กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – รมว.ศึกษาธิการ มอบแนวทางให้ทุกโรงเรียนทั่วประเทศ หาข้อมูลกลุ่มนักเรียนที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรงเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเอาอาวุธเข้าไปในสถานศึกษา แต่ยอมรับว่าการตรวจค้นอาวุธก่อนเข้าโรงเรียนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอาจกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชี้แจงกรณีนักเรียนชายชั้น ม.3 อายุ 15 ปี เสียชีวิตเพราะถูกยิงในห้องของโรงเรียน ที่จังหวัดนนทบุรี โดย รมว.ศึกษาธิการ เผยว่า คดีลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย แต่จากการสอบถามข้อมูลของผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ซึ่งในเรื่องของการสอบสวนดำเนินคดีได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประสานข้อมูลกับตำรวจอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งยังให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้แล้ว ส่วนมาตรการการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก ต้องมีการกำหนดเป็นแนวทางในการป้องกันเหตุ ให้ชัดเจนรัดกุม เพราะถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
ขณะที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า มาตรการป้องกันการลักลอบนำเอาอาวุธเข้าไปในสถานศึกษา ขอให้โรงเรียนทั่วประเทศ สร้างความเข้าใจให้กับผู้ปกครองและเด็กนักเรียน เพื่อให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยอาจให้แต่ละโรงเรียนไปจัดทำข้อมูลและเฝ้าระวังกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรงเป็นพิเศษ แต่คงไม่ถึงขั้นต้องมีการตรวจค้นอาวุธก่อนเข้าสถานศึกษา เพราะอาจจะส่งผลกระทบ หรือทำให้ผู้ปกครองรู้สึกว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป เพราะประเด็นนี้สามารถมองได้หลายมุมเช่นกัน
ส่วนแนวทางในการดำเนินคดีให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยกระทรวงศึกษาธิการจะประสานข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับตำรวจ และเชื่อว่าผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เพราะครูที่เข้าไปในที่เกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงปืน จึงเข้าใจว่าเป็นเพราะคอมพิวเตอร์ระเบิด จึงได้แจ้งข้อมูลเบื้องต้นไปกับทางตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย