สิงห์บุรี 15 ก.ย. – ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับ 3 ผู้ต้องหาค้ายาเครือข่าย “จูน บ่อดิน” นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยหนึ่งในผู้ต้องหาบวชเป็นพระ ส่วนอีกคนไหวตัวหลบหนีไปในไร่ข้าวโพด แต่ตำรวจสามารถจับตัวได้
ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พร้อมด้วยชุดสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าจับกุมนายอานนท์ กิรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กลางไร่ข้าวโพด บริเวณด้านหลังบ้านพัก หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพัก เลขที่ 96 หมู่ 2 ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหา ตำรวจจึงใช้โดรนบินสำรวจโดยรอบบริเวณบ้าน และพบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาบริเวณด้านหลังบ้าน โดยกำลังวิ่งหนีเข้าไปในไร่ข้าวโพด
สำหรับนายอานนท์ ตำรวจมีข้อมูลว่า เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับนายจิตพันธ์ มีเมือง หรือ “จูน บ่อดิน” ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งถูกจับกุมเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 แต่ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ ยอมรับว่า รู้จักกับนายจูน บ่อดิน เพราะนายจูนได้พามาดูแล แต่ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนที่วิ่งหลบหนี เพราะรู้สึกกลัวที่มีตำรวจมาตรวจค้นบ้าน ด้านตำรวจยืนยันแม้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด แต่ตำรวจสืบทราบและพบพฤติกรรมต้องสงสัย ขณะที่ผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีการจับกุม โดยได้โยนโทรศัพท์มือถือทิ้งเข้าไปในไร่ข้าวโพด ตำรวจจึงช่วยกันค้นหาเกือบ 1 ชั่วโมง และเจอโทรศัพท์มือถือสีดำปิดเครื่องตกอยู่บนดิน จึงเก็บมาเป็นหลักฐาน และสืบสวนหาผู้เชื่อมโยงต่อ
ขณะที่กำลังอีกจุดได้จับกุมนายพรเทพ ภู่เจริญวณิชย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือข่ายเดียวกัน หลังสืบสวนพบว่าได้อุปสมบทอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี จึงนำหมายจับมาแสดง ขณะที่พระรูปนี้กำลังบิณฑบาตอยู่ในหมู่บ้าน จากนั้นนำตัวไปลาสิกขา และส่งดำเนินคดีในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สอบสวนนายพรเทพ ยอมรับว่า รู้จักกับนายจูนมานานหลายปีแล้ว เพราะเป็นช่างสักลวดลายบนร่างกาย แต่อ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เพื่อจับกุมนายอัจฉริยะ ชื่นชม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญของเครือข่ายนี้เช่นกัน โดยจะร่วมกันทำหน้าที่หาลูกค้า และดำเนินการเรื่องการเงินค่ายาเสพติดให้กับนายจูน บ่อดิน
ด้าน พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า แม้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนว่า ผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับนายจูน บ่อดิน โดยมีทั้งข้อความการติดต่อนำยาเสพติดไปกระจายหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะ จ.สิงห์บุรี และลพบุรี อีกทั้งยังเป็นผู้ดูแลเรื่องการโอนเงินค่ายาเสพติดของคนอื่นๆ ให้กับนายจูนด้วย
นายจูน บ่อดิน เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ที่สามารถรับยาเสพติดมาจากชายแดนภาคเหนือครั้งละจำนวนมาก ก่อนนำยาเสพติดมาเก็บไว้ในโกดัง จ.สิงห์บุรี และให้เครือข่ายหาลูกค้ากระจายยาต่อ ซึ่งต้นทางยาเสพติดจะรับมาจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคอีสาน โดยนายจูน บ่อดิน ใช้วิธีอำพรางทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ด้วยการให้คนที่ไว้ใจเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินแทน หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยพบเงินหมุนเวียนในเครือข่ายกว่าพันล้านบาท ทำมาตั้งแต่ปี 2553 จนถูกออกหมายจับเมื่อปี 2561 และถูกจับกุมเมื่อเดือนมิถุนายน 2563
สำหรับปฏิบัติการ “ปิดฉากจูน บ่อดิน” ในครั้งนี้ ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นทั้งหมด 34 จุด ในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ สมุทรปราการ เเละกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถยึดทรัพย์ได้กว่า 100 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย