พบแล้ว “น้องมาร์ติน” ถูกสาวสองลักพาตัว

8 พ.ค. – สาวประเภทสองลักพาตัว “น้องมาร์ติน” เด็กชายวัย 9 เดือน หายไปจากที่พักย่านบางนา พาขึ้นรถโดยสารมุ่งหน้า จ.ระยอง ล่าสุดพลเมืองดีแจ้งเบาะแสจนสามารถจับตัวได้


กรณีปู่ของน้องมาร์ติน วัย 9 เดือน เข้าร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมพลเมืองดี ให้ช่วยพาไปร้องตำรวจบางนา เพื่อขอให้ตำรวจช่วยติดตามตัวนายน้อย อายุ 52 ปี สาวประเภทสองชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้าง ในพื้นที่แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ ที่ทำทีมาขออุ้มน้องมาร์ติน ก่อนฉวยโอกาสอุ้มหนีหายไปจากซอยท่าน้ำบางนา เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (7 พ.ค.)

นายเอกภพ เล่าว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของปู่กับย่าน้องมาร์ติน ว่าให้ช่วยติดตามหาหลานชายหน้าตาน่ารัก หลังแม่น้องมาคลอดไว้ที่แคมป์คนงาน แล้วให้ปู่ย่าเลี้ยง แต่ถูกคนงานก่อสร้างที่มีลักษณะเป็นสาวสอง อุ้มหายไป


พฤติการณ์คือคนงานรายนี้มาสมัครทำงานก่อสร้างได้ 1 สัปดาห์ และชอบมาเล่นกับน้องมาร์ติน กระทั่งช่วงบ่ายเมื่อวานมาขออุ้มน้อง แล้วบอกว่าจะพาไปเซเว่นฯ แล้วก็อุ้มน้องหายไปเลย

ตลอดทั้งวันมีพลเมืองตีแจ้งเบาะแสเข้ามา มีผู้พบเห็นล่าสุดที่สถานีรถไฟฟ้าสีลม ไปลงสถานีรถไฟหัวลำโพง ในช่วงเวลา 17.30 น. คาดว่าคนร้ายต้องการพาเด็กออกต่างจังหวัดแน่นอน

มีรายงานว่าพบเห็นบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าวเดินอยู่ย่านขนส่งหมอชิต และจากการตรวจค้นภายในห้องพักในแคมป์ พบว่าคนร้ายมีการเก็บกระเป๋าของใช้ส่วนตัว เพื่อเตรียมหลบหนี แต่เนื่องจากน้องมีลักษณะอวบอ้วน จึงเป็นอุปสรรดต่อการเดินทาง จึงไม่ได้นำติดตัวไปได้


หลังเกิดเหตุพลเมืองดีได้ช่วยกันตามหา กระทั่งไปพบนายน้อยนั่งอุ้มเด็กอยู่บนรถตู้ มุ่งหน้า จ.ระยอง กระทั่งช่วงเวลา 02.10 น. ตำรวจสามารถคุมตัวนายน้อย ไว้ได้ พร้อมเด็กชายวัย 9 เดือน เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่ารักเอ็นดูเด็ก อยากเอาเด็กไปเป็นลูก และปฏิเสธลักเด็กไปขาย เมื่อถามว่าทำไมถึงไประยอง เจ้าตัวงึมงำพูดไม่ชัด

จากนั้นเวลา 02.30 น. ตำรวจอีกชุดนำตัวเด็กมาถึง สน.บางนา ก่อนส่งมอบให้ปู่และย่า โดยปู่และย่ารีบโอบกอดและหอมแก้มหลานด้วยความดีใจ

พล.ต.ต.นพศิสป์ เปิดเผยหลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุด้วยตนเองว่า ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าลักพาตัวเด็กไปจริง โดยให้เหตุผลว่าต้องการนำไปเลี้ยง ขณะที่ตัวเองจะไปทำงานที่จันทบุรี โดยลักพาตัวเด็กไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต ไปลงที่ จ.ระยอง และเตรียมต่อรถไปยัง จ.จันทบุรี ในช่วงเช้า

ด้านปู่ของเด็กให้สัมภาษณ์อีกครั้ง บอกว่าดีใจมากที่ได้หลานกลับคืนมา ทีแรกกลุ้มใจ ไม่รู้จะไปพึ่งใคร คนในซอยบอกให้ไปแจ้งตำรวจจึงมาแจ้งความไว้ ยอมรับตำรวจไทยเก่ง เพราะทีแรกกังวลว่าจะไม่ได้หลานคืน รักหลานคนนี้มาก ถึงพ่อแม่เด็กจะทิ้งไปตั้งแต่เล็ก จึงได้นำมาเลี้ยงเอง เคยได้ยินข่าวขโมยเด็ก พอเจอกับตัวเองรู้สึเลย ดีใจมากที่พึ่งตำรวจไทยได้

พันตำรวจเอก สุรพงษ์ สุขแย้ม ผู้กำกับการ สน.บางนา เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า หลังจากปู่และย่าเด็กได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าหลานถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (7 พ.ค.) ตำรวจ สน.บางนา จึงร่วมกับชุดสืบนครบาล และ บก.น.5 เร่งติดตามหาตัวเด็ก และดูกล้องวงจรปิดจนทราบว่านายน้อยพาเด็กขึ้นรถรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปหมอชิต ตลอดจนเช็กเบสทางโทรศัพท์ รวมถึงข้อมูลของประชาชนที่ให้ไว้ในเพจสายไหมต้องรอด กระทั่งทราบข้อมูลจากพลเมืองดีว่าผู้ต้องหามุ่งหน้าไป จ.ระยอง จึงประสานไปยังตำรวจพื้นที่ สภ.เมืองระยอง ก่อนจะจับกุมตัวนายน้อยเอาไว้ได้ที่ขนส่งผู้โดยสาร จ.ระยอง ส่วนเด็กปลอดภัย

ที่ผ่านมาน้องมาร์ตินพักอาศัยอยู่กับปู่ย่า เนื่องจากพ่อแม่เป็นชาวลาว ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ ปู่ย่าจึงเป็นคนเลี้ยงมาตลอด โดยปู่ย่าเป็นกรรมกร รายได้วันละ 400 บาท และในช่วงเวลาที่ปู่ย่าทำงานจะให้คนดูแล ส่วนผู้ต้องหามาสมัครเป็นกรรมกรอยู่ในแคมป์เดียวกับปู่ย่า และเคยเข้าออกบ้าน มีความคุ้นชินกับปู่ย่าและเด็กเป็นอย่างดี

ส่วนการดูแลเด็ก หลังเกิดเรื่อง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประสาน พม. ให้เข้ามาดูแลเด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่สาเหตุการจับเด็กยังอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมขยายผลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของเป็นแก๊งลักเด็กข้ามชายแดนหรือไม่ ตลอดจนกำลังตรวจสอบเอกสารว่านายน้อยเป็นคนสัญชาติไหน เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าเป็นชาวกัมพูชาหรือไม่ ส่วนข้อหาได้แจ้งไปแล้วคือ พรากผู้เยาว์ อายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากเสียบิดามารดา เจ้ารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ขณะที่ตอนนี้นายน้อยยังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อรอสอบปากคำ โดยสิบเวรหน้าห้องบอกว่าผู้ต้องหาท่าทางปกติดี กินข้าวได้ปกติ ทีมข่าวจึงสอบถามนายน้อยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายน้อย ย้ำว่าที่พาตัวเด็กไปเพราะรักเด็กและเอ็นดู เนื่องจากตนเองเป็นสาวประเภทสอง ไม่สามารถมีลูกได้ เลยอยากมีลูก โดยตั้งใจจะพาไปเลี้ยงที่จันทบุรี เพราะจะไปทำงานที่ไร่สับปะรด ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาพาเด็กไปขาย และอ้างว่าไม่รู้จักกับกลุ่มขบวนการค้าเด็ก ตอนนี้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไป ฝากขอโทษผู้ปกครองของน้องมาร์ตินด้วย ทั้งนี้ นายน้อยอ้างว่าตนเองเป็นคนอีสาน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลของตำรวจยังไม่พบฐานข้อมูลในระบบ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่ม ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 2 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย