กรุงเทพฯ 19 ก.ย.-กรมอุตุฯ ตั้งวอร์รูมติดตามพายุดีเปรสชันในทะเลจีนใต้ใกล้ชิด คาดขึ้นฝั่งเวียดนามเช้าตรู่พรุ่งนี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลง เข้าสู่อีสานตอนบนวันที่ 21 ก.ย. ย้ำเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่มตามแนวเคลื่อนตัวของพายุ ระดับน้ำในลำน้ำสูงอยู่แล้ว อาจล้นตลิ่งเพิ่ม
ว่าที่ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดศูนย์ปฏิบัติการติดตามพายุดีเปรสชันในทะเลจีนใต้อย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถคาดการณ์สถานการณ์ฝนและสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง แล้วนำข้อมูลแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงที
วันนี้ (19 กันยายน 2567) เวลา 04.00 น. พายุดีเปรสชันในทะเลจีนใต้ตอนบน ยังไม่ยกระดับเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนตัวช้าลงเล็กน้อย มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองกวางตรี ประเทศเวียดนามประมาณ 300 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในวันนี้และคาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางบริเวณเมืองดานังในช่วงเช้าตรู่วันที่ 20 กันยายน 2567 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ
หากทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อนจะมีชื่อว่า “ซูลิก” เป็นชื่อตำเเหน่งหัวหน้าเผ่าโบราณของเกาะโปนเป สาธารณรัฐสหพันฐ์ไมโครนีเซีย
พายุจะเคลื่อนผ่านลาว แล้วเข้าปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดยขณะเข้าปกคลุมประเทศไทยจะเป็นพายุดีเปรสชัน แต่ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบตั้งแต่พายุขึ้นฝั่งที่เวียดนามได้แก่ จังหวัดนครพนม มุกดาหาร หนองคาย และบึงกาฬ ทำให้เกิดฝนตกเพิ่มขึ้นและลมแรง
พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบมากคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางถึงตอนบนซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่พายุเคลื่อนเข้ามา รวมถึงจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของพายุจะได้รับผลกระทบมากกว่าจังหวัดที่อยู่ขอบของพายุพาดผ่าน พายุดีเปรสชันจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ในขณะที่เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก แล้วออกจากประเทศไทยที่จังหวัดตาก
ดังนั้นพื้นที่เสี่ยงตามการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาจะต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ตลอดจนต้องระวังน้ำในลำน้ำต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำมากอยู่แล้วล้นตลิ่งด้วย
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศกล่าวว่า อิทธิพลของพายุจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการเคลื่อนผ่านของพายุเท่านั้น เนื่องจากร่องมรสุมที่ปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้ จะเข้าสู่พายุดีเปรสชันที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
กรมอุตุนิยมวิทยาจึงแจ้งเตือนพื้นที่ที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในวันที่ 19 – 20 กันยายนได้แก่ จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด จากนั้นวันที่ 20-21 กันยายนจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งของภาคเหนือด้านตะวันออกและตอนล่างได้แก่ จังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก
นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่กำลังแรงขึ้น พัดเข้าหาพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ภาคกลางตอนล่าง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดนครนายก ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด ตลอดจนภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามันได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลด้วย ทั้งยังต้องระวังคลื่นลมที่จะมีกำลังแรงขึ้น
ขอให้ประชาชนติดตามการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนและสถานการณ์น้ำเป็นพิเศษจนถึงวันที่ 23 กันยายน 2567.-512.-สำนักข่าวไทย