เปิดเส้นทาง “นอแรด” หายไปจากสวนสัตว์สงขลา

สงขลา 6 ต.ค.-การหายไปอย่างมีเงื่อนงำของลูกเก้งเผือกในสวนสัตว์สงขลา ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมสืบสวนลงลึกถึงรายละเอียดการบริหารงานของสวนสัตว์ ที่อาจเชื่อมโยงกับขบวนการค้าสัตว์ป่า โดยเฉพาะการติดตามสางปมนอแรด ที่มีมูลค่าสูงถึงนอละ 1 ล้านบาท และนกแก้วมาคอว์ ที่หายไปก่อนหน้านี้ ซึ่งตำรวจในพื้นที่ยอมรับ ทุกเรื่องที่สงสัยกำลังจะถูกรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงที่ชัดเจน

การตรวจสอบความผิดปกติในสวนสัตว์สงขลา กำลังจะเริ่มต้น หลังเกิดเหตุการณ์นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกนายสัตวแพทย์ภูวดล สุวรรณะ ยิงเสียชีวิตภายในห้องทำงานที่ทำการสวนสัตว์สงขลา ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปมลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทาน หายไปจากสวนสัตว์ โดย 1 ในการพิสูจน์ให้ลึกถึงรายละเอียด คือการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของนอแรดขาวเมื่อปี 55 ที่คดีอยู่ที่ สภ.คอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย


สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลการหายไปของนอแรด พบว่า เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี 55 ในวันนั้นแรดขาวของสวนสัตว์สงขลาได้ตายลง 1 ตัว และสวนสัตว์สงขลาได้ตัดนอแรด 2 นอ ไปเก็บไว้ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่

ต่อมาวันที่ 11 มิถุนายน ปี 61 สวนสัตว์สงขลาได้มาติดตามนอแรดทั้ง 2 อัน แต่กลับได้รับแจ้งว่ามีการเบิกไปโดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ปี 56


3 กรกฎาคม ปี 61 สวนสัตว์สงขลาได้เข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองสงขลา ก่อนที่จะมีการโอนสำนวนมาที่ สภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นเรื่องที่นอแรดหายไป จากนั้น สวนสัตว์ได้สอบสวนติดตามนอแรดที่หายไป ทำให้ทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ 1 คน เบิกนอแรดมา และเมื่อไปสอบถาม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้อ้างและทำเอกสารเท็จว่าเบิกนอแรดที่เป็นนอทู่ มาเพียงนอเดียว ไม่ได้เบิกมา 2 นออย่างที่ถูกกล่าวอ้าง โดยมีหลักฐานอยู่กับตัวแค่นอเดียวเท่านั้น

แต่เมื่อสวนสัตว์ สืบลึกลงไป เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจำนนด้วยหลักฐาน ยอมรับ เบิกมา 2 นอ โดยนอแรก ซึ่งเป็นนอทู่ (นอเล็ก) เก็บไว้กับตัวที่สวนสัตว์ ส่วนอีกนอ ที่เป็น นอแหลม ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่าไป สวนสัตว์สงขลาจึงได้ดำเนินการทางวินัยด้วยการ ไล่ออก ทั้งคู่

ทั้งนี้ การติดตามนอแรดยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง แต่ติดปัญหา เจ้าหน้าที่อีกคนที่เป็นคนรับนอต่อไป เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ทำให้ไม่สามารถขยายผลต่อไปได้ว่า นอแหลม หายไปไหน และกลายเป็นอีกเงื่อนงำของคดีนี้


สำหรับนอแรดในข้อมูลการสอบสวน ระบุมีมูลค่าสูงถึงนอละ 1 ล้านบาท ซึ่งคดีการหายไปของนอแรดแหลมนี้ ในทางคดีพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ อยู่ระหว่างเรียกสอบพยาน รวมถึงออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ

ส่วนกรณีนกแก้วมาคอว์ที่หายไป 13 ตัว สวนสัตว์สงขลาสามารถติดตามคืนมาได้ 2 ตัว พร้อมผู้ต้องหา 1 คนที่นำมาโพสต์ขาย แต่คดีนี้ศาลยกฟ้องผู้ต้องหา ในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากไม่สามารถยืนยันได้ว่านกแก้วมาคอว์เป็นของสวนสัตว์สงขลาหรือไม่ และผู้ต้องหามีพฤติการณ์เพียงแค่ดำเนินคดีครอบครองสัตว์ป่าเท่านั้น ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา จะรื้อคดีขึ้นมาใหม่เช่นกัน

และยังไม่หมด นอกจากเรื่องสัตว์ที่หายไป ก่อนหน้านี้ยังมีการร้องเรียนการทุจริตโครงการอ่างเก็บน้ำภายในสวนสัตว์สงขลา ซึ่งเชื่อมโยงถึง ผอ.องค์การสวนสัตว์ ที่ถูกยิงเสียชีวิต นายจักรินทร์ ชุมจินดา ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การร้องเรียนมีขึ้นเมื่อปี 2561 และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งจะดำเนินการครอบคลุมทั้งในประเด็นความผิดและความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา

โดยในส่วนคดีของสวนสัตว์สงขลา กระบวนการไต่สวนยังอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะแล้วเสร็จ และเมื่อแล้วเสร็จก็จะได้สรุปสำนวน นำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าจะพิจารณาชี้มูลความผิดหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]