กทม.เปิดแผนรับมือ 8 จุดเสี่ยงน้ำท่วมถนนสายหลัก

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – กทม.เปิดแผนรับมือ 8 จุดเสี่ยงน้ำท่วมถนนสายหลัก เร่งปรับปรุงระบบระบายน้ำใหม่ เตรียมพร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้


นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาและปรับปรุงระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร เพื่อแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วม บริเวณ 8 จุดเสี่ยงสำคัญ ในพื้นที่ 5 เขต

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการส่งการบ้านให้ชาวกรุงฯ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงฝนหนักของปีนี้ว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับปรุงระบบระบายน้ำในถนนสายหลัก เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างไรบ้าง โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครมีปัญหาน้ำท่วม รวม 737 จุด แบ่งเป็น ปัญหาน้ำท่วมจากน้ำเหนือน้ำหนุน 120 จุด และปัญหาน้ำท่วมจากน้ำฝน 617 จุด


จากการวิเคราะห์ข้อมูลในปี 2565 พื้นที่ กทม.มีปริมาณฝนรวม 2,355.5 มิลลิเมตร มากกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี (พ.ศ.2534-2563) คิดเป็น 40 % โดยเฉพาะเดือนกันยายน ปริมาณฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานครมากถึง 801.5 มิลลิเมตร สูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ของเดือนกันยายน ถึง 2.48 เท่า ซึ่งมากกว่าศักยภาพของระบบการระบายน้ำ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงมอบนโยบายให้สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตร่วมกันถอดบทเรียนจากสถานการณ์น้ำท่วมปีดังกล่าว

สำหรับ 8 จุดที่มาลงพื้นที่ในวันนี้ ถือเป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมที่สำคัญ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงแก้ไขระบบระบายน้ำ พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้หลายโครงการได้ดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ 8 จุดเสี่ยง ประกอบด้วย 1. บ่อสูบน้ำคูน้ำสารวัตรทหารที่ 11 เขตราชเทวี 2.ถนนพระรามที่ 9 บริเวณแยก อสมท. เขตห้วยขวาง 3.ถนนรัชดาภิเษก ช่วงบริเวณหน้าศาลอาญา เขตจตุจักร 4.ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงวงเวียนบางเขน เขตบางเขน 5.ทำนบกั้นน้ำคลองลำผักชี ข้างตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน
6.ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าอาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) เขตหลักสี่ 7.โครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา 5 ธันวาคม 2550 กับถนนประชาชื่น (ถนนหมายเลข 10) เขตหลักสี่ และ 8. ถนนแจ้งวัฒนะ ซอยแจ้งวัฒนะ 14 บริเวณบึงสีกัน เขตหลักสี่

สำหรับโครงการไฮไลท์วันนี้ ที่ดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเดินหน้ารับใช้ชาวกรุงแบบ 100% แล้ว อาทิ แก้มลิง วงเวียนบางเขน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณซอย 2, 4 (ดำเนินการแล้วเสร็จ) ด้วยขนาดกักเก็บน้ำ 6,000 ลบ.ม. เพื่อเก็บกักและพักน้ำไว้ชั่วคราว ขณะฝนตกหนัก เพราะพื้นที่บริเวณ วงเวียนบางเขนประสบปัญหาน้ำท่วมขังเมื่อเกิดฝนตกหนัก ที่ถนนพหลโยธิน และ ถนนรามอินทรา นอกจากนี้ยังมีการทำเลนวิ่งรอบบริเวณแก้มลิงเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้งานเพื่อการออกกำลังกายและการพักผ่อนด้วย


​พื้นที่บริเวณวงเวียนบางเขนประสบปัญหาน้ำท่วมขังเมื่อเกิดฝนตกหนัก ที่ถนนพหลโยธิน และถนนรามอินทรา เนื่องจากระบบระบายน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำได้ทำ MOU ร่วมกับกรมทางหลวงขออนุญาตใช้พื้นที่ในเขตทางหลวงเพื่อก่อสร้างเป็นแก้มลิง เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ดังกล่าว โดยก่อสร้างแก้มลิงมีขนาดกักเก็บน้ำ 6,000 ลบ.ม. เพื่อเก็บกักและพักน้ำไว้ชั่วคราว ขณะฝนตกหนัก ถนนพหลโยธิน ถนนรามอินทรา และระบายน้ำลงรางอ้อรางแก้ว ลงสู่คลองบางเขนต่อไป

​นอกจากนี้ยังมีการเลนวิ่งรอบบริเวณแก้มลิงเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาใช้งานเพื่อการออกกำลังกายและการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ 100%

อีกจุดหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมที่มีมาอย่างยาวนานได้ คือ บ่อสูบน้ำถนนพระรามที่ 9 ตอนลำรางแยก อสมท. ซอยทวีมิตร ซึ่งเป็นซอยเอกชนที่มีระดับต่ำกว่าถนนพระรามที่ 9 เมื่อฝนตกหนักจึงมักประสบปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบาย ส่งผลกระทบกับผู้อาศัยและสัญจรในพื้นที่จำนวนมาก สำนักการระบายน้ำจึงดำเนินการปรับปรุง บ่อสูบน้ำดังกล่าวเป็นบ่อสูบน้ำถาวร เพื่อรองรับระบบระบายน้ำของชุมชนหมู่บ้านในซอยทวีมิตร ซึ่งได้ให้ความร่วมมือพัฒนาระบบระบายน้ำของตนเองมาเชื่อมโยงเข้ากับระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร ถือเป็น “โมเดลต้นแบบ” ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมร่วมกันของกทม.กับเอกชนอีกแห่งหนึ่ง

อีก 2 โครงการที่ดำเนินการใกล้แล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบภายใน ก.ค. 67 คือ บ่อสูบน้ำคูน้ำสารวัตรทหารที่ 11ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้โดยรอบเป็นชุมชนเมืองที่มีความหนาแน่นสูง และมีสถานที่ราชการและโรงพยาบาลที่สำคัญอยู่จำนวนมาก ท่อระบายน้ำเดิมมีขนาดไม่เพียงพอ จึงเกิดโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ด้วยวิธีดัน (Pipe Jacking) และรางระบายน้ำ แม้จะติดอุปสรรคหลายด้าน แต่ขณะนี้เดินทางมาถึง 90% จะแล้วเสร็จเดือน ก.ค. 67
เช่นเดียวกับ การก่อสร้างท่อลอดถนนรัชดาภิเษก และแผนการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การก่อสร้างบ่อสูบน้ำศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตอนลงคลองบางตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าศูนย์ราชการฯ และงานก่อสร้างถนนหมายเลข 10 และระบบระบายน้ำ รางระบายน้ำ O – Gutter ในโครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา 5 ธันวาคม 2550 กับถนนประชาชื่น ก็จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 67 เช่นกัน

อีกจุดที่พบปัญหาเป็นประจำคือ บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ซอยแจ้งวัฒนะ 14 บริเวณบึงสีกัน โดยได้ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างแก้มลิงบึงสีกัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซอยแจ้งวัฒนะ 14 (ผลการดำเนินการ 10% กำหนดแล้วเสร็จ ก.พ. 68) (ระบบชั่วคราวแล้วเสร็จ ส.ค. 67)

​ซอยแจ้งวัฒนะ 14 ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังในซอยแจ้งวัฒนะ 14 โดยเฉพาะพื้นที่หมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์และพื้นที่หมู่บ้านเกษตรนิเวศน์ เนื่องจากระบบระบายน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำ เดิมบึงสีกันเป็นพื้นที่เอกชนไม่มีระบบบริหารจัดการน้ำ สำนักการระบายน้ำจึงดำเนินการปรับปรุงแก้มลิงบึงสีกัน เพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำภายในบึงสีกันโดยสามารถบริหารจัดการเป็นแก้มลิงรองรับน้ำส่วนเกินสามารถกักเก็บน้ำฝนไว้ในแก้มลิงได้ 150,000 ลบ.ม. ช่วยพักน้ำฝนที่ตกลงสู่พื้นที่ไว้ชั่วคราว และระบายน้ำลงคลองบางพูด คลองตาอูฐ ลงสู่คลองเปรมประชากรต่อไป โดยพื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 1.63 ตร.กม. คิดเป็นประมาณ 1,200 ครัวเรือน ครอบคลุมซอยแจ้งวัฒนะ 14 พื้นที่หมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์ พื้นที่หมู่บ้านเกษตรนิเวศน์ หมู่บ้านชวนชื่นหมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ วิภาวดี –แจ้งวัฒนะ ซอยโกสุมรวมใจ และถนนวัดเวฬุวนารามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง ผลงาน 10% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยระบบชั่วคราวเพื่อการพร้องน้ำและการระบายน้ำออกจากบึงสีกันจะสามารถใช้งานได้ภายในเดือนสิงหาคม 2567 นี้

รองผู้ว่าฯ กทม.ยังเปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำของกรุงเทพมหานคร ปี 67 ภาพรวมขณะนี้กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดปริมาณฝนที่สำนักการระบายน้ำได้ 530.5 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ประมาณ 20 % (ค่าเฉลี่ย 30 ปี ของสำนักการระบายน้ำ 670.8 มิลลิเมตร)

​ประกอบกับสถานการณ์ เอนโซ ที่จะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะลานีญา ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2567 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และจะต่อเนื่องไปจนถึงกุมภาพันธ์ 2568 จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นรวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งต้องเฝ้าระวังและติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาโดยเฉพาะเดือน สิงหาคม กันยายนและตุลาคม คาดว่าฝนจะตกเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ กทม.ยังได้พร่องน้ำตามลำคลองต่างๆ และแม้ว่ากทม.จะต้องรับมือกับปริมาณฝน ที่จะมีโอกาสตกหนักมากเป็นหย่อมส่วแต่ก็ต้องพร้อมสำหรับการบริหารจัดการน้ำเหนือที่จะมาด้วย ซึ่งก็มีการพูดคุยประชุมร่วมกันทุกเดือนกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช. ที่เป็นหน่วยงานหลักบริหารจัดการน้ำ

“ทั้ง 8 โครงการที่นำมาส่งการบ้านชาวกรุงฯ ในวันนี้ ทุกโครงการล้วนประสบปัญหาแตกต่างกันไป บ้างต้องเจรจากับหลายฝ่ายที่ต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน บ้างต้องจัดการกับสาธารณูปโภคที่ทับซ้อนกัน บางพื้นที่ไม่ใช่ของ กทม.บางโครงการมีการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนจนเกิดเป็นโมเดลการบูรณาการใหม่ ๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ หัวใจคือ เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง รูปแบบ วิธีการ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ของระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวกรุงเทพมหานคร ได้อย่างยั่งยืน“ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]