กรุงเทพฯ 2 พ.ย. – เตือนประชาชนระวังค่าฝุ่นสูงในวันพรุ่งนี้ ด้าน กทม. เตรียมพร้อม 3 มาตรการป้องกันและบรรเทาปัญหา
นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นวันพรุ่งนี้
ตามที่คาดการณ์ว่าในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ปริมาณฝุ่นจะเพิ่มมากขึ้นในระดับแดงถึงส้ม ซึ่งเป็นการคาดการณ์จากกรมควบคุมมลพิษ และ AIR BKK ในเชิงมาตรการแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.มาตรการเชิงเฝ้าระวัง ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเรื่อง Risk Map โดยเข้าไปตรวจสถานประกอบการไซต์ก่อสร้างทั้งหมด และนำเข้าข้อมูลใน Risk Map สามารถเข้าไปดูได้ว่าสำนักงานเขตดำเนินการตรวจล่าสุดเมื่อไร
2.มาตรการการลดมลพิษ การตรวจจับควันดำ ซึ่งจะไม่ได้เน้นการตรวจริมถนนอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว ต่อไปจะเน้นที่การตรวจสถานที่กำเนิดฝุ่นประกอบกับการตรวจใบอนุญาตก่อสร้างที่ไซต์ก่อสร้าง หากพบรถที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสามารถใช้กฎหมายควบคุมมลพิษจัดการได้เลย 3.มาตรการเรื่องของสุขภาพ ซึ่งมีแนวทางชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียน นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประสานกับทีมที่จะเข้ามาดูแลสุขภาพนักเรียนในกรณีที่ฝุ่นสูง งานติดตั้งธงสี แสดงค่าฝุ่นประจำโรงเรียนและต่อยอดไปยังชุมชน ในส่วนของโรงพยาบาล เตรียมคลินิกปลอดฝุ่น สำนักอนามัยก็มีแนวทางในการบริหารจัดการเชิงรุกเช่นกัน
“กฎหมายที่ใช้ในการควบคุมควันดำในรถบรรทุกแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือ พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ซึ่งจะตรวจในรถบรรทุก หรือรถขนาดใหญ่ ในส่วนของกรุงเทพมหานครจะใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ทำหน้าที่ตรวจรถประเภทรถบรรทุก รถปิกอัพ ส่วนรถบรรทุกที่เข้ามาในไซต์ก่อสร้างก็เป็นอำนาจของกรุงเทพมหานครที่จะเข้าไปตรวจเช่นกัน และจะเกี่ยวข้องไปถึงเรื่องของใบอนุญาตก่อสร้าง
นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อมีการตั้งด่านจะเป็นการตั้งด่านแบบบูรณาการหลายหน่วยงาน ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครอาจจะมองไปไกลกว่านั้น อาจจะไม่ได้มองแค่เฉพาะตัวรถ คืออาจจะมองมองที่คนที่จ้างรถด้วยหรือตัวไซต์ก่อสร้าง เนื่องจากตัวรถอาจจะเป็น outsource แต่ผู้ที่รับผิดชอบจริงๆ คือไซต์ก่อสร้าง ซึ่งอาจจะมีการตักเตือนในครั้งแรก หากมีครั้งที่สองอาจจะต้องพิจารณาเรื่องของใบอนุญาต สำหรับการแจ้งเตือนเรื่องฝุ่นในวันพรุ่งนี้ที่คาดว่าจะมีปริมาณสูงขึ้น เนื่องจากอัตราการระบายอากาศต่ำ ผู้ที่ต้องออกไปนอกบ้านควรที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หากเป็นกลุ่มเปราะบางหรือสูงวัย ไม่ควรออกจากบ้านเลย รวมถึงควรงดออกกำลังกายกลางแจ้งด้วย” นายพรพรหม กล่าว