ททท. ประกาศผล Travel Content Contest ส่งเสริมท่องเที่ยวไทย

สำนักข่าวไทย 20 ก.ย.- ททท. ร่วมกับ ม. ศิลปากร ประกาศผลและจัดพิธีมอบรางวัล การประกวดเนื้อหาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ททท.      และคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัลการประกวดโครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest   ถ่ายทอดผ่านช่องทางออนไลน์  www.facebook.com/7GreensThailand และ www.facebook.com/Tourismproducts


นายยุทธศักดิ์ สุภสร  ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย (Creative Content Creation for Thailand Tourism Promotion) โดยความร่วมมือระหว่าง ททท. กับมหาวิทยาลัยศิลปากร มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบที่หลากหลาย    สร้างคุณค่าและกระจายการเดินทางท่องเที่ยวเชิงพื้นที่และช่วงเวลา ก่อเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง BCG Economy Model ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอด ตอบสนองพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ซึ่งโครงการดังกล่าวแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่  1. การผลิตเนื้อหา (Content) โดยมหาวิทยาลัยศิลปาการได้จัดทำและสร้างสรรค์ Content ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) ด้วยองค์ความรู้และสาระข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทรัพยากรการท่องเที่ยวของชาติ อีกทั้งยังหวังผลให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนนำไปใช้ในการจัดทำ Content Marketing เส้นทางส่งเสริมการขายทางการตลาดได้อีกทางหนึ่ง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน  2. การจัดประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดทำเนื้อหา Content ประกอบภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก และได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพิจารณาและตัดสิน ซึ่งขอขอบคุณในความร่วมมือของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่ได้ร่วมดำเนินการโครงการมาจนสำเร็จและลุล่วงตามวัตถุประสงค์ และขอแสดงความยินดีแก่ผู้ส่งผลงานและได้รับรางวัลในครั้งนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงานโครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย มหาวิทยาลัยศิลปากรได้สร้างคุณค่าและองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยว ทักษะด้านศิลปวัฒนธรรม โดยคณะอาจารย์ บุคลากร และผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารข้อมูลการท่องเที่ยว ได้ร่วมกันรังสรรค์ผลงานจัดทำเนื้อหา Content ทางด้านการท่องเที่ยว สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) รวมจำนวน 106 ผลงาน ตามประเภทสินค้าทางการท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ พื้นที่วัฒนธรรม ทัศนศิลป์ สถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์ แฟชั่น และอาหาร เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานคุณค่าเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และวิถีไทย ส่วนการจัดประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์ค์เพื่อส่งเสวริมการท่องเที่ยวไทย Travel Content Contest ได้รับความสนใจจากภาคประชาชนในการส่งผลงานเข้าประกวด รวมจำนวน 505 ผลงาน ซึ่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ททท. และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัลประเภทต่างๆ โดยได้นำส่งผลงานทั้งหมดให้แก่ ททท. เพื่อเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลสู่สาธารณะ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ คุณค่าของการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว มรดกทางวัฒนธรรม ศิลปะ การออกแบบ และการบริการ ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดทางการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย


สำหรับผลการประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย แบ่งตามประเภทผลงานที่ได้รับรางวัล ดังนี้  1. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย

รางวัลชนะเลิศ : นายสุชาติ เกื้อทาน

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายมนูญ พงศ์พันธุ์พัฒน์


รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายกัญจน์ภูมิ จันทราทิพย์

2. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

รางวัลชนะเลิศ : นายธนัชพงศ์ ไชยธรรมวัฒน์

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาวอัญชลี ปรีเปรม

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายกฤษณากร มณีรัตน์

3. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ

รางวัลชนะเลิศ : นายพิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายพิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นางสาวอัญชลี ปรีเปรม

4. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย

รางวัลชนะเลิศ : นายภควัต ทองเจริญ

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาวอุษา สุดประเสริฐ

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายวิษณุรักษ์ ศรีบัณฑิต

5. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

รางวัลชนะเลิศ : นายกฤตานนท์ ทศกูล

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นายพงศภัค คลังสุภา

รองชนะเลิศอันดับ 2 : นายมารุต ภาเพา

6. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่อเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย ได้แก่ นายรณพร เมนปรีดา

7. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ นางสาวอิสราพร มโนธรรมพิทักษ์

8. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่าย แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ ได้แก่    นายวิเชียร เพ็ชรไม้

9. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย ได้แก่ นายภควัต ทองเจริญ

10. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ได้แก่ นายกฤตานนท์ ทศกูล

11. รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทวิดีโอ แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ ได้แก่     นางสาวสุพิชฌาย์ อุตเรือน

   

รางวัลชนะเลิศ (Excellent Awards) ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท Voucher ที่พักมูลค่า 3,000 บาท โล่ประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท Voucher ที่พักมูลค่า 3,000 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,500 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

รางวัลยอดนิยม (Popular Awards) ประเภทภาพถ่ายและประเภทวิดีโอ จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท เกียรติบัตร และของที่ระลึก

ทั้งนี้ ผลงานที่ได้รับรางวัลและผลงานที่ผ่านการคัดเลือกกว่า 500 ชิ้น จะจัดเก็บเป็นคลังข้อมูลทางการท่องเที่ยวในรูปแบบ Crowdsourcing โดย ททท. ได้จัดแสดงผลงานการประกวด Travel Content Contest และ Product Showcase นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตามเทรนด์ใหม่ๆ ซึ่งสามารถเข้าชมได้ในรูปแบบ Virtual Event ออนไลน์บน www.tourismthailand.org/travelcontentcontest ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]