แจงเหตุไฟเขียว อบต.ราชาเทวะ จัดซื้อเสาไฟกินรี ทั้งที่ นอภ.เคยสั่งระงับ

สำนักข่าวไทย 1 มิ.ย.- ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ร่ายยาวแจงเหตุผลไฟเขียวให้ อบต.ราชาเทวะ ลงนามจัดซื้อเสาไฟกินรีลอตใหม่ 720 ต้น หลังได้รับเรื่องอุทธรณ์จาก อบต. เนื่องจากเห็นว่าการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย จนได้ตัวผู้ชนะการประมูลแล้ว หากประวิงเวลาไม่ลงนามในสัญญา อาจทำให้เกิดข้อพิพาทกับผู้ประกอบการได้


ความคืบหน้ากรณีองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เดินหน้าจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟโซลาร์เซลล์เพิ่มอีก 720 ต้น วงเงิน 67.9 ล้านบาท ภายหลังจากที่นายทรงชัย นกขมิ้น ได้กลับมาเป็นนายก อบต.ราชาเทวะ อีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอ(นอภ.) บางพลี เคยมีคำสั่งให้ระงับโครงการไว้ก่อนถึง 2 ครั้งจนกว่าการตรวจสอบของ ป.ป.ช. จะเสร็จสิ้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับ “สำนักข่าวไทย อสมท” ว่า เบื้องต้นได้รับการชี้แจงจากนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.) สมุทรปราการ ถึงกรณีที่สำนักข่าวแห่งหนึ่งเสนอข่าวทำนองว่า การลงนามในสัญญาโครงการเสาไฟกินรีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ อบต.ราชาเทวะ ได้ทำเรื่องขออุทธรณ์ไปยัง ผวจ.สมุทรปราการ และต่อมาทางจังหวัดได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์กับทางราชการ จึงเห็นชอบให้ อบต.ราชาเทวะ ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับทางเอกชนได้


โดย ผวจ.สมุทรปราการ ชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวมีข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนไม่ถูกต้อง กล่าวคือ โครงการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรี 720 ต้น มีการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบ e-bidding โดยมีเอกชนเข้าซื้อซอง 37 ราย และเข้ายื่นซอง จำนวน 2 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค บี ศิลป์ชำนาญ และบริษัท ไทยทราฟฟิค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่ง หจก.เค บี ศิลป์ชำนาญ เป็นผู้ชนะในการเสนอราคา โดยเสนอราคาเป็นเงิน 67,987,800 บาท ต่ำกว่าราคากลาง 122,200 บาท แต่ นอภ.บางพลีได้มีคำสั่งให้นายก อบต.ราชาเทวะ ระงับการลงนามในสัญญาโครงการนี้ไว้ก่อน และให้นายก อบต.ราชาเทวะ ชี้แจงการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อ นอภ.บางพลีได้รับคำชี้แจงจาก อบต.ราชาเทวะ แล้ว ก็มิได้มีความเห็นว่าการจัดซื้อจัดจ้างโครงการนี้มีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายอันอาจเกิดความเสียหายแก่ อบต.ราชาเทวะ หรือแก่ทางราชการ หรือไม่อย่างใด

เมื่อทางจังหวัดสมุทรปราการสอบถามความเห็นของ นอภ.บางพลี เพื่อประกอบการพิจารณากรณีที่นายก อบต.ราชาเทวะ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งระงับโครงการฯ ก็ได้รับการชี้แจงว่าการจัดซื้อเสาไฟกินรีโครงการก่อนหน้านี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนรวบรวมข้อเท็จจริงของหน่วยงานตรวจสอบ ซึ่งยังไม่มีความเห็นเป็นที่ยุติ ส่วนกรณีที่ นอภ.บางพลีใช้อำนาจตามมาตรา 90 วรรค 3 แห่ง พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 แก้ไขเพิ่มเติมถึง(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 สั่งระงับโครงการไว้ก่อนนั้น เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ในกรณีหากเห็นว่าการลงนามในโครงการฯอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ อบต.หรือแก่ทางราชการ แต่เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าการจัดซื้อจัดจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายอันอาจเกิดความเสียหายแก่ อบต.หรือทางราชการ จึงเป็นกรณีที่ นอภ.ยังไม่อาจใช้อำนาจสั่งระงับการลงนามในสัญญาโครงการฯได้

นอกจากนี้ การจัดซื้อจัดจ้างมีการดำเนินการจนกระทั่ว ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายอันอาจเกิดความเสียหายแก่ อบต.ราชาเทวะ การประวิงการลงนามไว้อาจเป็นประเด็นให้เกิดข้อพิพาทระหว่างผู้ชนะการเสนอราคากับ อบต.ราชาเทวะ ดังนั้น ผวจ.สมุทรปราการจึงต้องพิจารณาเพิกถอนคำสั่ง นอภ.บางพลีที่สั่งระงับการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว


ทั้งนี้ ในหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์กับ นอภ.บางพลี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการยังได้แจ้งให้ทราบด้วยว่า หากปรากฏข้อเท็จจริงที่ นอภ.บางพลีพิจารณาเห็นว่าการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวเป็นไปในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ อบต.หรือแก่ทางราชการ เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามหนังสือสั่งการ ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว นอภ.บางพลีย่อมสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายในการสั่งเพิกถอนการกระทำหรือให้ระงับการปฏิบัติไว้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ อบต.ราชาเทวะ หรือแก่ราชการได้ สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการพิจารณาอุทธรณ์ของ ผวจ.สมุทรปราการครั้งนี้ เป็นไปในกรอบของขอบเขตเงื่อนไขตาม พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติมถึง(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 มาตรา 90 วรรคสาม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับไทม์ไลน์การจัดซื้อเสาไฟกินรีเพิ่มอีก 720 ต้นของ อบต.ราชาเทวะ ครั้งนี้ เริ่มจากวันที่ 9 ก.พ.65 อบต.ราชาเทวะได้ออกประกาศประกวดราคาแบบ E-bidding ต่อมา นอภ.บางพลีได้สั่งระงับโครงการฯ เพื่อรอผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช.เสร็จสิ้นก่อน อบต.ราชาเทวะจึงยกเลิกการประกวดราคาเมื่อวันที่ 15 มี.ค.65 โดยอ้างเหตุผลว่ามีผู้ยื่นซองเสนอราคาเพียงรายเดียว ทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน
แต่หลังจากนั้น ปรากฏว่า อบต.ราชาเทวะได้ออกประกาศประกวดราคาเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 หรือเพียงวันเดียวก่อนที่นายทรงชัย นกขมิ้น จะถูกผู้ว่าฯสั่งปลดจากตำแหน่งตามการชี้มูลคดีรถดับเพลิงของ ป.ป.ช.ในวันที่ 8 เม.ย.65 อย่างไรก็ตาม การประกวดราคาจัดซื้อเสาไฟกินรีครั้งที่ 2 ก็ถูก นอภ.บางพลีสั่งระงับอีกครั้ง อบต.ราชาเทวะจึงทำเรื่องอุทธรณ์คำสั่งนายอำเภอไปยังผู้ว่าฯสมุทรปราการ หลังจากนั้น อบต.ราชาเทวะก็ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคา คือ หจก.เค บี ศิลป์ชำนาญ ในราคา 67,967,000 บาท เมื่อวันที่ 27 เม.ย.65

ขณะที่นายทรงชัย นกขมิ้น ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางขอให้คุ้มครองชั่วคราวกรณีถูกผู้ว่าฯสมุทรปราการ สั่งพ้นจากตำแหน่งในคดีรถดับเพลิง ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 ให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่ง ผวจ.สมุทรปราการ ไว้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทำให้นายทรงชัยได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.ราชาเทวะอีกครั้ง และต่อมาเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา อบต.ราชาเทวะก็ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อเสาไฟกินรี 720 ต้น กับ หจก.เค บี ศิลป์ชำนาญ ในที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

แก๊งมอดไม้เหิม! โค่นป่า 40 ไร่ “เขาชะเมา” เหลือแต่ตอ

ระยอง 3 มิ.ย.- แก๊งมอดไม้เหิมเกริม ลักลอบโค่นป่าเกือบ 40 ไร่ กลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาชะเมา จ.ระยอง เหลือแต่ตอไม้ ชาวบ้านโวยไร้เจ้าหน้าที่ดูแล ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พิกัด ม.3 บ้านเขาพัง ถนนเขาชะเมา-แก่งหางแมว ช่วงหลัก รย.4060 กม.ที่ 8 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบภาพชวนสะเทือนใจ พื้นที่กว่า 37-40 ไร่ถูกโค่นต้นไม้จนโล่งเตียนเหลือเพียงตอไม้เบญจพรรณ ต้นยางพาราถูกโค่นราบเป็นหน้ากลอง พื้นที่กลายเป็น “เขาหัวโล้น” ไร้เงาไม้ยืนต้น ด้าน นายบุญธรรม ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า พื้นที่ทั้งหมดในหมู่บ้านรวมถึงจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามระเบียบให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ทำกินได้ ห้ามแพ้วถาง ตัดไม้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 ระยอง 1 (รย.1) สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบดูแลป่าทั่วทั้ง อ.เขาชะเมาและอ.แกลง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ […]

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย