ตรัง 17 มิ.ย.- ตำรวจห้วยยอด เร่งเช็กกล้องวงจรปิด ปูพรมค้นร้านทำประตูเหล็กม้วน โรงกลึง ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ เพื่อหาแก๊งวางตะปูเรือใบบนถนน ทำให้รถที่ใช้เส้นทางเสียหาย ยางรั่วกันไปหลายคัน
เหตุการณ์วางตะปูเรือใบเกิดขึ้นบนถนน 2 จุดในเส้นทางตลาดเสริมสุข-สนามกีฬาเทศบาลห้วยยอด และทางหลวงเพชรเกษม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ซึ่ง 2 จุดอยู่ห่างกันไม่ถึง 4 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่เปลี่ยว โดยตำรวจห้วยยอดได้รับเบาะแสจากผู้ใช้ เฟซบุ๊กรายหนึ่งเล่าว่า ขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวแล้วพบเหล็กตะปูเรือใบ ลักษณะเป็นครีบฉลามสูง 1 นิ้ว และตะปูตอกคอนกรีตยาว 2 นิ้ว ตอกยึดกับผิวถนน ทำให้รถหลายคันที่ขับผ่านยางรั่ว ยางแตก นอกจากนี้ เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีสมาชิกสภาเทศบาลตำบลห้วยยอด ออกมาเมนต์เล่าว่า เคยขับรถผ่านถนนสายนี้และเจอโดนตะปูเรือใบเจาะยางรั่วเหมือนกัน
ส่วนอีกรายเป็นพยาบาล โรงพยาบาลห้วยยอด เล่าว่า ช่วงกลางดึกขับรถออกมาจากตัวอำเภอ เพื่อกลับบ้านพักในค่ายทหาร แต่พอรถวิ่งมาถึงถนนเพชรเกษม เกิดยางรั่วเพราะถูกตะปูเรือใบ จังหวะที่จอดรถริมถนนเพื่อหาคนช่วย ก็มีชายขี่มอเตอร์ไซค์มาวนเวียนเคาะกระจกถึง 4 รอบ แต่พยาบาลสาวมาคนเดียว ไม่กล้าเปิดประตูรถ จึงโทรไปเรียกสามีในค่ายให้ออกมาช่วย ชายคนดังกล่าวก็ขี่รถหายไป
เมื่อมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบถี่ๆ ตำรวจห้วยยอดได้ออกสืบหาผู้ประสบเหตุ และให้พาไปชี้จุดกิดเหตุ รายแรกให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มว่า เจอตะปูเรือใบวางอยู่กึ่งกลางถนน ด้วยความเป็นห่วงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น จึงงัดตะปูเรือใบออกจากถนน แล้วเอาไปวางทิ้งไว้ที่โคนต้นไม้ ส่วนอีกรายที่เป็นพยาบาล บอกว่า ตอนนั้นเป็นช่วงกลางคืน กลัวมาก ทำให้จำรูปพรรณสัณฐานคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่มาวนเวียนตอนรถยางแตกไม่ได้ แม้ตำรวจจะเชื่อว่าอาจเป็นผู้ก่อเหตุก็ได้
เมื่อได้เบาะแสมาบ้าง ชุดสืบสวนก็ออกแกะรอยกล้องวงจรปิด พร้อมปูพรมตรวจสอบร้านทำประตูเหล็กม้วน โรงกลึง ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ และออกหาข่าวคนต้องสงสัยตลอดเส้นทาง แต่ตอนนี้ยอมรับยังไม่พบร่องรอย
ด้านผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด สันนิษฐานว่าคนวางตะปูเรือใบน่าจะเป็นวัยรุ่นที่ทำไปด้วยความคึกคะนอง และไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะหากจะลงมือจริงคงไม่ขี่มอเตอร์ไซค์วนเวียนอยู่คนเดียว ส่วนลักษณะการเชื่อมตะปูเรือใบ ดูแล้วทำแบบมือสมัครเล่น ที่สำคัญหลังเรื่องแดงก็ยังไม่มีใครแจ้งมาว่าเจอตะปูเรือใบอีก อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท ได้ปรับแผนให้ตำรวจออกตรวจและเพิ่มความถี่กระจายไปยังจุดเปลี่ยวให้มากขึ้น เพื่อดูแลประชาชน และยังไม่ทิ้งการตามหาตัวมือมืดที่ก่อเหตุในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย