หลายจังหวัดนัดชุมนุมคู่ขนานกรุงเทพฯ

ภูมิภาค 19 ต.ค.-ที่ต่างจังหวัดมีการดาวกระจายจัดชุมนุมในหลายพื้นที่ คู่ขนานกับจุดหลักที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา


เริ่มกันที่ นักศึกษามหาวิทยาลัยทักษิณ จ.สงขลา ร่วมชุมนุมแสดงพลังทวงคืนประชาธิปไตย ที่ลานอเนกประสงค์ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยใช้สโลแกน “ฉันจิบ่ทน” “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” “ยกเลิก ส.ว.ทวงคืนอำนาจประชาชน” โดยการชุมนุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรักษาความสงบของมหาวิทยาลัยมาคอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด และบริเวณประตู รภป.ของมหาวิทยาลัย มีการตั้งจุดตรวจโดยจะอนุญาตให้เฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยทักษิณเข้าไปเท่านั้น ทำให้มีนักศึกษาจากสถาบันอื่นที่ไม่สามารถเข้าได้ ยืนรออยู่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัย จนกระทั่งแกนนำนักศึกษาพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ จึงให้นักศึกษาที่เหลือเข้าไปร่วมชุมนุมได้โดยไม่เกิดความรุนแรง กระทั่งเวลา 20.00 น. จึงสลายตัวไป

นักเรียน-นักศึกษา จ.พิษณุโลก ร่วมแสดงพลัง


ส่วนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร กลุ่ม NU movement พร้อมด้วยนิสิติ นักศึกษา นักเรียน จากสถาบันการศึกษาในจังหวัดพิษณุโลก ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมแสดงออกทางการเมือง โดยมีการสลับกันปราศรัยจากนักเรียน และนิสิต นักศึกษา ทั้งประเด็นขับไล่รัฐบาล การทำงานที่ไม่ชอบธรรม รวมถึงประเด็นสิทธิเท่าเทียมทั้งเพศและการศึกษาที่เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังร่วมจุดเทียน ร้องเพลงเพื่อมวลชน เพื่อกระตุ้นการแสดงถึงสิทธิทางการเมืองของเยาวชน ก่อนจะยุติการชุมนุมในเวลา 20.30 น.

กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์

ส่วนที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา นัดรวมตัวกันชุมนุมรอบบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยมีการตั้งขบวนแห่จาก 2 จุด คือ หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น นักศึกษาใช้รถสองแถว รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ส่วนจุดที่ 2 อยู่ที่หน้าโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน เป็นกลุ่มนักเรียนที่ใช้ชื่อ กลุ่มภาคีนักเรียน KKC ซึ่งจุดนี้


กระทั่งเวลา 17.00 น. กลุ่มนักเรียนนักศึกษาเดินทางถึงยังลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์ มีการพลัดกันขึ้นพูดของแกนนำ จากนั้นเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ลงไปใช้พื้นที่ถนน ทางตำรวจได้พยายามเข้าขัดขวางแต่สุดท้ายตำรวจก็ไม่อาจต้าน ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมลงมาใช้พื้นที่บนถนน โดยมีบางช่วงที่รถพยาบาลขับผ่านกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้ขยับหลบให้กับรถพยาบาลขับผ่านไปได้อย่างราบรื่น

นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที กล่าวว่า การชุมนุมในครั้งนี้ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ส่วนการสลายการชุมนุมหรือการจับกุมแกนนำทีละคน ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะประชาชนถือเป็นดอกไม้ยิ่งเด็ด ดอกไม้ยิ่งงอก ซึ่งตอนนี้แกนนำรุ่นใหม่ของแต่ละจังหวัดก็จะมีมาแทนมากขึ้น เพราะประชาชนทุกคนคือแกนนำพร้อมที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ และเมื่อไม่มีแกนนำการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็จะยากขึ้นตาม เพราะแต่ละคนก็จะทำตามใจตัวเองได้ ขอให้มีการปล่อยแกนนำที่ได้มีการจับกุมออกมาได้แล้ว ส่วนตนเองซึ่งมีหมายจับของตำรวจออกมานั้น ก็ได้ไม่กลัวถูกจับกุมแต่อย่างใด เพียงตำรวจเดินเข้ามาแสดงตัวอย่างชัดเจน และใช้อารยะวิธีและสันติ ตนเองก็จะยอมให้จับกุมตัวแต่โดยดี

เยาวชนจันทบุรี แสดงจุดยืน “ ปล่อยพี่เรา”

จังหวัดจันทบุรี เยาวชน ที่ใช้ชื่อว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ได้รวมตัวกันที่สถานที่ออกกำลังกาย ลานจันท์ แยกไฟแดงแวร์ซายด์ ถนนท่าแฉลบ อำเภอเมือง เพื่อแสดงพลัง ขับไล่นายกฯ และรัฐบาล โดยใช้ชื่อการชุมนุมครั้งนี้ว่า “ปล่อยพี่เรา” พร้อมเรียกร้อง ให้มีการปล่อยตัว เยาวชนชาวจันทบุรี 3 คน ที่ถูกจับกุม ในวันที่ 15 ตุลาคม หลังไปร่วมแสดงออกทางการเมืองร่วมกับกลุ่ม ของไผ่ ดาวดิน และข้อเรียกร้องที่ 2 คือต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก

ต่อมา เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมกันเต้นแอโรบิค ออกกำลังกายประกอบเสียงเพลง จากนั้น นส.ขนิษฐา คงมี นักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาใน จ.จันทบุรี แกนนำผู้ชุมนุม ได้ปราศรัยเป็นคนแรก ก่อนจะผลัดเปลี่ยน หมุนเวียน ขึ้นมาแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กระจายกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบการชุมนุม

กระทั่งเวลา 18.00 น. ทั้งหมดร่วมกันยืนตรงเคารพธงชาติ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุม ได้แสดงแฟลชม็อบโดยการเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ ก่อนจะนัดรวมตัวกันอีกครั้ง วันนี้ (19 ต.ค.) ที่บริเวณถนนหน้าโรงเรียน ศรียานุสรณ์ และโรงเรียนเบญจมราชูทิศ

นนทบุรีปิดถนนหน้าเซ็นทรัลเวสต์เกต

และที่ จ.นนทบุรี กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และกลุ่มราษฎร รวมตัวกันที่สถานีรถไฟฟ้าสามแยกบางใหญ่ ก่อนจะเดินเท้าไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต จากนั้นเวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้พากันลงไปนั่งบน ถ.กาญจนาภิเษก ฝั่งคู่ขนาน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ต้องปิดช่องทางดังกล่าว แล้วเปิดช่องพิเศษให้รถไปใช้ช่องทางด่วนแทน เพื่อช่วยบรรเทาความแออัดของรถยนต์

จนกระทั่งเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยืนขึ้นร้องเพลงชาติ บางช่วงมีการเปิดแสงแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ผู้ชุมนุมวันนี้ประกาศย้ำว่าไม่มีใครเป็นแกนนำ เพราะทุกคนถือเป็นแกนนำทั้งหมด ก่อนที่ผู้ร่วมชุมนุมจะผลัดกันขึ้นไปพูดบนรถขยายเสียงเคลื่อนที่ จนกระทั่งเวลา 21.00 น. จึงแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเส้นทางถนนคู่ขนานทันทีหลังมวลชนแยกย้ายกันหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]

กัมพูชาประท้วงไทยกรณีแจ้งดำเนินคดี ‘ฮุน เซน’

พนมเปญ, 23 มิ.ย. – กัมพูชายื่นเรื่องร้องเรียนทางการไทย หลังไทยแจ้งดำเนินคดีกับนายฮุน เซน นอกจากนี้ยังมีคำเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทยด้วย กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ส่งบันทึกทางการทูตที่มีถ้อยคำแข็งกร้าวถึงสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญเพื่อประท้วงกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เอาผิดกับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยคลิปเสียงสนทนากับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าการปล่อยคลิปเสียงเป็นภัยต่อความมั่นคง และสร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า ต้องการเน้นย้ำว่าบันทึกการสนทนาระหว่างผู้นำประเทศถือเป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันด้านความถูกต้องแม่นยำและโปร่งใส และว่าการแจ้งดำเนินคดีของนายสมคิดเป็นการกระทำที่มีแรงจูงใจทางการเมืองซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างไทยกับกัมพูชา และยังทำลายหลักการความเสมอภาคของอธิปไตย ตลอดจนความเคารพซึ่งกันและกันตามที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมกันนี้กัมพูชาขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยใช้มาตรที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขและป้องกันการกระทำใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ฉันมิตรอันยาวนานระหว่างไทยกับกัมพูชา อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ออกคำเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น และขอให้ชาวกัมพูชาที่อยู่ในไทยติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด และให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงอันตราย เช่น พื้นที่ทีการชุมนุมทุกชนิดเพื่อความปลอดภัย ส่วนกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชาก็ออกมายืนยันว่า กัมพูชามีขีดความสามารถในการจัดหาเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศอย่างแน่นอน หลังจากที่นายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรี ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทยทั้งหมด ซึ่งมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา.-816.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 รอฟังนายกฯ ยกระดับชายแดนไทย-กัมพูชา

กองทัพบก 23 มิ.ย.-มทภ.2 เผยรอฟังนายกฯ ยกระดับมาตราการชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ ชี้อนาคตหากสู้รบ ต้องปิดด่านตลอดแนว ขอคนไทยสามัคคี ในห้วงประเทศวิกฤติ ขอให้มั่นใจทหารอยู่เคียงข้างประชาชน ชายแดนไทยเราปลอดภัยแน่นอน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกโดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า สำหรับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ผบ.ทบ.ท่านนั้นเชื่อมั่น กองทัพภาคที่2 ในการทำหน้าที่อยู่แล้ว โดย ผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำในเรื่องความรักความสามัคคี มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชน ที่ไปทำกิจกรรมหรือทำสัญลักษณ์แสดงความรักชาติในพื้นที่ หรือไม่เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับประชาชนชาวกัมพูชา โดย พล.ท.บุญสิน ระบุว่าเรื่องนี้เราได้มีการชี้แจงมาโดยตลอดการอนุญาตให้ประชาชนได้ขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปตามห้วงเวลาและจะมีการประสานแจ้งให้อีกฝั่งรับทราบเช่นกัน เมื่อถามว่ากรณีที่ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมขึ้นนั้น พล.ท.บุญสิน ระบุว่า ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการทหารถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน และยืนยันว่าไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธีทางฝั่งกัมพูชา เมื่อถามว่า ส่วนวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานความมั่นคงนั่นอาจมีการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอให้ได้ข้อยุติจากนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางใดนั้น เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคตว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชาตลอดนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า […]