นครนายก 26 ม.ค.- ไปดูความแสบของขบวนการต้มตุ๋น หลอกผู้เสียหายซื้อ-ขายที่ดิน พร้อมอ้างรู้จักแม่ชีช่วยให้ซื้อที่ดินได้ง่ายขึ้น ออกอุบายให้นำเงินไปฝังรอบบ้านแก้เคล็ด สูญเงินรวมแล้วกว่า 33 ล้านบาท ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ก็โดนหลอกเช่นกัน รวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท
ที่จังหวัดนครนายก ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากสองสามีภรรยา เป็นอดีตอาจารย์ ข้าราชการ เกษียณอายุ ที่อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก หลังถูก นางกุ้ง ภรรยาของคนงานที่มาทำงาน เป็นคนขับรถเกี่ยวข้าว ที่สนิทสนมกับครอบครัวสามารถเข้านอกออกในบ้านไว้ใจ จนกระทั่งเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 2560 นางกุ้งอ้างว่า พบกับแม่ชีคนหนึ่งชื่อ แม่ชีมาลี เป็นชาวจังหวัดนครนายก และไปบวชที่เขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี โดยบังเอิญ ซึ่งแม่ชีคนนี้ได้ทำนายทายทักนางกุ้งแม่นทุกอย่าง นางกุ้งจึงติดต่อเพื่อให้ได้ดูดวงกับแม่ชี แม่ชีก็ได้ทำนายตนเรื่องครอบครัวแม่นทุกอย่างจึงหลงเชื่อ
จากนั้นนั้นนางกุ้งก็เริ่มชักชวน ให้ซื้อที่ดินมาเรื่อยๆ รวมๆ แล้ว 33 แปลง ประมาณ 400 กว่าไร่ โดยนางกุ้งบอกว่า ที่ดินตรงไหนที่จะซื้อหากเจ้าของไม่ลดราคา หรือไม่ยอมขายให้ก็จะให้แม่ชีมาลีทำพิธี โดยการแก้เคล็ดให้นำเงินไปฝั่งดินรอบๆ ตัวเอง โดยมีข้อแม้ว่าให้นำเงินส่งให้นางกุ้งจากนั้นให้หันหลังห้ามหันกลับมามอง จากนั้นก็ให้นางกุ้ง นำไปขุดหลุมฝั่งภายในรั้วบ้าน มีเงื่อนไขมูลค่าที่ดินหากราคา 1 ล้านบาท ก็จะใช้เงินนำไปฝั่ง 1 แสนบาท หรือ 10% ของมูลค่าที่ดินที่ไปฝั่ง ทำแบบบนี้มากกว่า 50 ครั้ง ตั้งแต่ปี 60 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาตนไม่เคยเอะใจว่าจะถูกนางกุ้งหลอก เนื่องจากไว้ใจ และรักในตัวนางกุ้งที่ทำงานและอยู่ด้วยกันมานาน
จนกระทั่งตนเองมีความจำเป็นต้องใช้เงินนำไปใช้หนี้ จึงโทรหาแม่ชีมาลีว่าจะขอขุดเงินที่ฝังไว้มาใช้หนี้ ซึ่งแม่ชีมาลีบอกว่าต้องให้นางกุ้ง เป็นคนขุดเงินขึ้นมา จากนั้นนางกุ้งได้เข้ามาหาที่บ้าน และเดินไปขุดนำเงินที่ฝังขึ้นมาโดยอ้างว่าเงินที่ขุดขึ้นมาต้องเอาไปฝังในหลุมใหม่ เพื่อเป็นการล้างหน้าเงินแก้เคล็ด จากนั้นก่อนที่นางกุ้งจะกลับ ได้กำชับตนว่าห้ามขุดเงินขึ้นมาให้รอตนเป็นคนขุดขึ้นมา จนกระทั่งเวลาผ่านไปนางกุ้งก็ยังไม่มาอย่างที่บอกไว้ จึงเกิดเอะใจพฤติกรรม เข้าวันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปขอความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพลี เพื่อมาร่วมขุดเงิน แต่เมื่อขุดขึ้นมาก็พบว่าภายในเป็นส้มโอ หิน และกระดาษ จึงรู้ว่าถูกนางกุ้งหลอกมาตลอด หลังทุกอย่างถูกเปิดเผย นางกุ้งได้เข้ามากราบและบอกว่าจะหาเงินมาใช้คืนทุกบาทุกสตางค์ จำนวนกว่า 33 ล้านบาท จนกระทั่งวันที่ 21 มกราคม 2565 ตนก็ไม่สามารถติดต่อ นางกุ้ง ได้อีก
ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านในพื้นที่ที่รู้ข่าวได้เดินทางมายังบ้านของผู้เสียหายรายนี้ พร้อมแจ้งว่าตนก็ถูกนางกุ้งใช้อุบายเดียวกันกับทีหลอกผู้เสียหายรายนี้ ซึ่งบางคน ไม่มีเงินก็จะใช้อุบายว่าให้โอนเงินจำนวน 5,000- 10,000 บาท ฝากตนไปให้แม่ชีเพื่อให้แม่ชีทำพิธีให้ แต่ผู้เสียหายและชาวบ้านที่ถูกนางกุ้งหลอก ต่างพูดตรงกันว่า ไม่มีใครเคยเห็นแม่ชีมาลีคนนี้มาก่อน โดยชาวบ้านที่ถูกหลอกได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม่ชีมาลีนั้นอาจไม่มีตัวตนจริงๆ รวมถึงเจ้าของที่ดิน ส่วนเสียงโทรศัพท์ที่พูดคุยกับแม่ชี หรือเจ้าของที่ดินนั้นน่าจะมาจากนางกุ้งใช้แอปเปลี่ยนเสียงหลอกผู้เสียหายทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย