ตรวจสอบ 11 ศพปริศนาในสำนักฤาษีประหลาด

ชัยภูมิ 9 พ.ค.- เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครองและหน่วยกู้ภัยร่วมกันตรวจสอบศพปริศนาทั้ง 11 ในสำนักฤาษีประหลาด บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ขณะที่ลูกศิษย์ที่ลงทุนย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ เพราะความเคารพศรัทธายังคงใช้ชีวิตตามปกติ


กรณีนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจบุกเข้าตรวจสอบสำนักฤๅษีประหลาด ตั้งอยู่ในที่สาธารณะหมู่บ้าน กุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เปิดรับรักษาโรคทุกชนิด โดยการรักษาให้ผู้ป่วยกินปัสสาวะ กินอุจจาระ กินเสมหะและขี้ไคล รวมถึงยาที่ดองไว้นับ 100 โอ่งมังกรให้กินเป็นยารักษาโรคต่างๆ ให้กับคนไข้ที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศเข้ามาทำการรักษาอยู่ในสำนักดังกล่าว 

จากการเข้าตรวจสอบภายในสำนัก เจอร่างผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย บรรจุอยู่ในโลงศพ อ้างรอการขึ้นสวรรค์ ก่อนคุมตัวนายทวี อายุ 75 ปี อ้างเป็นเจ้าสำนักไปสอบสวน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันนี้ หมอปลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่นิติเวช เข้าตรวจสอบภายในลัทธิประหลาด หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อตรวจสอบศพผู้เสียชีวิต 11 รายที่เจอร่างอยู่ในลัทธิแห่งนี้ พร้อมตรวจเช็กอัตลักษณ์บุคคลว่าแต่ละศพเป็นใคร พร้อมเตรียมนำศพทั้งหมดไปชันสูตรอีกครั้ง นอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในลัทธิประหลาด เจ้าหน้าที่ยังพบโอ่งมังกรที่บรรจุปัสสาวะของพระบิดาเจ้าลิทธิ โดยอ้างสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานทั้งหมดภายในลัทธิไปตรวจสอบ โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเตรียมเข้ารื้อถอนสถานที่ตั้งของลัทธินี้ทั้งหมด 

ด้านอาเขยของฤาษีทวี และนางจันทา อาของฤาษีทวี ให้ข้อมูลว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ ปกติจะมีน้องชายของฤาษีทวีพักอาศัยอยู่กับครอบครัว ขณะนี้น้องชายของฤาษีทวีพร้อมญาติกำลังเดินทางไปที่ จ.ชัยภูมิ ยอมรับว่าเพิ่งทราบเรื่องจากข่าวเมื่อคืน หลังจากเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปที่สำนักของฤาษีทวี โดยก่อนหน้านั้นตนสร้างบ้านอยู่ตรงข้ามบ้านฤาษีทวี ซึ่งตอนที่มาก็ไม่เห็นนายทวีอยู่บ้านแล้ว ทราบว่าไปทำงานที่ กทม. และกลับมาชุมแพแต่บวชเป็นพระ โดยมีแม่ของนายทวีเป็นโยมอุปัฏฐาก คอยดูแลช่วงที่เป็นพระสงฆ์ห่มเหลือง กระทั่งผ่านไปประมาณ 4 ปี ทราบว่าเปลี่ยนมาห่มผ้าฤาษีและมีสำนักอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ พร้อมบอกว่าเคยไปที่สำนักเมื่อหลายปีก่อน แต่ช่วงนั้นยังไม่กินอุจจาระหรือของเสียจากร่างกายตามที่ปรากฏในข่าว เห็นเพียงโอ่งน้ำหมักที่ทำจากผลไม้ไว้ให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาดื่มกินเท่านั้น บางคนก็หายบางคนก็ไม่หายแล้วแต่คน และลูกศิษย์ลูกหาส่วนใหญ่อยู่ทางภาคกลาง แถวบ้านจะไม่ค่อยมี ส่วนตัวเชื่อในเรื่องของฤาษีที่สามารถหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ แต่ไม่เชื่อเรื่องการกินของเสียของร่างกายแล้วจะรักษาโรคภัยต่างๆ ได้ เพราะก่อนหน้านี้ฤาษีทวีเคยทำนายและแก้มนต์ดำให้ชาวบ้านในพื้นที่หลายคนจนมีชื่อเสียง ทั้งที่อยู่ที่สำนัก แต่หยั่งรู้หมดมองเห็นสิ่งของต่างๆ ในบ้านทักท้วงได้หมดเหมือนมองเห็นจริงๆ ซึ่งก็เชื่อในเรื่องนี้ และตอนที่หมอปลากับเจ้าหน้าที่เข้าไปนั้น ก็เชื่อว่าฤาษีจะรู้ล่วงหน้าแต่ไม่หนี 

นอกจากนี้ตนและภรรยาทราบเรื่องที่แม่ฤาษีทวีเสียชีวิตแล้วและเก็บศพไว้ เพราะปกติน้องชายของนายทวีจะไปหาฤาษีตลอด และเคยขอศพแม่กลับมาประกอบพิธีทางศาสนา แต่ฤาษีทวีไม่ให้ แต่พอมีเรื่องแบบนี้อาจไปขอรับศพแม่มาประกอบพิธีทางศาสนาที่ขอนแก่น ส่วนเรื่องฤษีให้เป็นตามกระบวนการทางกฎหมาย 


สำหรับเรื่องราวนี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่าขอตอบในหลักวิทยาศาสตร์ เรื่องลัทธิประหลาดกินปัสสาวะ – อุจจาระ รักษาโรคว่า ปกติในอุจจาระปัสสาวะร่างกายของคนเรา  เป็นของเสียที่ถูกขับออกมา ในอุจจาระ มีเชื้อโรค 

ตรวจสอบศพปริศนาในสำนักฤาษีประหลาดแบคทีเรีย มีพยาธิ เชื้อรา แม้ปัสสาวะ จะเป็นผ่านการกรองจากร่างกาย แต่ก็ไม่สมควรรับประทานอยู่ดี ปกติคนที่มีโรค หรือ มีการติดเชื้อทางเดินทางอาหาร การรับประทานอุจจาระก็สามารถได้รับเชื้อโรคจากอุจจาระได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่รับประทานทั้งอุจจาระ และ ปัสสาวะ เสมหะ หรือ หนองเข้าไปแล้วรู้ผิดปกติ ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรบริโภค   

ขณะที่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความเชื่อเรื่องกินอุจจาระ ปัสสาวะ รักษาโรค เป็นความเชื่อที่ขาดหลักเหตุผล เข้าข่ายงมงาย  สาเหตุเกิดจากคนมี 3 ภาวะที่เป็นสาเหตุ  1 มีความทุกข์มาก  2 วัฒนธรรมความเชื่อเฉพาะถิ่น  มีไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้อง และ 3 อิทธิพลจากเพื่อนหรือคนรอบข้างเป็นแรงเสริม ถ้ามี 3 อย่างนี้จะถือว่าเป็นความเชื่อที่เป็นความงมงายที่รุนแรง  ยิ่งมีการรวมกลุ่มกัน ยิ่งเป็นการเสริมความเชื่อซึ่งกันและกัน ให้เกิดการสนับสนุนความเชื่อซึ่งกันและกัน  วิธีการสลายความเชื่อนี้ ต้อง มีการสลายกลุ่ม โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องเข้ามาช่วยเหลือดูแล 

ล่าสุด เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต 11 ศพที่พบภายในสำนักฤาษีประหลาด พื้นที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ไปยังสุสานมูลนิธิในอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น หลังเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกันตรวจพิสูจน์ร่างผู้เสียชีวิต 11 ศพ ภายในสำนักฤาษีประหลาด พื้นที่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยเคลื่อนย้ายทั้ง 11 ศพไปพักไว้ที่สุสานของมูลนิธิจีแชเกาะ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เพื่อรอให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศล ระหว่างรอขั้นตอนการตรวจพิสูจน์แล้วเสร็จ ซึ่งหลักฐานบางอย่างต้องส่งไห้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ที่มีเครื่องมือทันสมัยตรวจพิสูจน์โดยละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเก็บตัวอย่างสิ่งปฏิกูล น้ำโอสถทิพย์ที่เชื่อว่า เป็นยาอายุวัฒนะ ไปตรวจพิสูจน์ด้วย 

พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร เผยว่าเบื้องต้นแจ้งข้อหานายทวี หนันรา เจ้าสำนักฤาษีประหลาด 3 ข้อหา คือบุกรุกป่า ,บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ และพรบ.ควบคุมโรค จากการไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่ง 3 ข้อหานี้ ให้การรับสารภาพ ประเด็นที่จะดำเนินคดีเพิ่มเติม คือ กระบวนการรักษาอาการเจ็บป่วย ส่วนคดีเกี่ยวเนื่องกับศพ อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ แม้จะมีใบมรณบัตรรับรอง แต่แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า จะจัดการศพด้วยการเผา แต่กลับมาเก็บไว้ที่สำนักฤาษี เช่นเดียวกับเบาะแสว่า มีการหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากลูกศิษย์ที่ศรัทธา ต้องสอบสวนขยายผลต่อไป ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ได้ขออำนาจศาลฝากขังนายทวีที่ศาลจังหวัดภูเขียว พร้อมคัดค้านการให้ประกันตัว เพราะไม่มีถิ่นฐานที่อยู่ชัดเจน เกรงจะหลบหนี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ขณะนี้ผู้ที่อยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี มีนายทวีเพียงคนเดียว

ขณะที่นายมานพ ทิพย์รักษ์ ปลัดอำเภอคอนสาร ให้ข้อมูลว่าภายในวันศุกร์นี้ จะนำประกาศมาติดว่าเป็นพื้นที่บุกรุกป่าสาธารณะประโยชน์ ไม่มีสิทธิ์เข้ามาอยู่อาศัย โดยจะให้เวลาออกนอกพื้นที่ภายใน 7 วัน หรือ 15 วัน หากไม่ออก ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจากพื้นที่ทั้งหมด 287 ไร่ สำนักฤาษีครอบครองใช้ประโยชน์ 26 ไร่ มีคนอยู่อาศัยประมาณ 30 คน 

ขณะที่บรรดาลูกศิษย์ยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนไม่ยอมพูดให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน บางส่วนบอกว่า มีความศรัทธา เพราะองค์ฤาษีสอนให้เป็นคนดี มีความกตัญญู ทำมาหากิน สิ่งปฏิกูลจากร่างกาย จำพวกอุจจาระ ปัสสาวะ เสมหะ ขี้ไคล ถูกมองข้าม เพราะมองว่า มาจากพระบิดาที่นับถือศรัทธา และดีต่อสุขภาพในความเชื่อของเจ้าตัว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]