พบแล้ว “น้องมาร์ติน” ถูกสาวสองลักพาตัว

8 พ.ค. – สาวประเภทสองลักพาตัว “น้องมาร์ติน” เด็กชายวัย 9 เดือน หายไปจากที่พักย่านบางนา พาขึ้นรถโดยสารมุ่งหน้า จ.ระยอง ล่าสุดพลเมืองดีแจ้งเบาะแสจนสามารถจับตัวได้


กรณีปู่ของน้องมาร์ติน วัย 9 เดือน เข้าร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมพลเมืองดี ให้ช่วยพาไปร้องตำรวจบางนา เพื่อขอให้ตำรวจช่วยติดตามตัวนายน้อย อายุ 52 ปี สาวประเภทสองชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้าง ในพื้นที่แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ ที่ทำทีมาขออุ้มน้องมาร์ติน ก่อนฉวยโอกาสอุ้มหนีหายไปจากซอยท่าน้ำบางนา เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (7 พ.ค.)

นายเอกภพ เล่าว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของปู่กับย่าน้องมาร์ติน ว่าให้ช่วยติดตามหาหลานชายหน้าตาน่ารัก หลังแม่น้องมาคลอดไว้ที่แคมป์คนงาน แล้วให้ปู่ย่าเลี้ยง แต่ถูกคนงานก่อสร้างที่มีลักษณะเป็นสาวสอง อุ้มหายไป


พฤติการณ์คือคนงานรายนี้มาสมัครทำงานก่อสร้างได้ 1 สัปดาห์ และชอบมาเล่นกับน้องมาร์ติน กระทั่งช่วงบ่ายเมื่อวานมาขออุ้มน้อง แล้วบอกว่าจะพาไปเซเว่นฯ แล้วก็อุ้มน้องหายไปเลย

ตลอดทั้งวันมีพลเมืองตีแจ้งเบาะแสเข้ามา มีผู้พบเห็นล่าสุดที่สถานีรถไฟฟ้าสีลม ไปลงสถานีรถไฟหัวลำโพง ในช่วงเวลา 17.30 น. คาดว่าคนร้ายต้องการพาเด็กออกต่างจังหวัดแน่นอน

มีรายงานว่าพบเห็นบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าวเดินอยู่ย่านขนส่งหมอชิต และจากการตรวจค้นภายในห้องพักในแคมป์ พบว่าคนร้ายมีการเก็บกระเป๋าของใช้ส่วนตัว เพื่อเตรียมหลบหนี แต่เนื่องจากน้องมีลักษณะอวบอ้วน จึงเป็นอุปสรรดต่อการเดินทาง จึงไม่ได้นำติดตัวไปได้


หลังเกิดเหตุพลเมืองดีได้ช่วยกันตามหา กระทั่งไปพบนายน้อยนั่งอุ้มเด็กอยู่บนรถตู้ มุ่งหน้า จ.ระยอง กระทั่งช่วงเวลา 02.10 น. ตำรวจสามารถคุมตัวนายน้อย ไว้ได้ พร้อมเด็กชายวัย 9 เดือน เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่ารักเอ็นดูเด็ก อยากเอาเด็กไปเป็นลูก และปฏิเสธลักเด็กไปขาย เมื่อถามว่าทำไมถึงไประยอง เจ้าตัวงึมงำพูดไม่ชัด

จากนั้นเวลา 02.30 น. ตำรวจอีกชุดนำตัวเด็กมาถึง สน.บางนา ก่อนส่งมอบให้ปู่และย่า โดยปู่และย่ารีบโอบกอดและหอมแก้มหลานด้วยความดีใจ

พล.ต.ต.นพศิสป์ เปิดเผยหลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุด้วยตนเองว่า ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าลักพาตัวเด็กไปจริง โดยให้เหตุผลว่าต้องการนำไปเลี้ยง ขณะที่ตัวเองจะไปทำงานที่จันทบุรี โดยลักพาตัวเด็กไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต ไปลงที่ จ.ระยอง และเตรียมต่อรถไปยัง จ.จันทบุรี ในช่วงเช้า

ด้านปู่ของเด็กให้สัมภาษณ์อีกครั้ง บอกว่าดีใจมากที่ได้หลานกลับคืนมา ทีแรกกลุ้มใจ ไม่รู้จะไปพึ่งใคร คนในซอยบอกให้ไปแจ้งตำรวจจึงมาแจ้งความไว้ ยอมรับตำรวจไทยเก่ง เพราะทีแรกกังวลว่าจะไม่ได้หลานคืน รักหลานคนนี้มาก ถึงพ่อแม่เด็กจะทิ้งไปตั้งแต่เล็ก จึงได้นำมาเลี้ยงเอง เคยได้ยินข่าวขโมยเด็ก พอเจอกับตัวเองรู้สึเลย ดีใจมากที่พึ่งตำรวจไทยได้

พันตำรวจเอก สุรพงษ์ สุขแย้ม ผู้กำกับการ สน.บางนา เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า หลังจากปู่และย่าเด็กได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าหลานถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (7 พ.ค.) ตำรวจ สน.บางนา จึงร่วมกับชุดสืบนครบาล และ บก.น.5 เร่งติดตามหาตัวเด็ก และดูกล้องวงจรปิดจนทราบว่านายน้อยพาเด็กขึ้นรถรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปหมอชิต ตลอดจนเช็กเบสทางโทรศัพท์ รวมถึงข้อมูลของประชาชนที่ให้ไว้ในเพจสายไหมต้องรอด กระทั่งทราบข้อมูลจากพลเมืองดีว่าผู้ต้องหามุ่งหน้าไป จ.ระยอง จึงประสานไปยังตำรวจพื้นที่ สภ.เมืองระยอง ก่อนจะจับกุมตัวนายน้อยเอาไว้ได้ที่ขนส่งผู้โดยสาร จ.ระยอง ส่วนเด็กปลอดภัย

ที่ผ่านมาน้องมาร์ตินพักอาศัยอยู่กับปู่ย่า เนื่องจากพ่อแม่เป็นชาวลาว ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ ปู่ย่าจึงเป็นคนเลี้ยงมาตลอด โดยปู่ย่าเป็นกรรมกร รายได้วันละ 400 บาท และในช่วงเวลาที่ปู่ย่าทำงานจะให้คนดูแล ส่วนผู้ต้องหามาสมัครเป็นกรรมกรอยู่ในแคมป์เดียวกับปู่ย่า และเคยเข้าออกบ้าน มีความคุ้นชินกับปู่ย่าและเด็กเป็นอย่างดี

ส่วนการดูแลเด็ก หลังเกิดเรื่อง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประสาน พม. ให้เข้ามาดูแลเด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่สาเหตุการจับเด็กยังอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมขยายผลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของเป็นแก๊งลักเด็กข้ามชายแดนหรือไม่ ตลอดจนกำลังตรวจสอบเอกสารว่านายน้อยเป็นคนสัญชาติไหน เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าเป็นชาวกัมพูชาหรือไม่ ส่วนข้อหาได้แจ้งไปแล้วคือ พรากผู้เยาว์ อายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากเสียบิดามารดา เจ้ารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ขณะที่ตอนนี้นายน้อยยังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อรอสอบปากคำ โดยสิบเวรหน้าห้องบอกว่าผู้ต้องหาท่าทางปกติดี กินข้าวได้ปกติ ทีมข่าวจึงสอบถามนายน้อยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายน้อย ย้ำว่าที่พาตัวเด็กไปเพราะรักเด็กและเอ็นดู เนื่องจากตนเองเป็นสาวประเภทสอง ไม่สามารถมีลูกได้ เลยอยากมีลูก โดยตั้งใจจะพาไปเลี้ยงที่จันทบุรี เพราะจะไปทำงานที่ไร่สับปะรด ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาพาเด็กไปขาย และอ้างว่าไม่รู้จักกับกลุ่มขบวนการค้าเด็ก ตอนนี้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไป ฝากขอโทษผู้ปกครองของน้องมาร์ตินด้วย ทั้งนี้ นายน้อยอ้างว่าตนเองเป็นคนอีสาน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลของตำรวจยังไม่พบฐานข้อมูลในระบบ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่ม ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]