ตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพฯ แก้ปัญหารวดเร็ว

กทม. 19 ก.ย.- “ชัชชาติ” เผยนายกฯ แต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร บูรณาการความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น


(19 ก.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้(18 ก.ย.66) ว่า เป็นการเข้าพบเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาในกรุงเทพมหานคร โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย 1.นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะทำงาน 2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นรองประธานคณะทำงาน 3.รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเป็นรองประธานคณะทำงาน 4.เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นคณะทำงาน 5.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นคณะทำงาน 6.ผู้ว่าราชการเป็นคณะทำงาน และ7. ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นคณะทำงานและเลขานุการ

สำหรับคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากการเข้าพบท่านนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้หารือถึงปัญหาต่างๆ ซึ่งท่านนายกฯ ก็ได้มองว่ากรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีบทบาทสำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย มี GDP 33% ของ GDP ประเทศไทย (5.3 ล้านล้าน / 16 ล้านล้าน) รายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 30% ของประเทศ (3 แสนล้านบาท / 1 ล้านล้านบาท) ประชากรประมาณ 15% ของประชากรทั้งประเทศ (8-10 ล้านคน / 66 ล้านคน) จำนวนบริษัทที่จดนิติบุคคลคิดเป็น 36% ของทั้งประเทศ (320,000 /890,000 ราย)


ปัญหาสำคัญในการขับเคลื่อน กทม.คือ การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) การประปานครหลวง(กปน.) องค์การการขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ(กคช.) การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) กระทรวงคมนาคม(คค.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.) กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)

ที่ผ่านมา การประสานงานระหว่าง กทม. กับหน่วยงานต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ขาดการขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์อย่างบูรณาการ หลายๆครั้งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าร่วมกันใน
แต่ละเรื่อง ดังนั้นจึงได้มีการตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนปัญหาเร่งด่วนของ กทม. ที่ต้องอาศัยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน และไม่สามารถรอการปรับโครงสร้าง เช่น การแก้ พ.ร.บ.กทม. ในระยะยาวได้ โดยคณะทำงานดังกล่าว จะทำงานคล้ายๆรูปแบบ คณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ในภาคเอกชน เป็นคณะเล็กๆ มีความคล่องตัว ตัดสินใจและขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและตอบโจทย์พี่น้องประชาชนมากขึ้น โดยคณะทำงานฯ รายงานคืบหน้าผลการดำเนินงานทุกเดือน

สำหรับปัญหาเร่งด่วนของ กทม.ที่ต้องเร่งดำเนินการ ด้านการจราจร (กทม. สตช. รฟม. กทพ. รฟท. ขบ. ทล. ทช. ขสมก.) ได้แก่


  • การกวดขันระเบียบวินัยจราจร การลดปัญหาจุดฝืด การทำผิดกฎจราจร การจอดรถในที่ห้ามจอด
  • การกำกับดูแลการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรใน กทม. เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง สีเหลือง สีชมพู โครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน
  • การพัฒนาระบบสัญญานไฟจราจรให้เป็นแบบอัตโนมัติ และเชื่อมโยงกันระหว่างทางแยก
  • การจัดการระบบการขนส่งสาธารณะให้เชื่อมโยงกัน รถไฟฟ้า รถเมล์ มอเตอร์ไซค์ รถสองแถว เรือ ทางเดินเท้า ให้มีราคาที่เหมาะสม และสะดวก

ด้านเศรษฐกิจ (กทม. รฟม. รฟท. กทพ. กทท. BOI กค. ศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ CEA) ได้แก่

  • การใช้ทรัพยากรของรัฐช่วยเรื่องการทำมาหากินของผู้มีรายได้น้อย เช่น การจัดพื้นที่ให้ขายของ
  • การเตรียมความพร้อมในเรื่องการส่งเสริมพัฒนาทักษะ (re-skill, up-skill) ให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐต้องการส่งเสริม อาทิ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงอุตสาหกรรมสีเขียว และอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ
  • การสนับสนุนเรื่องที่อยู่อาศัย ทั้งในส่วนของผู้มีรายได้น้อย และที่อยู่อาศัยใกล้งานสำหรับคนทำงาน
  • การสนับสนุนการจัดทำ Special Economic Zone ใน กทม.เพื่อกระตุ้นการลงทุน
  • IHO ดึงดูดบริษัทข้ามชาติให้มาตั้งสำนักงานใน กทม. (International Headquarters) เพื่อให้เกิดการจ้างงาน

ด้านการท่องเที่ยว (กทม. สตช. ททท. คค. CEA) ได้แก่

  • ดึงอัตลักษณ์สร้างเศรษฐกิจ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ (เศรษฐกิจสร้างสรรค์) เพื่อเพิ่มแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว
  • ดูแลเรื่องความปลอดภัยในด้านต่างๆ อาทิ การเดินทาง การเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ตุ๊กๆ แท็กซี่ ไกด์ผี ด้านที่พัก คุณภาพ มาตรฐาน การให้บริการ ด้านแหล่งท่องเที่ยว ความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการ ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ไม่หลอกลวง
  • จัดงาน Winter Festival ในช่วง พ.ย.-ธค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวในช่วงปลายปี

ด้าน PM2.5 (กทม. กษ. คค. ขบ. กค.) ได้แก่

  • กำหนดมาตรการควบคุมการเผาข้าว อ้อย ผลิตผลทางการเกษตรทั้งในประเทศและนอกประเทศ
  • ส่งเสริมการใช้รถยนต์ที่มีการปล่อยมลพิษน้อย เช่น รถ EV รถและน้ำมันมาตรฐาน EURO5

ด้านการนำสายสื่อสารลงดิน (กทม. กสทช. NT กฟน. ผู้ประกอบการโทรคมนาคม)

  • เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กสทช การไฟฟ้านครหลวง NT ผู้ประกอบการ กทม. ในการร่วมกันจัดระเบียบสายสื่อสาร

ทั้งนี้ คาดว่าสัปดาห์หน้าหลังจากนายกรัฐมนตรีกลับจากราชการในต่างประเทศ จะมีการนัดหารือคณะทำงานฯ ในรอบแรก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]