ตาก 28 มิ.ย. – กสทช. พร้อมฝ่ายความมั่นคง ระดมกำลังกว่า 100 นาย ปิดล้อมค้นชายแดน จ.ตาก พร้อมกัน 6 จุด สกัดเครือข่ายส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปประเทศเพื่อนบ้าน พบลอบนำสายสัญญาณฝังดิน-ข้ามแม่น้ำ สู่พื้นที่กลุ่มจีนเทา สถานที่ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ที่ สภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ตำรวจไซเบอร์ ตำรวจ สภ.แม่สอด ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 และทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู รวมกว่า 100 นาย ร่วมกันเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายสำคัญ 6 แห่ง ทลายเครือข่ายลักลอบส่งสัญญาณสื่อสารจากประเทศไทยส่งไปประเทศเพื่อนบ้านผิดกฎหมาย
โดยนำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูงย่านใจกลางเมืองแม่สอด เปิดอำพรางเป็นห้างค้าส่งรูปแบบต่างๆ รวม 5 จุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบอุปกรณ์ส่งสัญญาณสื่อสารระยะไกลหลายรายการ จึงเชิญตัวผู้ดูแลบ้านทั้ง 5 จุด ไปสอบสวน
ขณะเดียวกันยังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจุดที่ 6 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุด ตั้งอยู่เลียบแนวตะเข็บชายแดน หมู่บ้านห้วยแล้ง หมู่ 10 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โดยฝ่ายสืบสวนของ กสทช. นำรถยนต์อุปกรณ์โมบายตรวจสัญญาณเคลื่อนที่ตรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวมีการส่งสัญญาณสื่อสารข้ามแนวชายแดน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจอย่างละเอียดพบว่าบริเวณใกล้กับเสาส่งสัญญาณขนาดใหญ่ มีการลักลอบนำสายเคเบิลส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตฝังดิน ส่งข้ามแดนจากไทย ข้ามแม่น้ำเมยไปประเทศเมียนมา ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ตั้งกลุ่มจีนสีเทา เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์และบ่อนพนันออนไลน์ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบครั้งนี้พบว่ากลุ่มขบวนการไหวตัวรีบตัดสายเคเบิลดังกล่าวออกก่อน แต่ยังหลงเหลือวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุหลายรายการ เจ้าหน้าที่จึงต้องขยายผล
รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ลงพื้นที่ตรวจการลักลอบใช้สัญญาณโทรคมนาคมข้ามประเทศผิดกฎหมายในพื้นที่ จ.ตาก เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน หลังจากได้รับแจ้งว่าบริเวณพื้นที่ตะเข็บชายแดน อ.พบพระ และ อ.แม่สอด มีการลักลอบลากสายเคเบิลข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช.เขต 31 เคยลงพื้นที่สำรวจพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเมย บ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ อ.แม่สอด พบว่ามีการลักลอบลากสายเคเบิลขึ้นเรือข้ามแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นช่องทางพรมแดนธรรมชาติ ไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมาย จึงได้ตัดสาย และพิสูจน์ทราบว่าสายดังกล่าวมีต้นกำเนิดสายมาจากที่ใด เนื่องจากการกระทำดังกล่าวมีความผิดฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับรูปแบบการลักลอบใช้สัญญาณโทรคมนาคมผิดกฎหมาย บริเวณแนวตะเข็บชายแดน จ.ตาก นอกจากการลากสายเคเบิลขึ้นเรือข้ามแม่น้ำ ยังพบเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด หันออกไปยังฝั่งตรงข้ามไทยในพื้นที่ชเวก๊กโก และหวันหยา ฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นจุดแรกที่เคยลงพื้นที่สุ่มตรวจ ขณะนี้ได้ระงับสัญญาณในพื้นที่แล้วทุกจุด และการตั้งสถานีวิทยุคมนาคมเพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะนี้สามารถควบคุมการหันเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้แล้วทั้ง 7 พื้นที่ และมีการระงับสัญญาณรวมแล้ว 366 สถานีฐานทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งการดำเนินการระงับสัญญาณ ปรับทิศทางสายอากาศ ลดกำลังส่งและรื้อสายอากาศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งรัดดำเนินการ เพราะอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างร้ายแรง และยังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน.-สำนักข่าวไทย
