สงขลา 12 พ.ค.-ตำรวจสงขลารวบ 2 โจรขึ้นบ้านหรู 3 หลังรวดในคืนเดียว พบเพิ่งร่วมแก๊งยกเค้าร้านปืน อ.หาดใหญ่ เมื่อไม่กี่วันก่อน สารภาพก่อเหตุซ้ำอีก เพราะต้องการหาเงินไปจ่ายดอกเบี้ยเงินค่าประกันตัวที่ยืมเพื่อนร่วมแก๊งมา
ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ จับกุม นายอัฉริยะ หรืออัด อายุ 32 ปี และนายสมชาย หรือหมี อายุ 34 ปี หลังจากทั้งสองร่วมกันก่อเหตุงัดแงะเข้าไปขโมยทรัพย์สินบ้าน 3 หลังรวดภายในคืนเดียว เหตุเกิดที่หมู่บ้านหรูใน ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา
หลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งสองคนไปตรวจค้นที่บริเวณชายป่าในพื้่นที่ ต.คอหงส์ ซึ่งนำสิ่งของที่ขโมยไปมาทิ้ง เช่น สมุดบัญชีธนาคาร รวมทั้งเสื้อผ้าที่ถอดเปลี่ยน และไขควงของกลางที่ใช้งัดแงะอีก 2 อัน พร้อมสอบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคืนมาได้บางส่วน เช่น พระเครื่อง นาฬิกาโรเล็กซ์ สร้อยคอทองคำปลอม และยังมีทรัพย์สินอีกหลายการที่อยู่ระหว่างติดตามคืนมา เช่น พระสมเด็จ โดยมีผู้เสียหายเจ้าของบ้านที่ถูกคนร้ายขึ้นบ้านมาตรวจดูทรัพย์สิน
คดีนี้ตำรวจตามแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายทั้งสองคนในเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน พอเห็นภาพก็ทราบทันทีว่าเป็นนายอัฉริยะ และนายสมชาย เนื่องจากทั้งคู่เป็น 2 ใน 5 คนร้ายที่เคยก่อเหตุเข้าไปโจรกรรมร้านขายปืนใน ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยก่อเหตุติดต่อกันถึง 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 4-6 พฤษภาคม ได้ปืนไป 37 กระบอก พร้อมกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง โดยนับเป็นคดีโจรกรรมอาวุธปืนครั้งใหญ่ที่สุดใน จ.สงขลา ก่อนจะถูกตำรวจตามจับกุมได้ยกแก๊ง พร้อมยึดอาวุธปืนคืนมาได้ทั้งหมด
จากการสอบสวน สมชาย และนายอัฉริยะ ให้การว่า สาเหตุที่ต้องกลับมาก่อเหตุงัดบ้านขโมยทรัพย์สินอีกครั้งหลังผ่านมาไปถึง 1 สัปดาห์ เนื่องจากต้องการหาเงินไปใช้หนี้ให้นายสมศักดิ์ หรือแก่ เพื่อนร่วมแก๊งในคดีโจรกรรมปืน เพราะหลังจากที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ถัดมาอีก 1 วัน ก็ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาท ซึ่งต้องเช่าหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัว และต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 10 หรือคนละ 2 หมื่นบาท
ทั้งสองคนจึงขอยืมเงินจากนายสมชาย คนละ 2 หมื่นบาท เพื่อจ่ายดอกเบี้ยดังกล่าว จากนั้นก็ถูกนายสมชาย ตามทวงเงินที่ยืมมาเกือบทุกวัน เมื่อไม่มีเงิน สุดท้ายจึงต้องกลับมาเป็นโจรอีกครั้งเพื่อหาเงินไปใช้หนี้ ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งสองคนดำเนินคดีรอบ 2 และครั้งนี้อาจจะไม่โชคดีได้รับการประกันตัวเหมือนครั้งแรก เพราะถือว่าก่อเหตุซ้ำซ้อน ไม่หลาบจำ.-สำนักข่าวไทย