ญาติ “เสี่ยก้อง” เตรียมแจ้งความเอาผิดสาวคนสนิท-น้องชาย

กาญจนบุรี 1 ก.พ. – ญาติ “เสี่ยก้อง” เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดัง จ.กาญจนบุรี เตรียมแจ้งความเอาผิดสาวคนสนิท รวมถึงน้องชาย หลังมีคลิปเผยแพร่เหตุการณ์ขณะ “เสี่ยก้อง” ตกจากรถของสาวคนสนิท ทั้งยังเชื่อว่าไม่น่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกจากรถ ด้าน น.ส.เเหม่ม พร้อมน้องชาย เข้าพบ “ทนายเดชา” ขอคำปรึกษาสู้คดี


นี่เป็นภาพของญาติ “เสี่ยก้อง” หรือนายอภิชาต พูลเผือก อายุ 39 ปี เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดังใน จ.กาญจนบุรี ที่ไม่พอใจอย่างหนัก ถึงกับสะกดอารมณ์ไม่อยู่ โวยกลางงานฌาปนกิจ หลังเห็นคลิป “เสี่ยก้อง” ตกลงมาจากรถของสาวคนสนิท แต่ไม่มีใครช่วย

โดยคลิปจากกล้องติดหน้ารถ เป็นคันที่ขับตามรถของสาวคนสนิท “เสี่ยก้อง” บันทึกไว้เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ “เสี่ยก้อง” ประสบอุบัติเหตุ โดย “เสี่ยก้อง” นั่งรถกระบะป้ายแดง ที่มีเพื่อนสาวคนสนิทเป็นคนขับ ซึ่งจากคำบอกเล่าของเพื่อนสาวคนสนิทในตอนแรก วันเกิดเหตุ ระหว่างขับรถ “เสี่ยก้อง” และเพื่อนสาวคนดังกล่าว มีปากเสียงทะเลาะกันบนรถ โดย “เสี่ยก้อง” พยายามบอกให้เพื่อนสาวจอดรถ แต่เพื่อนสาวไม่ยอมจอด กระทั่งจังหวะรถเลี้ยวโค้ง “เสี่ยก้อง” เปิดประตูรถออก และกระโดดลงไปเอง จนศีรษะกระแทกพื้นถนน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่รถคันที่ขับตามมา ก็คือน้องชายของสาวคนสนิท ได้ช่วยกันโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยมาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล


จากคลิปภาพกล้องหน้ารถที่ญาติๆ เห็น ต่างพากันโกรธแค้นสาวคนสนิทของเสี่ยก้อง และน้องชาย เพราะเมื่อดูคลิปแล้วเห็นว่า ช่วงเกิดเหตุ “เสี่ยก้อง” พยายามเปิดประตูรถ เพื่อขู่ให้เพื่อนสาวจอดรถจริง แต่เพื่อนสาวคนดังกล่าวกลับเร่งความเร็ว ทำให้รถกระชาก จนทำให้ “เสี่ยก้อง” ตกจากรถ ร่างกระแทกพื้นอย่างรุนแรง จากนั้นเพื่อนสาวคนดังกล่าวได้จอดรถลงมาดู พร้อมตะโกนด่าทอ “เสี่ยก้อง” และยังบอกให้รีบลุกขึ้นมา โดยไม่เข้าไปให้การช่วยเหลือใดๆ ขณะที่น้องชายของเพื่อนสาวคนดังกล่าว ที่นั่งอยู่ในรถคันติดกล้อง ซึ่งขับตามมา ได้ตะโกนบอกให้พี่สาว รวมทั้งเพื่อนที่อยู่ในรถคันติดกล้อง ไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ “เสี่ยก้อง” ปล่อยให้นอนอยู่แบบนั้น ทั้งยังกล่าวหาว่า “เสี่ยก้อง” แกล้งเจ็บเรียกร้องความสนใจ และกว่าจะมีการโทรศัพท์ตามเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาให้ความช่วยเหลือ เวลาก็ผ่านไปมากกว่า 20 นาที ทำให้ “เสี่ยก้อง” อาการสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด

คลิปนี้ คำพูดแบบนี้ ทำให้ครอบครัวและเพื่อนสนิท “เสี่ยก้อง” ถึงกับรับไม่ได้ ก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “ฟิวส์ขาด” กลางงานฌาปนกิจ ตามที่เห็นในคลิป ซึ่งญาติๆ ต่างตะโกนด่าทอเพื่อนสาวคนสนิทของ “เสี่ยก้อง” อย่างรุนแรง และพยายามจะเข้าไปเอาเรื่อง จนแขกที่มาร่วมงานศพต้องช่วยกันห้ามปราม และขอให้เพื่อนสาวคนสนิท “เสี่ยก้อง” ออกจากงานศพไปก่อน

ล่าสุดวันนี้ (1 ก.พ.) น.ส.พภัสสรณ์ ปิ่นจุ หรือ นุ่น อายุ 37 ปี ภรรยาเสี่ยก้อง พร้อมนางลักษ์ชนก ฮิดาคา อายุ 39 ปี พี่สะใภ้เสี่ยก้อง ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสังวรณ์ ผกก.สภ.ท่าม่วง ให้ช่วยตรวจสอบการเสียชีวิตของ “เสี่ยก้อง” หลังจากได้ทำการฌาปนกิจศพ “เสี่ยก้อง” ไปเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากมาเห็นภาพคลิปแบบเต็มๆ ยาวๆ แล้ว พี่สะใภ้และภรรยาเกิดข้อสงสัยการเสียชีวิตของ “เสี่ยก้อง” คงไม่ใช่แค่ตกจากรถธรรมดา น่าจะมีการถูกทำร้ายก่อนมากกว่า


น.ส.พภัสสรณ์ ภรรยา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุสามีได้พาตนเองไปส่งยังคลินิก เพื่อตรวจร่างกาย โดยมีตนเอง สามี และลูกสาวไปด้วย จากนั้น น.ส.แหม่ม หญิงสาวคนสนิทของ “เสี่ยก้อง” มาปรากฏตัวบริเวณหน้าคลินิก สามีจึงเดินออกไปพบกับ น.ส.แหม่ม และเกิดทะเลาะมีปากเสียงกัน เสียงดังมาก บริเวณรถกระบะป้ายแดง ที่มี น.ส.แหม่ม เป็นคนขับมา กระทั่งตนเองเดินออกไปเพื่อกลับบ้าน เนื่องจากตรวจร่างกายเสร็จแล้ว น.ส.แหม่ม ได้เดินเข้ามาหาตน คาดว่าน่าจะให้ตนเคลียร์เรื่องที่ว่า สามีตนจะอยู่กับใคร ระหว่างตนกับ น.ส.แหม่ม ซึ่งตนเองไม่สนใจ เพราะมีลูกสาวไปด้วย ไม่อยากให้ลูกทราบเรื่องของผู้ใหญ่ ก่อนที่สามีกับ น.ส.แหม่ม จะพากันขึ้นรถกระบะป้ายแดงออกไป จนเกิดเหตุตามคลิป และจริงๆ แล้วไม่ควรจะเคลื่อนย้ายสามี ควรให้ทางมูลนิธิฯ หรือผู้ชำนาญไปเคลื่อนย้ายจะดีกว่า เพราะรู้ว่าจะเคลื่อนย้ายอย่างไรให้ปลอดภัย จากที่อาจจะยังไม่เสียชีวิต แต่การเคลื่อนย้ายไม่ถูกต้องจึงทำให้เสียชีวิตก็เป็นได้

ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสังวรณ์ ผกก.สภ.ท่าม่วง เปิดเผยว่า เรื่องนี้ต้องสอบสวนจากกล้องวิดีโอ พร้อมกับผู้ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นอีกครั้ง จากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว การใช้รถมีกฎหมายว่าเข้าข่ายความประมาทหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย การทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตั้งแต่เห็นคลิปทั้งหมดแล้ว การที่ฝ่ายผู้เสียหายนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติมก็เป็นเรื่องที่ดี ทางเจ้าหน้าที่ได้เริ่มดำเนินการสอบสวนต่อไปแล้ว รอให้หลักฐานชัดเจนก็จะแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการเสียชีวิตต่อไป

ล่าสุดวันนี้ (1 ก.พ.) เวลา 14.30 น. น.ส.เเหม่ม เเละนายเจฟ น้องชาย ได้เข้าพบ “ทนายเดชา” เพื่อขอคำปรึกษาทางคดี ก่อนจะเเถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมกับนำคลิปจากกล้องหลังรถ มาเปิดเผยเพิ่มเติม เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า หลังเกิดเหตุมีการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจริง โดยคลิปจากกล้องหลังรถเป็นเหตุการณ์ขณะที่ น.ส.แหม่ม และน้องชาย กำลังปฐมพยาบาล และนำ “เสี่ยก้อง” ขึ้นรถเพื่อส่งโรงพยาบาล

น.ส.เเหม่ม ยืนยันว่า ไม่ได้วางแผนฆ่า “เสี่ยก้อง” ก่อนเกิดเหตุ ตอนอยู่บนรถ ตนเองกับ “เสี่ยก้อง” มีปากเสียงกันมาตลอดทาง เรื่องที่จับได้ว่าฝ่ายชายยังไม่เลิกกับภรรยา เเละภรรยายังท้องด้วย เพราะตอนที่คบกัน ผู้ตายอ้างว่าเลิกกับภรรยาไปเเล้ว ดังนั้นจึงจะพาผู้ตายไปบ้านภรรยาหลวง เพื่อจะเคลียร์กันให้รู้เรื่อง เเต่ผู้ตายไม่ยอมไป ก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงจากรถ เพื่อประชด

เเต่หลังจากเกิดเหตุ หลังคลิปจบ ตนเองเเละน้องชายพยายามจะช่วยกันอุ้มผู้ตายขึ้นรถ เพื่อนำส่งโรงพยาบาล เเต่สังเกตเห็นว่า ผู้ตายมีอาการบาดเจ็บที่ขา จึงไม่กล้าเคลื่อนย้าย จึงโทรเเจ้งกู้ภัยให้มารับตัวส่งโรงพยาบาลเเทน

ส่วนความเร็วของรถขณะเกิดเหตุ ไม่เกิน 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง เเต่จังหวะที่ผู้ตายกระโดด เป็นจังหวะที่ตนเองเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ดูเหมือนรถพุ่ง เเต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาเร่งเครื่อง

ทั้งนี้ ตนเองรักผู้ตายมาก หลังจากทราบข่าวว่าญาติเข้าเเจ้งความ ก็เสียใจมาก เพราะตลอดระยะเวลาที่คบหากับผู้ตาย ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวผู้ตายมาโดยตลอด ทุกคนรับรู้ว่าเราคบกัน เเต่วันนี้ต้องตกเป็นจำเลยสังคม ถูกกล่าวหาว่าฆ่าสามี

ด้าน “ทนายเดชา” เปิดเผยแนวทางหลังจากนี้ว่า การที่ญาติผู้ตายกล่าวหา น.ส.เเหม่ม หรือต้องการดำเนินคดี ก็เป็นสิทธิ ซึ่งทาง น.ส.เเหม่ม ก็มีสิทธิที่จะสู้คดี สำหรับหลักฐานในทางคดี คือ คลิปที่ผู้ตายตกลงจากรถ ซึ่งชัดเจนเเล้วว่ากระโดดลงจากรถเอง หลังจากนี้ต้องไปสู้กันในชั้นศาล ซึ่งตนเองรับเป็นที่ปรึกษาทางคดีให้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]

“แพทองธาร” ลั่นพ่อป่วยจริง แจงสังคมได้

ทำเนียบ 13 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ลั่นแจงสังคมได้ พ่อป่วยจริง ใครจะคิดอย่างไร ห้ามไม่ได้ ชี้มติแพทยสภาว่าไปตามกระบวนการ เผย “ทักษิณ” เตรียมไปศาล 13 มิ.ย.นี้ ย้ำเหตุเกิดก่อนตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นการล้อมกรอบพรรคเพื่อไทย และมองกันว่าเป็นการแบ่งชนชั้นว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นอย่างไร และยังไม่มีแพทยสภาคนใด ที่ออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะแปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนจะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา จะมีผลอะไรตามมากับนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าไม่มีและคุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงแค่นั้น เป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นนี้สามารถแจงสังคมได้ใช่หรือไม่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แจงได้ และพูดมาตลอดว่า นายทักษิณอายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุประมาณ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอก และเกี่ยวเนื่องกันมา […]

เพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซ.ฉลองกรุง 55 ดับสนิทแล้ว

กทม. 13 พ.ค. – เหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 ไฟดับแล้วทุกจุด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสารเคมี เตรียมปิดศูนย์บัญชาการวันนี้ แต่เปิดศูนย์พักพิงให้บริการประชาชนต่อเนื่อง กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม กระทั่งเมื่อคืนนี้ช่วง 01.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม เกิดมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้งบางจุด เนื่องจากอุณหภูมิพลาสติกที่สูงสะสมประกอบกับลมแรง แต่เป็นเพียงหย่อมเล็กๆ และไม่มีการลามไปยังจุดอื่นๆ เจ้าหน้ายังคงคอยควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันการลุกไหม้ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศขณะนี้ พบว่ายังคงมีกลุ่มควันลอยออกมาจากตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ และยังคงมีกลิ่นสารเคมีลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ วันนี้ นางเกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ด้วย ด้าน นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด […]