ขอนแก่น 11 มิ.ย. – ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา โชเฟอร์รถบัส ขับชนนักศึกษาแพทย์ ปี 2 เสียชีวิต ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี 65
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ ที่บัลลังก์ 7 ศาลจังหวัดขอนแก่น อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น และนางนิตยา รุ่งสถิต เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นายสุรศักดิ์ เป็นจำเลยฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย กรณีขับรถบัสคณะพยาบาลศาสตร์ เฉี่ยวชนนางสาวอรุณนภา หรือน้องอาย นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ จนเสียชีวิต และเพื่อนนักศึกษาชาย คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 10 สิงหาคม 2565
โดยในศาลชั้นต้น ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาให้จำคุก 4 ปี แต่จำเลยรับสารภาพ ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ให้เหตุผลว่า มหาวิทยาลัยควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่ถนนสาธารณะทั่วไป
ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว พิเคราะห์ว่า จำเลยขับรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ของสถานที่ราชการ อีกทั้งในช่วงเกิดเหตุเป็นชั่วโมงเร่งด่วน การจราจรพลุกพล่าน อยู่ในวิสัยที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ขณะที่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ได้หยุดจอดตามได้เจ้าพนักงานจราจรให้สัญญาณ แต่จำเลยได้ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร จนเกิดอุบัติเหตุ สภาพศพของผู้เสียชีวิตกะโหลกศีรษะแตก ซี่โครงหัก ปอดฉีก ส่วนคนเจ็บ มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง สมองได้รับกระทบกระเทือน เป็นพฤติกรรมการขับรถโดยประมาทที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง แม้จำเลยขอให้ศาลเมตตาลดโทษ และให้รอการลงโทษ โดยต่อสู้ว่า ไม่เคยต้องโทษมาก่อน มีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว ร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และบวชให้ผู้เสียชีวิต ก็ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ พิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น
นางนิตยา แม่น้องอาย โจทก์ร่วม กล่าวว่า ในห้องพิจารณาคดี หลังฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น ฝ่ายจำเลยแจ้งว่า จะขอใช้สิทธิฎีกาต่อ ส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เพราะมองว่า พฤติกรรมของจำเลยร้ายแรง ใช้ความระมัดระวังไม่เพียงพอในชั่วโมงเร่งด่วนที่มีรถพลุกพล่าน ส่วนคดีแพ่ง ที่ตนและสามี ฟ้องโชเฟอร์รถบัส อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้ร่วมชดใช้ 50 ล้านบาท ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาออกมาตอนปลายปี 2566 ยกฟ้องโชเฟอร์ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเพียงจำเลยที่ 3 คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต้องชดใช้ค่าขาดไร้อุปการะกว่า 13 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ .-สำนักข่าวไทย