กทม.เปิดแผนรับมือ 8 จุดเสี่ยงน้ำท่วมถนนสายหลัก

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – กทม.เปิดแผนรับมือ 8 จุดเสี่ยงน้ำท่วมถนนสายหลัก เร่งปรับปรุงระบบระบายน้ำใหม่ เตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้


นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาและปรับปรุงระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร เพื่อแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วม บริเวณ 8 จุดเสี่ยงสำคัญ ในพื้นที่ 5 เขต

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการส่งการบ้านให้ชาวกรุงฯ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงฝนหนักของปีนี้ว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับปรุงระบบระบายน้ำในถนนสายหลัก เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างไรบ้าง โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครมีปัญหาน้ำท่วม รวม 737 จุด แบ่งเป็น ปัญหาน้ำท่วมจากน้ำเหนือน้ำหนุน 120 จุด และปัญหาน้ำท่วมจากน้ำฝน 617 จุด


จากการวิเคราะห์ข้อมูลในปี 2565 พื้นที่ กทม.มีปริมาณฝนรวม 2,355.5 มิลลิเมตร มากกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี (พ.ศ.2534-2563) คิดเป็น 40 % โดยเฉพาะเดือนกันยายน ปริมาณฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานครมากถึง 801.5 มิลลิเมตร สูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ของเดือนกันยายน ถึง 2.48 เท่า ซึ่งมากกว่าศักยภาพของระบบการระบายน้ำ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงมอบนโยบายให้สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตร่วมกันถอดบทเรียนจากสถานการณ์น้ำท่วมปีดังกล่าว

สำหรับ 8 จุดที่มาลงพื้นที่ในวันนี้ ถือเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมที่สำคัญ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงแก้ไขระบบระบายน้ำ พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้หลายโครงการได้ดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ 8 จุดเสี่ยง ประกอบด้วย 1. บ่อสูบน้ำคูน้ำสารวัตรทหารที่ 11 เขตราชเทวี 2.ถนนพระรามที่ 9 บริเวณแยก อสมท. เขตห้วยขวาง 3.ถนนรัชดาภิเษก ช่วงบริเวณหน้าศาลอาญา เขตจตุจักร 4.ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงวงเวียนบางเขน เขตบางเขน 5.ทำนบกั้นน้ำคลองลำผักชี ข้างตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน
6.ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าอาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) เขตหลักสี่ 7.โครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา 5 ธันวาคม 2550 กับถนนประชาชื่น (ถนนหมายเลข 10) เขตหลักสี่ และ 8. ถนนแจ้งวัฒนะ ซอยแจ้งวัฒนะ 14 บริเวณบึงสีกัน เขตหลักสี่

สำหรับโครงการไฮไลท์วันนี้ ที่ดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเดินหน้ารับใช้ชาวกรุงแบบ 100% แล้ว อาทิ แก้มลิง วงเวียนบางเขน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณซอย 2, 4 (ดำเนินการแล้วเสร็จ) ด้วยขนาดกักเก็บน้ำ 6,000 ลบ.ม. เพื่อเก็บกักและพักน้ำไว้ชั่วคราว ขณะฝนตกหนัก เพราะพื้นที่บริเวณ วงเวียนบางเขนประสบปัญหาน้ำท่วมขังเมื่อเกิดฝนตกหนัก ที่ถนนพหลโยธิน และ ถนนรามอินทรา นอกจากนี้ยังมีการทำเลนวิ่งรอบบริเวณแก้มลิงเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้งานเพื่อการออกกำลังกายและการพักผ่อนด้วย


​พื้นที่บริเวณวงเวียนบางเขนประสบปัญหาน้ำท่วมขังเมื่อเกิดฝนตกหนัก ที่ถนนพหลโยธิน และถนนรามอินทรา เนื่องจากระบบระบายน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำได้ทำ MOU ร่วมกับกรมทางหลวงขออนุญาตใช้พื้นที่ในเขตทางหลวงเพื่อก่อสร้างเป็นแก้มลิง เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ดังกล่าว โดยก่อสร้างแก้มลิงมีขนาดกักเก็บน้ำ 6,000 ลบ.ม. เพื่อเก็บกักและพักน้ำไว้ชั่วคราว ขณะฝนตกหนัก ถนนพหลโยธิน ถนนรามอินทรา และระบายน้ำลงรางอ้อรางแก้ว ลงสู่คลองบางเขนต่อไป

​นอกจากนี้ยังมีการเลนวิ่งรอบบริเวณแก้มลิงเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้งานเพื่อการออกกำลังกายและการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ 100%

อีกจุดหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมที่มีมาอย่างยาวนานได้ คือ บ่อสูบน้ำถนนพระรามที่ 9 ตอนลำรางแยก อสมท. ซอยทวีมิตร ซึ่งเป็นซอยเอกชนที่มีระดับต่ำกว่าถนนพระรามที่ 9 เมื่อฝนตกหนักจึงมักประสบปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบาย ส่งผลกระทบกับผู้อาศัยและสัญจรในพื้นที่จำนวนมาก สำนักการระบายน้ำจึงดำเนินการปรับปรุง บ่อสูบน้ำดังกล่าวเป็นบ่อสูบน้ำถาวร เพื่อรองรับระบบระบายน้ำของชุมชนหมู่บ้านในซอยทวีมิตร ซึ่งได้ให้ความร่วมมือพัฒนาระบบระบายน้ำของตนเองมาเชื่อมโยงเข้ากับระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร ถือเป็น “โมเดลต้นแบบ” ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมร่วมกันของกทม.กับเอกชนอีกแห่งหนึ่ง

อีก 2 โครงการที่ดำเนินการใกล้แล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบภายใน ก.ค. 67 คือ บ่อสูบน้ำคูน้ำสารวัตรทหารที่ 11ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้โดยรอบเป็นชุมชนเมืองที่มีความหนาแน่นสูง และมีสถานที่ราชการและโรงพยาบาลที่สำคัญอยู่จำนวนมาก ท่อระบายน้ำเดิมมีขนาดไม่เพียงพอ จึงเกิดโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ด้วยวิธีดัน (Pipe Jacking) และรางระบายน้ำ แม้จะติดอุปสรรคหลายด้าน แต่ขณะนี้เดินทางมาถึง 90% จะแล้วเสร็จเดือน ก.ค. 67
เช่นเดียวกับ การก่อสร้างท่อลอดถนนรัชดาภิเษก และแผนการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การก่อสร้างบ่อสูบน้ำศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตอนลงคลองบางตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าศูนย์ราชการฯ และงานก่อสร้างถนนหมายเลข 10 และระบบระบายน้ำ รางระบายน้ำ O – Gutter ในโครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา 5 ธันวาคม 2550 กับถนนประชาชื่น ก็จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 67 เช่นกัน

อีกจุดที่พบปัญหาเป็นประจำคือ บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ซอยแจ้งวัฒนะ 14 บริเวณบึงสีกัน โดยได้ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างแก้มลิงบึงสีกัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซอยแจ้งวัฒนะ 14 (ผลการดำเนินการ 10% กำหนดแล้วเสร็จ ก.พ. 68) (ระบบชั่วคราวแล้วเสร็จ ส.ค. 67)

​ซอยแจ้งวัฒนะ 14 ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังในซอยแจ้งวัฒนะ 14 โดยเฉพาะพื้นที่หมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์และพื้นที่หมู่บ้านเกษตรนิเวศน์ เนื่องจากระบบระบายน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำ เดิมบึงสีกันเป็นพื้นที่เอกชนไม่มีระบบบริหารจัดการน้ำ สำนักการระบายน้ำจึงดำเนินการปรับปรุงแก้มลิงบึงสีกัน เพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำภายในบึงสีกันโดยสามารถบริหารจัดการเป็นแก้มลิงรองรับน้ำส่วนเกินสามารถกักเก็บน้ำฝนไว้ในแก้มลิงได้ 150,000 ลบ.ม. ช่วยพักน้ำฝนที่ตกลงสู่พื้นที่ไว้ชั่วคราว และระบายน้ำลงคลองบางพูด คลองตาอูฐ ลงสู่คลองเปรมประชากรต่อไป โดยพื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 1.63 ตร.กม. คิดเป็นประมาณ 1,200 ครัวเรือน ครอบคลุมซอยแจ้งวัฒนะ 14 พื้นที่หมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์ พื้นที่หมู่บ้านเกษตรนิเวศน์ หมู่บ้านชวนชื่นหมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ วิภาวดี –แจ้งวัฒนะ ซอยโกสุมรวมใจ และถนนวัดเวฬุวนารามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง ผลงาน 10% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยระบบชั่วคราวเพื่อการพร้องน้ำและการระบายน้ำออกจากบึงสีกันจะสามารถใช้งานได้ภายในเดือนสิงหาคม 2567 นี้

รองผู้ว่าฯ กทม.ยังเปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำของกรุงเทพมหานคร ปี 67 ภาพรวมขณะนี้กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดปริมาณฝนที่สำนักการระบายน้ำได้ 530.5 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ประมาณ 20 % (ค่าเฉลี่ย 30 ปี ของสำนักการระบายน้ำ 670.8 มิลลิเมตร)

​ประกอบกับสถานการณ์ เอนโซ ที่จะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะลานีญา ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2567 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และจะต่อเนื่องไปจนถึงกุมภาพันธ์ 2568 จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นรวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งต้องเฝ้าระวังและติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาโดยเฉพาะเดือน สิงหาคม กันยายนและตุลาคม คาดว่าฝนจะตกเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ กทม.ยังได้พร่องน้ำตามลำคลองต่างๆ และแม้ว่ากทม.จะต้องรับมือกับปริมาณฝน ที่จะมีโอกาสตกหนักมากเป็นหย่อมส่วแต่ก็ต้องพร้อมสำหรับการบริหารจัดการน้ำเหนือที่จะมาด้วย ซึ่งก็มีการพูดคุยประชุมร่วมกันทุกเดือนกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช. ที่เป็นหน่วยงานหลักบริหารจัดการน้ำ

“ทั้ง 8 โครงการที่นำมาส่งการบ้านชาวกรุงฯ ในวันนี้ ทุกโครงการล้วนประสบปัญหาแตกต่างกันไป บ้างต้องเจรจากับหลายฝ่ายที่ต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน บ้างต้องจัดการกับสาธารณูปโภคที่ทับซ้อนกัน บางพื้นที่ไม่ใช่ของ กทม.บางโครงการมีการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนจนเกิดเป็นโมเดลการบูรณาการใหม่ ๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ หัวใจคือ เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง รูปแบบ วิธีการ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ของระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวกรุงเทพมหานคร ได้อย่างยั่งยืน“ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​