เปิดปูมมือฆ่าสาวยัดกล่อง พบพัวพันยาเสพติด มีเมียมีลูกน้อย

สุพรรณบุรี 5 ก.พ.- เค้นสอบหนุ่มวัย 20 คดีฆ่าสาวยัดกล่องหมกป่าสุพรรณบุรี เจ้าตัวยอมรับก่อเหตุจริง มีสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่พ่อแม่ผู้ตายไม่รู้ หลังก่อเหตุหนีไปอยู่บ้านเมียที่กาฬสินธุ์ ป้าผู้ต้องหาเผยเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็ก เนื่องจากพ่อแม่หย่าร้าง ส่งเสียให้เรียน พอขึ้น ม.3 เริ่มยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พาไปบำบัด เชื่อหลานชายน่าจะเสพยาและไปก่อเหตุ ด้านเจ้าหน้าที่ พฐ.เก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องพักผู้ต้องหา พบกล่องพลาสติกสีเขียวซุกห้องน้ำร้าง ภายในกล่องพบชิ้นส่วนสายเสื้อชั้นในหล่นอยู่ 1 ชิ้น คาดอาจเป็นกล่องที่คนร้ายนำศพใส่ครั้งแรก แต่กล่องแตก จึงนำกล่องสีดำใบที่พบมาใส่และนำไปทิ้ง


ชุดสืบสวนฯ ควบคุมตัวนายธนกร (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี เดินทางกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี หลังจากหนีไปกบดานที่บ้านพักของภรรยา ภายในหมู่บ้านหนองมะงง ตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ และถูกแกะรอยควบคุมตัวได้สำเร็จ โดยนายธนกรฯ เดินทางกลับไปที่บ้านพักของภรรยาตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากก่อเหตุฆ่านางสาวสุมิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี หรือ “น้องเต็น” เสียชีวิต และนำศพยัดกล่องพลาสติกไปทิ้งในพงหญ้า หลังแคมป์คนงานแพลนต์ปูนในพื้นที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี กระทั่งตำรวจขอศาลอนุมัติหมายจับ

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายธนกรฯ บอกว่ายอมรับว่าก่อเหตุจริง เพราะมีสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่พ่อแม่ผู้ตายไม่รู้ ส่วนในวันเกิดเหตุได้เข้าไปห้องผู้ตายและพูดคุยกัน ซึ่งผู้ตายต้องการให้รับเลี้ยงดูฉันสามีภรรยาและต้องการบอกให้บิดาของผู้ตายให้รับรู้ แต่ฝ่ายชายไม่อยากรับเลี้ยงดูเพราะมีลูกเมียอยู่แล้ว จึงเกิดปากเสียงกัน และนายธนกรได้ใช้มือบีบคอผู้ตาย และนำศพไปยัดใส่กล่องที่ห้องตัวเอง จากนั้นได้ให้เพื่อนที่เป็นชาวเมียนมาช่วยยกศพลงมาซุกซ่อนไว้ ก่อนหลบหนีมาอยู่กับภรรยา


พบกล่องปริศนา คาดเป็นกล่องใบแรกที่ยัดศพไม่ลง

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงานว่า หลังจากที่มีการนำตัวนายธนกรมาสอบปากคำ ปรากฏว่าชุดสืบสวนฯ ได้ควบคุมตัวอย่างแน่นหนาและไม่สามารถบันทึกภาพขณะอยู่ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี  แต่มีรายงานว่าตำรวจนำตัวเข้าห้องขัง และพบมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) เวลา 10.00 น. พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จะแถลงข่าวความคืบหน้าของคดีที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี 

ต่อมาเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องพักของนายธนากร และนางสาวสุมิตาเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยพบกล่องพลาสติกสีเขียว ซุกในห้องน้ำร้างข้างบันไดทางขึ้นหอพัก เป็นกล่องพลาสติกขนาดใหญ่สีเขียว ยาวประมาณ 70 ซม. และสูงประมาณ 50 ซม. ซึ่งเป็นกล่องของ “น้องเต็น” ที่หายไป โดยพบว่ากล่องมีสภาพแตก และภายในกล่องพบเศษชิ้นส่วนของสายยกทรงหล่นอยู่ 1 ชิ้น คาดว่าอาจเป็นกล่องที่คนร้ายนำร่างยัดใส่ในทีแรกแต่กล่องแตก จึงนำกล่องสีดำใบที่พบมาใส่ศพและนำไปทิ้ง


เมียผู้ก่อเหตุรับไม่ได้ เชื่อผัวอารมณ์ร้อนฆ่าสาว

อีกด้านที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปที่บ้านพักของภรรยานายธนกร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มุงด้วยสังกะสีที่สร้างยังไม่เสร็จ และได้พบกับนางสาวปิยะพร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ภรรยานายธนกร และลูกสาววัย 4 เดือน รวมถึงคนในครอบครัว

โดยภรรยาของนายธนกร บอกว่าสามีมีชื่อว่า “แป๊บ” เพิ่งจะอยู่กินฉันสามีภรรยาได้ 1 ปี ปัจจุบันมีลูกสาววัย 4 เดือน 1 คน ซึ่งสามีมีบ้านอยู่ในอำเภอสมเด็จ ก่อนเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่สุพรรณบุรีได้ 5-6 เดือน ปกติสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาบ้านเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ บอกเพียงว่าคิดถึงลูกแต่ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะทุก 2 เดือนจะกลับมาเยี่ยมบ้าน กระทั่งเมื่อวาน (4 ก.พ.) มีตำรวจมาตามจับตัวสามีถึงบ้าน จึงตกใจมาก และเชื่อว่าน่าจะมีการเสพยาเสพติดด้วย จึงไปก่อเหตุเช่นนั้น

หลังจากนั้นในช่วงบ่าย ปรากฏว่ามีญาติของนายธนากรเดินทางมาเยี่ยมและสอบถามถึงเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงพบว่ามีเพื่อนบ้านมาคอยให้กำลังใจ โดยนางบัวผัน ยายของภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า ปกติหลานเขยจะเป็นคนเงียบๆ ไม่พูดจากับใคร แต่ขยับทำงาน และ 1-2 เดือนจะเดินทางกลับมาเยี่ยมลูกน้อย ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ แต่หากรับสารภาพก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

เปิดปูมหลังมือฆ่าพบเป็นเด็กกำพร้า ติดเกม-ติดยา

เช่นเดียวกับนางประกาย อายุ 46 ปี  ป้าของนายธนากร กล่าวว่า นายธนากรเป็นเด็กกำพร้า เนื่องจากพ่อแม่หย่าร้างจึงเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก มีความรักความผูกพันและส่งเสียเล่าเรียนเหมือนลูกในไส้ แต่พอเรียนชั้น ม.1-ม.2 ก็เริ่มติดเกม และพอขึ้น ม.3 เริ่มยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ซึ่งตนและญาติก็พยายามห้ามปราม และควบคุมความประพฤติอย่างเต็มที่แต่พลาดจนได้ เนื่องจากยาเสพติดระบาดมาก จนกระทั่งพาไปบำบัดรักษาและเริ่มห่างจากยาเสพติด ต่อมาเมื่อมาได้ภรรยาที่อำเภอห้วยผึ้ง จึงวางใจคิดว่าจะกลับตัวกลับใจได้ และไม่คิดว่าจะหันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก เชื่อว่ากรณีดังกล่าวหลานชายน่าจะเสพยาและไปก่อเหตุ 

ทั้งนี้ มีรายงานล่าสุดว่าผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุสาเหตุการตายคือ เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ อาจเกิดจากการขาดอากาศหายใจหรือได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับร่องรอยการถูกข่มขืน ซึ่งครอบครัวได้ติดต่อขอรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้วเมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา

สำหรับนายธนกร จะถูกดำเนินคดีฐานฆ่าผู้อื่น และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และหากสอบสวนไปจนชัดเจนแล้วว่ามีเพื่อนชาวเมียนมาร่วมก่อเหตุยกศพลงมาซุกซ่อนไว้ก็จะถูกดำเนินคดีอีกคน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]