สุราษฎร์ธานี 30 พ.ย.-จ.สุราษฎร์ธานี ยังมีน้ำท่วมขังพื้นที่ราบลุ่ม จังหวัดย้ำเตือนทุกพื้นที่เฝ้าระวัง โดยเฉพาะคนที่อยู่ใกล้แม่น้ำพื้นที่รับน้ำจากนครศรีธรรมราช ขณะที่กรมชลประทานเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 52 ตัว ระบายน้ำลงทะเล
หลังกรมอุตุฯ แจ้งเตือน เรื่องฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุดมีน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอพุนพิน บ้านนาเดิม และอำเภอเคียนซา ทำให้กรมชลประทานจังหวัดสุราษฎร์ธานีต้องเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามคลองตาปี และสะพานข้ามคลองพุนพิน รวมถึงบนทางหลวงสาย 420 อำเภอพุนพิน เพื่อให้น้ำไหลลงทะเลโดยเร็ว โดยผู้ว่าฯ บอกว่าตอนนี้ทุกพื้นที่น่าห่วงหมด โดยเฉพาะพื้นที่พุนพิน ต้องติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 52 เครื่อง เพื่อระบายน้ำ พร้อมสั่ง ปภ.ย้ำเตือนประชาชนไม่ประมาท โดยเฉพาะคนที่อยู่ริมแม่น้ำปี เพราะพื้นที่นี้เป็นจุดรับน้ำจากจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังสั่งตั้งศูนย์พักพิง โรงเรียนบ้านไทรงาม ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน เพื่อรองรับผู้ประสบภัย และเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยยกของขึ้นที่สูง เพราะระดับน้ำมีโอกาสสูงขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนที่อำเภอเคียนซา น้ำที่หลากเข้าพื้นที่หมู่ 7 และ 9 ในตำบลพ่วงพรมคร ทำให้เกิดน้ำท่วมสูง ชาวบ้าน 120 ครัวเรือน ต้องเร่งยกของขึ้นที่สูงและอพยพไปพักยังจุดที่ปลอดภัย ขณะที่อำเภอท่าชนะ ฝนหยุดตกแล้ว ระดับน้ำได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่ได้เดินหน้าเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่หมู่ 3, 6, 7, 11 และ 13 ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม ซึ่งอยู่ริมลุ่มน้ำคลองเสาธง และเป็นรอยต่อของอำเภอพระพรหม ร่อนพิบูลย์ และลานสกา มีน้ำหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 100 หลังคาเรือน และบางบ้านน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ รองรับน้ำ ทหารต้องเร่งช่วยเหลือ นำเต็นท์เข้าติดตั้งให้ผู้ประสบภัยได้พักอาศัยชั่วคราว ขณะที่เทศบาล พร้อมชลประทานที่ 15 เร่งเดินเครื่องผลักดันน้ำในคลองสายหลัก เพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเล ซึ่งสภาพโดยรวมของจังหวัดฝนเริ่มหยุดตกในหลายพื้นที่ เชื่อว่าหากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย