น้ำท่วม 5 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังต่อเนื่องทั่วทั้งภาคถึงพรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 13 พ.ย.-ปภ. รายงานน้ำท่วม 5 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากทั่วทั้งภาค 14 จังหวัดจนถึงวันพรุ่งนี้ กอนช. สั่งทุกหน่วยเตรียมแผนเผชิญเหตุช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะ จ.ชุมพร

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยและน้ำป่าไหลประจำวันนี้ (13 พ.ย.) จากฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งด้วยอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 พ.ย. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีก่อนหน้านี้ และภาคใต้ 5 จังหวัดคือ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา รวม 26 อำเภอ 66 ตำบล 256 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,246 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย


สำหรับที่จังหวัดเพชรบุรี น้ำท่วม 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านลาด บ้านแหลม เมืองเพชรบุรี ท่ายาง แก่งกระจาน และหนองหญ้าปล่อง รวม 13 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 110 ครัวเรือน โดยระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง

ส่วนภาคใต้น้ำท่วม 5 จังหวัด รวม 20 อำเภอ 53 ตำบล 209 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,136 ครัวเรือนดังนี้


  • ระนอง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระบุรีและละอุ่น รวม 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 100 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  • ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน ทุ่งตะโก สวี และพะโต๊ะ รวม 25 ตำบล 153 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,683 ครัวเรือน โดยระดับน้ำทรงตัว
  • สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสงและดอนสัก รวม 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 182 ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 182 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  • นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พระพรหม สิชล ร่อนพิบูลย์ และนบพิตำ รวม 10 ตำบล 17 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 160 ครัวเรือน โดยระดับน้ำลดลง
  • สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา ระโนด สิงหนคร สทิงพระ ควนเนียง สะเดา และคลองหอยโข่ง รวม 12 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ปภ. ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคใต้ คาดจะเคลื่อนลงทะเลอันดามันในวันที่ 14 พ.ย. ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้แจ้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ 14 จังหวัดภาตใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย.

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่

  • ประจวบคีรีขันธ์ ในทุกอำเภอ
  • ชุมพร ในทุกอำเภอ
  • สุราษฎร์ธานี ใน 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง วิภาวดี กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก คีรีรัฐนิคม พนม เวียงสระ เคียนซา พระแสง บ้านนาสาร ชัยบุรี บ้านตาขุน และเกาะสมุย
  • นครศรีธรรมราช ใน 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พรหมคีรี พิปูน ฉวาง ลานสกา
    ช้างกลาง ร่อนพิบูลย์ ทุ่งสง นาบอน ขนอม สิชล นบพิตำ ชะอวด ท่าศาลา และจุฬาภรณ์
  • พัทลุง ใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะโหมด ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ กงหรา ป่าบอน ป่าพะยอม และ
    เขาชัยสน
  • สงขลา ในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา รัตภูมิ จะนะ หาดใหญ่ สะเดา สะบ้าย้อย นาหม่อม และนาทวี
  • ปัตตานี ในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์
  • ยะลา ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอยะหา กาบัง บันนังสตา กรงปินัง ธารโต และเบตง
  • นราธิวาส ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสาคร รือเสาะ และจะแนะ
  • ระนอง ในพื้นที่ทุกอำเภอ
  • พังงา ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า คุระบุรี กะปง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง
  • ภูเก็ต ในพื้นที่อำเภอถลาง
  • กระบี่ ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม และปลายพระยา
  • ตรัง ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง ปะเหลียน ห้วยยอด นาโยง และย่านตาขาว
  • สตูลในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งหว้า ควนกาหลง มะนัง ละงู และควนโดน

ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้แก่


  • ชุมพร ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร ปะทิว สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และละแม
  • สุราษฎร์ธานี ในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง พุนพิน กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะพงัน และเกาะสมุย
  • นครศรีธรรมราช ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล ท่าศาลา ปากพนัง และหัวไทร
  • สงขลา ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา ระโนด สทิงพระ สิงหนคร จะนะ และเทพา
  • ปัตตานี ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองจิก ยะหริ่ง ปานาเระ สายบุรี และไม้แก่น
  • นราธิวาส ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส และตากใบ

ทั้งนี้ได้ประสานให้จังหวัดเสี่ยงภัยและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที หากประเมินแล้วมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด รวมทั้งขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ภัย และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมความพร้อมมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นด้วย

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำประจำวัน (13 พ.ย.) ว่า บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักมากหลายพื้นที่ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และกระบี่ โดยปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในจังหวัดชุมพรได้แก่ อ.ทุ่งตะโก 551 มม. อ.สวี 383 มม. อ.เมือง 229 มม. สุราษฎร์ธานีได้แก่ อ.เกาะสมุย 159 มม. นครศรีธรรมราชได้แก่ อ.ท่าศาลา 122 มม. ระนองได้แก่ อ.เมือง 108 มม. และ สงขลาได้แก่ อ.เมือง 202 มม. ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่

ทั้งนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยเฉพาะจังหวัดชุมพรได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดชุมพรเพื่อเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่มแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก