นางสาวสุพิชฌาย์ อุตเรือน

   

รางวัลชนะเลิศ (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท Voucher ที่พักมูลค่า 3,000 บาท โล่ประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท Voucher ที่พักมูลค่า 3,000 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,500 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

ทั้งนี้ ผลงานที่ได้รับรางวัลและผลงานที่ผ่านการคัดเลือกกว่า 500 ชิ้น จะจัดเก็บเป็นคลังข้อมูลทางการท่องเที่ยวในรูปแบบ Crowdsourcing โดย ททท. ได้จัดแสดงผลงานการประกวด Travel Content Contest และ Product Showcase นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตามเทรนด์ใหม่ๆ ซึ่งสามารถเข้าชมได้ในรูปแบบ Virtual Event ออนไลน์บน www.tourismthailand.org/travelcontentcontest ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]