กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ปริมาณฝนปีนี้น้อยกว่าที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำประมาทไม่ได้ สั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมตามแผนอย่างเต็มที่
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 17/2566 โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้มีการอัปเดตสถานการณ์น้ำฝน โดยปีนี้ปริมาณฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-6 ส.ค. 66 อยู่ที่ 685 มม. น้อยกว่าค่าเฉลี่ยฝน 30 ปี ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 852.3 มม. และน้อยกว่าปริมาณฝนสะสมปีที่แล้ว (ตั้งแต่ 1 ม.ค.-6 ส.ค. 65) ซึ่งอยู่ที่ 958 มม. แต่ยังประมาทไม่ได้ ต้องรอดูปริมาณฝนในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. 66 อีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม กทม. ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ตามแผนที่ได้วางไว้ ได้แก่ 1.ควบคุมระดับน้ำในคลอง เพื่อให้มีแก้มลิงรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมา 2.ตรวจซ่อมบำรุงสถานีสูบน้ำ 188 แห่ง บ่อสูบน้ำ 324 แห่ง ดำเนินการครบทั้งหมดแล้ว 3.เตรียมความพร้อมอุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง 4.เตรียมความพร้อมแก้มลิง 32 แห่ง Water Bank 4 แห่ง 5.ขุดลอกคลอง 182 คลอง 203 กม. (87%) เปิดทางน้ำไหล 1,404 คลอง 1,518 กม. (85%) 6.ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ 3,758 กม. (80%) ล้างทำความสะอาดท่อหน้าตลาด (รอบที่ 1) จำนวน 157 ตลาด (62%) 7.เตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าถาวร 14 จุด รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 17 คัน รถโมบายยูนิต 4 คัน เครื่องสูบน้ำไฮดรอลิก 46 เครื่อง เครื่องสูบน้ำหางอ่อน 17 เครื่อง 8.เตรียมเครื่องผลักดันน้ำ 55 เครื่อง 9.จัดเตรียมหน่วย BEST 35 หน่วย 10.ติดตามสถานการณ์ฝนตลอด 24 ชม. มีระบบตรวจวัด (เรดาร์ตรวจ) 2 แห่ง คือ หนองแขมและหนองจอก
11.มีจุดตรวจวัดน้ำท่วม ดังนี้ จุดตรวจวัดถนน 100 แห่ง จุดตรวจวัดอุโมงค์ทางลอดรถ 8 แห่ง และสถานีเครือข่ายตรวจวัดระดับน้ำ 255 แห่ง 12.มีการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ทั้งปริมณฑล (สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี) กรมชลประทาน และการไฟฟ้านครหลวง 13.จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สนับสนุน โดยสำนักงานเขตเตรียมพร้อมรถบรรทุก/รถยก 186 คัน รถตักดิน 34 คัน รถดูดเลน 13 คัน เครื่องสูบน้ำเครื่องยนต์ 491 เครื่อง สำนักการระบายน้ำ เตรียมพร้อมรถบรรทุก/รถยก 147 คัน รถตักดิน 21 คัน รถดูดเลน 7 คัน เครื่องสูบน้ำเครื่องยนต์ 363 เครื่อง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 14 เครื่อง รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 17 เครื่อง กระสอบทราย 1,794,300 ใบ
กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง เตรียมพร้อมรถบริการเคลื่อนที่เร็วหรือโมบาย 2 คัน รถปิกอัพเคลื่อนที่เร็ว 8 เครื่อง รถยกลากจูง 45 ตัน 11 คัน รถบรรทุกแบบชานเลื่อนพร้อมชุดยกไฮดรอลิก ขนาด 10 ตัน-เมตร 2 คัน รถปั้นจั่น ขนาด 70 ตัน 1 คัน และรถกู้ซ่อมแบบปิกอัพพร้อมไฟส่องสว่าง 2 คัน
นอกจากนี้หน่วยงานในสังกัด กทม. ยังได้ร่วมกันสนับสนุนในด้านต่างๆ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงหน้าที่ของสำนักการระบายน้ำ แต่เป็นการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงาน โดยสำนักการระบายน้ำมีหน้าที่แจ้งจุดเสี่ยง แก้ไขจุดเสี่ยง ลดระดับน้ำในคลองตามแผน เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ รายงานข้อมูลสถานการณ์น้ำ สำนักงานเขตมีหน้าที่ออกปฏิบัติงานเมื่อฝนตก ผอ.เขตสั่งการแก้ไขปัญหา รายงานสถานการณ์ กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง มีหน้าที่ให้บริการช่วยเหลือประชาชนกรณีรถยนต์ขัดข้อง จัดรถยกรถลากจูง อำนวยความสะดวกในการจราจร สำนักการโยธา จัดหน่วยซ่อมแซมเร่งด่วน (Best Service) สนับสนุนเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ ตรวจสอบและเฝ้าระวังป้ายโฆษณา สำนักเทศกิจ จัดรถสายตรวจลงพื้นที่ จัดรถบริการรับ-ส่งประชาชน สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สนับสนุนเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ สำนักการจราจรและขนส่ง มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารสถานการณ์น้ำบนป้ายยจราจรอัจฉริยะ สนับสนุนข้อมูลจากกล้อง CCTV ตรวจสอบความพร้อมของระบบวิทยุ Trunk Radio
สำนักงานประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร แจ้งประเด็นผลกระทบของประชาชนจากปัญหาน้ำท่วมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร สนับสนุนการจัดหากระสอบทราย สนับสนุนงบประมาณแก้ไขปัญหาน้ำท่วม สำนักอนามัย มีหน้าที่แนะนำด้านสุขภาพอนามัยและวิธีป้องกันโรค และสำนักสิ่งแวดล้อม มีหน้าที่ในการรณรงค์เรื่องการทิ้งขยะอย่างถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย