เมียหลวงบุกงานแต่งขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายเมียน้อย 3 แสน

ชัยนาท 15 มิ.ย. – ภรรยาหลวงที่บุกทวงสิทธิกลางงานแต่งสามีตำรวจ ขึ้นศาลเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท จากภรรยาน้อย เผยตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ได้คุยกับสามีอีก


ย้อนไปดูคลิปเหตุการณ์เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จากกรณีภรรยาหลวง ชาว จ.ชัยนาท อายุ 33 ปี ถือทะเบียนสมรสบุกไปงานแต่งงานของสามีตำรวจ ยศ ส.ต.อ. กับเจ้าสาวคนใหม่ ที่บ้านหลังหนึ่งในอำเภอเมืองชัยนาท โดยมีการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก และกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ จนได้รับฉายาว่า เมียหลวงบุกงานแต่ง จากนั้นได้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับภรรยาใหม่ของสามี 300,000 บาท

ล่าสุดเมื่อค่ำวานนี้ น.ส.นิภาพรรณ หมู่แก้ว ได้โพสต์รูปภาพของตนเองหลังจากทำศัลยกรรมมาแล้ว โดยถือทะเบียนสมรส และโพสต์ข้อความว่า “วันนี้ฉันถือทะเบียนสมรสมาใช้สิทธิตามกฎหมาย” #ฉันสวยมั้ยคะ พร้อมระบุว่า แจ้งให้ทุกท่านที่ติดตามเรื่องของจอยทราบนะคะ พรุ่งนี้จอยจะไปศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เวลา 09.30 นาฬิกา เพราะต้องไปขึ้นศาลที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท ค่ะ #ขอรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น หวังว่าเธอจะมา….ขอบคุณค่ะ #ทีมเมียหลวง


เช้าวันนี้ น.ส.นิภาพรรณ และแม่สามี พร้อมกับนายอนุสรณ์ อะสุรพงษ์ ทีมทนายความ เดินทางไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เพื่อให้การหรือสืบพยานโจทก์ตามหมายนัดของศาล โดยในวันนี้ น.ส.นิภาพรรณ มาในลุคใหม่ที่สวยขึ้นกว่าเดิม เดินทางมาศาลด้วยความมั่นใจ

น.ส.นิภาพรรณ เปิดเผยว่า เรื่องการฟ้องร้องคู่กรณี ยืนยันว่าให้เป็นไปตามกฎหมาย เรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท ไม่ขอไกล่เกลี่ย ไม่ขอยอมความ ส่วนเรื่องสามี ตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับสามีอีก ต่างคนต่างอยู่ แต่ตนยังคงสถานะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตอนนี้ตนได้พาลูกสาว 2 คน ย้ายออกจากบ้านพ่อแม่สามี กลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ตัวเองแล้ว ตนขอโฟกัสที่ลูกสาว 2 คน โดยบอกกับตนเองด้วยสโลแกนใหม่ว่า “ต้องสวย รวย แล้วปัง เดินหน้าหาเงินเลี้ยงลูก”

ด้านนายอนุสรณ์ ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการนัดไกล่เกลี่ย หรือให้การหรือสืบพยานโจทก์ แต่ฝ่ายจำเลยไม่เดินทางมาศาล จึงดำเนินการสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว โดย น.ส.นิภาพรรณ และแม่สามี ได้ขึ้นเบิกความเป็นพยาน และรวมรวบหลักฐานทั้งหมดเสนอต่อศาล โดยเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้ศาลพิจารณาค่าเสียหายว่าจำเลยจะต้องชดใช้จำนวนเงินเท่าไร ซึ่งมีนัดหมายทราบผลในสัปดาห์หน้า เมื่อศาลกำหนดจำนวนเงินที่จำเลยต้องชดใช้แล้ว จะมีหมายแจ้งไปให้จำเลยทราบ เพื่อกำหนดระยะเวลาในการชดใช้ หากจำเลยไม่ยอมชดใช้จะต้องใช้บังคับคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล