กาญจนบุรี 10 ม.ค.- ทีมสัตวแพทย์ ออกติดตามค้นหาช้างป่าที่ถูกรถกระบะชนบาดเจ็บ เพื่อช่วยรักษา โดยเดินบุกป่าทึบขึ้นเขาไปประมาณ 1 กิโลเมตร พบช้างบาดเจ็บส่งเสียงร้อง ก่อนหันพุ่งเข้าใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกชีวิตต้องวิ่งเอาชีวิตรอด
จากเหตุรถกระบะคันหนึ่งพุ่งชนช้างป่าอย่างแรงบริเวณถนนสาย 3199 บ้านท่ามะนาว หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นเหตุทำให้รถได้รับความเสียหาย และมีหญิง 2 คนบาดเจ็บ ขณะที่ช้างป่าที่ถูกชนบาดเจ็บขาขวาหน้า และหนีเข้าป่า
ล่าสุดนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ลงพื้นที่ เดินเท้าจากถนนใหญ่ที่เกิดเหตุเข้าไปในป่าทึบ เพื่อไปดูอาการช้าง โดยขณะทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่เขตสลักพระ พร้อมสื่อรวมกว่า 20 ชีวิตเดินเข้าไปในพื้นที่ได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ได้ยินเสียงช้างร้องคล้ายเสียงเด็ก และในจังหวะที่ทุกคนกำลังเผลอ ช้างป่าหันตัวพุ่งเข้าใส่ทีมงาน ทำให้ทุกคนต้องวิ่งหนีกันกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งตั้งสติได้ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อหยุดช้าง ทำให้ช้างชะงัก แล้วเดินลากขาหน้าที่เจ็บหนีขึ้นไปด้านบน
หลังเกิดเหตุระทึก เจ้าหน้าที่ได้หารือปรับแผน เพื่อหวังช่วยช้างให้ได้ สุดท้ายตัดสินใจขอทีมโดรนบินหาพิกัด และเตรียมนำยาผสมผลไม้ไปวางตามจุดต่างๆ ให้ช้างได้กินรักษาอาการบาดเจ็บ โดยคาดว่าต้องใช้เวลาหลายวันในการดูแลรักษาช้างตัวนี้
ล่าสุด ทีมสัตวแพทย์สามารถเอายาปฏิชีวนะให้ช้างกินสำเร็จ โดยเอายาปฏิชีวนะ 20 เม็ด และยาลดการอักเสบ 35 เม็ด ยัดใส่กล้วยและสับปะรด เอาไปวางไว้ 2 จุด คือ บ่อน้ำเจดีย์พุขนาย และบริเวณป่าหัวพุขนาย ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร โดยช้างกินยาที่ป่าพุขนาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังต้องติดตามดูพฤติการณ์ของช้างตลอดเวลา แบบห่างๆ เนื่องจากช้างป่าตัวนี้มีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นช้างเพศผู้หรือเพศเมีย อายุประมาณ 10-15 ปี น้ำหนักมากถึง 6 ตัน ซึ่งถือว่าเป็น 1 ในช้างป่าสลักพระที่ตัวใหญ่ที่สุดตัวหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย