เร่งล่าสามีฆ่าภรรยาหมกร่องสวน พ่อสารภาพช่วยลูกชายขนศพฝัง

อ่างทอง 21 ส.ค.- คดีพบศพสาวโรงงานวัย 26 ปี ถูกฆ่าฝังดินหมกร่องสวนมะนาว หลังหายตัวนานกว่า 4 วัน รู้ตัวคนร้ายแล้วคือสามีผู้เสียชีวิต พลั้งมือฆ่า ตำรวจเร่งไล่ล่า ล่าสุด พ่อผู้ก่อเหตุเข้าพบตำรวจแล้ว สารภาพช่วยลูกชายขนศพมาฝัง


ตำรวจรับแจ้งพบศพถูกฝังอยู่ในร่องสวนมะนาว พื้นที่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง จึงพร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ รุดไปยังที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุเป็นร่องน้ำด้านหลังสวนมะนาวของนายดนัยศักดิ์ ช่างบรรจง อายุ 65 ปี พบร่างของหญิงสาวถูกมัดด้วยผ้าพลาสติกสีดำฝังไว้ในร่องน้ำ นำร่างขึ้นมาเพื่อชันสูตรพลิกศพ

เบื้องต้นพบรอยแดงที่คอและบริเวณใบหน้าด้านซ้ายมีร่องรอยคล้ายถูกกระแทก ซึ่งขณะที่พบศพ มีญาติของ น.ส.วนิดา บุยเนตร หรือจ้อย อายุ 26 ปี สาวโรงงานใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีบ้านอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ หายตัวไปเมื่อ 4 วันก่อนมา มารอดูและเมื่อนำศพขึ้นมา นางบุญชู บุญเนตร อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.จ้อย ถึงกับร้องไห้โฮ จำได้ว่าเป็นบุตรสาวของตนเอง ก่อนเป็นลมหมดสติ ขณะที่บริเวณด้านหน้าสวน ซึ่งเป็นห้องพักของคนงานเฝ้าสวน มีร่องรอยนั่งดื่ม และพบจอบที่คาดว่าใช้ในการขุดฝังศพ


นางบุญชู มารดาของน้องจ้อย มั่นใจว่า นายเมฆ สุขคำ หรือนายตั้ม อายุ 27 ปี สามีของน้องจ้อยเป็นคนลงมือ เนื่องจากบุตรสาวเคยมาพูดให้ฟังว่า นายเมฆ ไม่ทำงานทำการ จึงอยากจะเลิก พอนายเมฆ ทราบเรื่องก็โกรธ ถึงขนาดเคยทำร้ายร่างกายกัน

นางสาวภคพร บุญเนตร น้องสาวผู้เสียชีวิตบอกว่า พี่สาวหายไปได้ 4 วันตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากติดต่อกันไม่ได้ ก็เดินทางไปหานายเมฆ ซึ่งนายเมฆบอกว่า เพื่อนของน้องจ้อยขับรถมารับไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม แล้วติดต่อกันไม่ได้เลย

นายดนัยศักดิ์ ช่างบรรจง เจ้าของสวนเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองเข้ามาดูสวนมะนาว เมื่อเดินเข้าไปด้านในเห็นในร่องน้ำมีฝ้ามันสีเหลืองลอยอยู่เต็มร่อง และมีลักษณะคล้ายดินถูกขุดปิดไว้ จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้เข้ามาตรวจสอบ โดยใช้ไม้เขี่ยดู ก็พบว่ามีศพถูกฝังอยู่ จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ


ตำรวจเร่งไล่ล่าสามีผู้เสียชีวิต

ขณะที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนายเมฆ มาสอบสวน โดยเบื้องต้นพบว่า นายเมฆ พร้อมด้วยพ่อของนายเมฆ ซึ่งเป็นคนงานเฝ้าสวนมะนาวดังกล่าว หายตัวไปหลังมีคนพบศพ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว และเตรียมเรียกพยานมาสอบสวนเพื่อหาผู้ก่อเหตุในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายเมฆ สามีของน้องจ้อย ไม่ห่างที่เกิดเหตุพบบ้านหลังดังกล่าวปิดเงียบ ภายในบริเวณบ้านยังมีผ้าที่ถูกซักกองไว้ จากการสอบถามแม่ค้าขายของที่อยู่บริเวณดังกล่าว น้องจ้อยและสามีอาศัยอยู่ด้วยกันมานานกว่า 8 ปีแล้ว ขณที่ นางเสวียง ตั้งจิตร อายุ 64 ปี มารดาของนายเมฆ ซึ่งออกตามหาลูกชายตั้งแต่เช้า โดยหายไปตั้งแต่พบศพน้องจ้อย เช่นเดียวกับนายวันชัย สุขขำ อายุ 57 ปี พ่อนายตั้ม ก็หายไปเช่นกัน อยากให้กลับมามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์

น.ส.สุวิมล วิไลรัตน์ อายุ 24 ปี น้องสะใภ้ของนายเมฆ เชื่อว่านายเมฆ เป็นคนลงมือ เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน อยากให้กลับมามอบตัวว่าทำอะไรลงไปก็กลับมารับโทษที่ก่อขึ้น

ขอหมายจับสามีผู้เสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เชิญตัวนายสมชาย เกตุเกษตร เพื่อนของนายเมฆมาสอบสวน โดยนายสมชายเล่าว่า นายเมฆ ขับรถไปหา ก่อนที่จะเล่าว่าเป็นคนบีบคอน้องจ้อยจนเสียชีวิต แต่ไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่จะให้พาหลบหนี ซึ่งตนเองได้บอกปัดไป ทำให้นายเมฆ ขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าสุพรรณบุรีเมื่อช่วงเช้าวานนี้ นอกจากนี้ ตำรวจยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณตลาดแสวงหา จับภาพขณะที่นายเมฆ ขี่รถจักรยานยนต์อยู่ มีน้องจ้อยซ้อนท้าย ก่อนหายตัวไป เป็นหลักฐานสำคัญเป็นหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายเมฆ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ฆ่าอำพรางศพ ในข้อหาฆ่าผู้อื่น

เจอตัวแล้วพ่อสามีผู้เสียชีวิต

และล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังถูกกดดันอย่างหนัก นายวันชัย พ่อของนายเมฆมือฆ่า ติดต่อเจ้าของสวนมะนาวที่เกิดเหตุพาเข้าพบกับตำรวจ สภ.แสวงหา โดยให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายเมฆ ลูกชาย นำศพของน้องจ้อยมาฝังบริเวณดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ประมาณเที่ยงวัน โดยก่อนหน้านั้น นายเมฆ ขับรถมาบอกว่าพลั้งมือฆ่าน้องจ้อยจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก และไม่รู้จะทำอย่างไร จึงร่วมกันนำรถซาเล้งที่ใช้ในสวนไปบรรทุกศพมาจากบ้านผ่านทุ่งนามาฝังไว้ที่ร่องสวน ก่อนที่จะทำเหมือนปกติ จนกระทั่งมีผู้พบศพน้องจ้อย จึงหนีเข้าไปหลบในป่า ส่วนลูกชายไม่ทราบว่าหลบหนีไปไหน

ตำรวจจึงนำตัวนายวันชัย สอบปากคำเครียด เค้นหาที่ซ่อนตัวของนายเมฆ คาดว่าน่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ เนื่องจากมีเงินติดตัวเพียงไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย