บุรีรัมย์ 27 ก.ย. – แม่ใจสลายร่ำไห้หน้าโลงศพลูกสาว ม.4 ตัวแทนธิดาไหม ถูกกระสุนลูกหลงของแก๊งวัยรุ่นเสียชีวิต สุดเศร้าพ่อกลับจากไต้หวันถูกกักตัว ไม่รู้ลูกตาย ด้านตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 คน
เหตุเศร้าครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหัวฝาย ต.ดอนดอก อ.นาโพธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของน้องปอย นักเรียนชั้น ม.4 ที่ถูกกระสุนลูกหลงเสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะนางสายฝน แพนไธสง อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่ที่ยังช็อกและทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกสาว ร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่หน้าโลงศพของลูกสาว โดยรำพึงรำพันบอกว่าทำไมไม่เอาตัวเองไปแทน ทำไมต้องมาเอาลูกสาวตนเองไปด้วย สร้างความสลดใจแก่ญาติและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ต่างช่วยกันปลอบใจนางสายฝน
นางสายฝนบอกว่า ลูกสาวเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ที่ผ่านมาจะได้รับเลือกจากโรงเรียนให้เป็นตัวแทนถือป้ายและทำกิจกรรมต่างๆ บ่อยครั้ง ล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนไปถือป้ายในวันเปิดงานเทศกาลไหมประจำปีของ อ.นาโพธิ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา และคืนวันที่ 26 ก.ย.นี้ น้องปอยก็ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนประกวดธิดาไหมประจำตำบล ซึ่งลูกก็ซ้อมรำและเตรียมชุดไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับลูกสาว วันเกิดเหตุลูกสาวก็ไปเชียร์รุ่นพี่ ซึ่งเป็นสาวประเภทสองที่เข้าประกวดในงานเทศกาลไหม แต่พอขากลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มาทราบอีกทีว่าลูกสาวถูกยิงเสียชีวิต ก็ช็อก ทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาจากไปเร็วแบบนี้ หลังเกิดเหตุเพื่อนๆ ลูกสาวก็เอาเฟซบุ๊กมาให้ดูว่าลูกได้แชร์ภาพที่รูปปั้นน้ำตาไหลเป็นสายเลือดและมีผ้าปิดตาเอาไว้ จึงคิดว่าน่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนก่อเหตุให้ได้เร็วๆ
นางสายฝนบอกอีกว่า นายอำนาจ แพนไธสง สามี ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศไต้หวัน และถูกกักตัวอยู่ที่สถานกักกันของรัฐ ยังไม่รู้ว่าลูกสาวเสียชีวิต จึงอยากให้ทางราชการติดต่อสามีเพื่อแจ้งข่าวให้ทราบ และอยากวิงวอนให้รัฐอนุญาตให้สามีกลับมางานศพลูกสาวด้วย เพราะตอนนี้ตนเองติดต่อสามีไม่ได้
ขณะที่นายกิตติพัฒน์ หรือโก้ แฟนหนุ่ม ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนเข้าที่หลังด้วย กล่าวว่า คืนเกิดเหตุได้ไปเที่ยวงานเทศกาลไหมกับเพื่อนๆ และพาน้องปอยไปเชียร์รุ่นพี่ที่ประกวดในงานด้วย พองานเลิกก็พากันขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกับใครในงาน แต่ขณะขับรถกลับก็มีรถจักรยานยนต์กว่า 30 คัน รวมเกือบ 100 คน ขับผ่านมาแล้วสาดกระสุนใส่หลายนัดโดยไม่ทราบสาเหตุ ด้วยความตกใจจึงพากันขับรถแยกย้ายกันหลบหนี ตอนแรกยังไม่รู้ว่าน้องปอยที่นั่งซ้อนท้ายถูกยิง กระทั่งขับไปถึงหน้าบ้านป้า ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านโคกเมฆ น้องปอยจึงบอกว่าถูกยิงจึงตะโกนให้ป้าช่วยเหลือ จากนั้นได้ประคองน้องปอยลงจากรถแล้วโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พบว่าน้องปอยถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังซ้ายทะลุหน้าอก และกระสุนยังทะลุไปโดนหลังของตนเองเลือดไหลด้วย เสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่พากันไปเที่ยวงาน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโพธิ์ ได้เรียกกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยมาสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหากระสุนส่งตรวจพิสูจน์ ทั้งไล่กล้องวงจรปิดเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.นาโพธิ์ ได้จับกุมหนึ่งในผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงกลุ่มนักเรียนจนเป็นเหตุให้น้องปอย นักเรียน ม.4 เสียชีวิต ได้แล้ว 1 คน เป็นวัยรุ่นในพื้นที่ อ.นาโพธิ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงสาเหตุ และสาวหาผู้ร่วมก่อเหตุเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ยิงปืนในที่สาธารณะ และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
ด้านนางแดง แผ้วไธสง อายุ 55 ปี ป้าน้องปอย เล่าทั้งน้ำตาว่า หลานสาวเป็นคนหน้าตาดีจนได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนไปทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของตำบลเข้าประกวดนางงามธิดาผ้าไหม ในงานเทศกาลไหมประจำปีของ อ.นาโพธิ์ แต่กลับต้องมาเสียชีวิตก่อนจะขึ้นประกวดเพียงวันเดียว เสียใจมาก เพราะหลังจากหลานได้รับเลือกก็มาซ้อมรำให้ตนเองดูทุกวัน ถามตลอดว่าหนูรำสวยมั้ย พูดแล้วก็คิดถึงหลาน ไม่คิดว่าจะมาจากไปแบบนี้ หากเป็นไปได้อยากให้เจ้าหน้าที่ลงโทษประหารชีวิตให้ตายตกตามกันไปเลย เพราะฆ่าคนบริสุทธิ์ตายทั้งคน
ด้านนางญาดา โพธิแสง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ บอกว่า ปกติถนนสายดังกล่าวจะมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มแก๊งผ่านทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือมีงานประเพณีต่างๆ จะรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ 30-40 คัน ที่ผ่านมาจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อย มีไม้ มีมีดกันบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยรุนแรงเท่าครั้งนี้ที่ถึงขั้นใช้อาวุธปืนจนทำให้มีคนเสียชีวิต อยากฝากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองช่วยกวาดล้างปราบปรามอาวุธปืนเถื่อน หรือผู้ที่ครอบครองอาวุธโดยผิดกฎหมายด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก เพราะทุกวันนี้อาวุธหาซื้อได้ง่าย.-สำนักข่าวไทย