อย่าโหลด! เตือน 203 แอปโจร ดูดเงินในบัญชี

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – กระทรวงดีอีเอส เปิดรายชื่อ 203 แอปฯ อันตราย เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ-อย่าโหลด อาจโดนดูดเงินในบัญชีและข้อมูลส่วนตัวได้


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) แจงกรณีแอปพลิเคชันดูดเงินอันตราย หลังพบประชาชนได้รับผลกระทบจากการติดตั้งแอปพลิเคชันอันตรายลงในโทรศัพท์มือถือ แล้วทำให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาดูดเงินออกไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง โดยได้มีการตรวจสอบมาโดยตลอด พบปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ถูกระบุว่าสามารถขโมยข้อมูล หรือควบคุมเครื่องโทรศัพท์ได้ โดยในปี 2022 มีการเผยแพร่รายชื่อแอปพลิเคชันอันตรายเหล่านี้ ซึ่งมีมากกว่า 200 รายการ ทั้งในระบบ iOS และ Android ตามที่ปรากฏใน Facebook ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ Facebook ของ สกมช. (NCSA THAILAND) จึงขอให้ผู้ใช้งานทำการตรวจสอบ หากพบแอปพลิเคชันดังกล่าวให้ถอนการติดตั้งโดยทันที และควรอัปเดตระบบของเครื่องโทรศัพท์ของตนเองให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

ทั้งนี้ ดีอีเอส แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ ลงบนโทรศัพท์มือถือ เพราะอาจจะไปเจอมัลแวร์อันตรายได้ หากมีการโหลดเข้าไปในเครื่องก็มีโอกาสที่จะถูกดูดข้อมูลส่วนบุคคล หรือถูกรีโมทเข้ามาควบคุมมือถือของท่าน ซึ่งถ้ามีเกี่ยวกับการเงินก็อาจจะถูกโอนเงินออกไป ที่เรียกว่าใช้แอปฯ ดูดเงิน และถ้าพบแอปฯ เหล่านี้อยู่ในมือถือของท่านให้รีบลบออก ซึ่งขณะนี้กระทรวงฯ ได้ประสานกับทาง Play Store หรือ App Store ทั้งหมดแล้วไม่ให้มีแอปฯ เหล่านี้ในระบบ เพื่อป้องกันประชาชนหลงกลแล้วโหลดเข้าไป


นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการสร้าง SMS โดยใช้ชื่อเดียวกับผู้ส่ง (Sender Name) ที่เป็นธนาคาร แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้รับ SMS เข้าใจผิดและหลงเชื่อว่ามาจากหน่วยงานจริง ซึ่งโดยทั่วไปหน่วยงานส่วนใหญ่ได้ออกประกาศว่าจะไม่มีการส่งลิงก์ผ่าน SMS ให้กับผู้รับบริการ ดังนั้นจึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อคลิกลิงก์ที่มากับ SMS หรือเพิ่มเพื่อนจากไลน์ไอดี โดยให้สังเกตรูปแบบ เนื้อหาที่อาจเป็นสิ่งที่ดีเกินจริง หรือทำให้หวาดกลัว เช่น “คุณได้รับอนุมัติวงเงินกู้ 50,000 บาท คลิกลิงก์…” หรือ “โปรดยืนยันรหัสผ่าน มิฉะนั้นบัญชีของท่านจะถูกระงับการใช้งาน ติดต่อไลน์ไอดี…” โดยอาจจะตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานที่ถูกระบุว่าส่ง SMS มาอีกครั้ง

ด้าน สกมช.ได้มีการรวบรวมรายชื่อบริษัทที่ทําการส่ง SMS ปลอมเหล่านี้ เพื่อหยุดการทําธุรกรรมต่างๆ ซึ่งกระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการประสานงานกับ กสทช. เพื่อขอให้ผู้ให้บริการมือถือทุกค่าย และธุรกิจที่ทำ SMS แล้วปล่อยให้มีการปลอมชื่อออกมา ซึ่งหากทําสําเร็จก็จะไม่มี SMS ปลอมอีก นอกจากนี้ เรื่องการแอดไลน์ก็เช่นเดียวกัน บางทีส่งไลน์มาก็เป็นไลน์ปลอมให้เข้าไปแอด เห็นชื่อเห็นรูปอาจจะเป็นคนที่เรารู้จัก หรือเป็นบริษัท หน่วยงานที่เรารู้จัก เพราะฉะนั้นขอให้ระวังเช่นเดียวกัน

รัฐมนตรีดีอีเอส ย้ำว่า อย่าไปแอดไลน์ อย่าไปคุยกับคนเหล่านี้ เพราะว่าถ้าเขาพูดคุยเข้ามา ส่งข้อความมาที่เป็นของที่ดีเกินจริง ได้ประโยชน์มากเกินควร เช่น อาจจะให้กู้เงินห้าหมื่นบาท ให้ขายสินค้าในราคาพิเศษถูกมากๆ หรือหลอกว่าจะมีรายได้พิเศษให้เรา ถ้าเราไปทํางานกับเขา ไปลงทุนกับเขา พวกนี้มันดีเกินจริง คิดไว้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพ ผ่านช่องทางไลน์ปลอม หรือ SMS ปลอม ก็อย่าไปยุ่ง อย่าไปกดลิงก์ อย่าไปให้ข้อมูลเด็ดขาด


อย่างไรก็ตาม หากจะติดต่อกับหน่วยงานใดๆ ก็ตาม ผ่านช่องทางออนไลน์ ควรติดต่อผ่านแอปพลิเคชันที่ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นแอปพลิเคชันจริง หรือไปที่เว็บไซต์ของเขา ซึ่งเว็บไซต์ก็ต้องเป็นเว็บจริง วิธีการสังเกต คือ เป็นเว็บที่ลงท้ายด้วยดอททีเอช (.th) ทีเอชก็คือไทยแลนด์ เป็นเว็บไซต์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งได้มีการตรวจสอบยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องและเชื่อถือได้ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนดูที่แอปพลิเคชันที่ท่านคุ้นเคย และใช้งานอยู่เป็นประจำ มีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และไม่ถูกหลอกให้สูญเงินด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน