08 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล การเผาเพื่อการเกษตรมีจุดประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งการกำจัดเศษซากพืชหลังการเก็บเกี่ยว กำจัดวัชพืช กำจัดแมลงศัตรูพืช หรือเตรียมพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกในฤดูถัดไป ในประเทศไทยพบว่ามีการเผาทางการเกษตรในไร่ข้าวนาปรังมากที่สุด รองลงมาคือ ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด และไร่ข้าวนาปี แม้การเผาพืชผลจะให้ประโยชน์ทางการเกษตรทันที แต่ก็ต้องแลกมาด้วยต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพต่อประชาชน จากมลพิษของฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 ที่สามารถแทรกซึมลึกเข้าไปในปอดและเข้าสู่กระแสเลือด นำไปสู่สาเหตุการเกิดโรคหลากหลายชนิด ทั้งโรคทางเดินหายใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็งปอด และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ผลการศึกษาระหว่างปี 2003-2019 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications พบว่า ผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากการเผาเพื่อการเกษตรในประเทศอินเดีย มีความสัมพันธ์ต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของผู้คนระหว่าง 44,000 ถึง 98,000 ราย ในปี 2023 มีรายงานพบว่าคนไทยจำนวน 2 ล้านราย ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากมลพิษทางอากาศ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับฤดูการเผาเพื่อการเกษตรในระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว การเผาเพื่อการเกษตรอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดต่อการทำเกษตรกรรมอีกด้วย […]