นนทบุรี 10 มี.ค. – สาวร้องถูกลูกหนี้ฉีดน้ำใส่แม่ป่วยติดเตียง ขณะไปเจรจานัดวันเคลียร์หนี้ ด้านเพื่อนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลูกหนี้รายนี้ มักสร้างปัญหาความเดือดร้อน ล่าสุดทั้ง 2 ฝ่ายเคลียร์กันได้เฉพาะเรื่องเงิน ส่วนเรื่องอื่นยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
น.ส.ขนม อายุ 41 ปี แม่ค้าขายออนไลน์ นำคลิปไปร้องนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ สส.โป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี เพื่อให้ช่วยเหลือ หลังถูกลูกหนี้ นางโจ (นามสมมุติ) เจ้าของร้านเสริมสวยในหมู่บ้านเดียวกัน ด่าทอ และใช้น้ำฉีดน้ำใส่หน้าตนเองและแม่ได้รับบาดเจ็บ มีรอยแดงที่ใบหน้า ซึ่งน้ำดังกล่าวมีกลิ่น ไม่แน่ใจว่ามีสารอันตรายหรืออะไรผสมหรือไม่ เหตุเกิดวันที่ 8 มี.ค.ขณะไปเจรจานัดวันเคลียร์หนี้
น.ส.ขนม เล่าว่า รู้จักกับคู่กรณี ตั้งแต่ปลายปี 2565 คู่กรณีได้ขอยิมเงินของตน โดยบอกจะนำไปปล่อยกู้ให้ เพื่อให้ตนมีรายได้ ช่วงแรกคู่กรณีโอนดอกเบี้ยให้ 5,000 บาท หลังจากนั้นก็มีการยืมเงินเรื่อยๆ ทั้งหลักหมื่นหลักพัน แต่ก้อนหลักหมื่นไม่ได้ให้ดอกเบี้ย ให้เฉพาะก้อนหลักพัน โดยมีการคืนเงินเป็นระยะๆ และยืมก้อนใหม่ไปพร้อมๆ กัน วนเวียนไปเรื่อยๆ จนยอดคงเหลืออยู่ประมาณ 70,000 บาท ช่วงหลังตนเองได้รับการเตือนจากคนในหมู่บ้านว่าให้รีบทวงเงินคืน จากนั้นตนจึงทวงเงินคืนและทำสัญญากู้ยืมเงินเอาไว้ คู่กรณีรับปากจะคืนเงิน วันที่ 29 ธ.ค. 66 ตามสัญญา แต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน คู่กรณีเกิดอุบัติเหตุรถล้ม จึงขอทยอยใช้เงินคืนตนอาทิตย์ละ 1,000 บาท ช่วงหลังตนมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะจึงต้องการเงินคืนทั้งหมด แต่คู่กรณีไม่ให้ เมื่อทวงถามก็เกิดการโต้เถียง อ้างว่าตนเองไปด่าลับหลัง ตนเองจึงไปร้องศูนย์ดำรงธรรม แต่คู่กรณีก็ปฏิเสธที่จะไปเจรจา
กระทั่ง 8 มี.ค. ที่ผ่านมาตนได้ไปที่บ้านคู่กรณี เพื่อนัดหมายไปตกลงกัน ตามคำแนะนำของศูนย์ดำรงธรรม ไม่ได้เข้าไปทวงเงิน โดยตนเองพาแม่ไปด้วย แต่คู่กรณีกลับฉีดน้ำไล่ โดนตาแม่ของตน และไม่รู้ว่าใช้น้ำอะไรฉีดเนื่องจากมีกลิ่นแปลกๆ ตนจึงพาแม่ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดวงตาว่าเป็นอันตรายหรือไม่ ตอนนี้ตนเสียใจอยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพื่อนบ้าน หลายรายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นางโจ มักจะมีปัญหากับเพื่อนบ้านเป็นประจำ บางคนเคยถูกโพสต์ด่าในเฟซบุ๊ก แจ้งความตั้งแต่ตุลาคม 2566 แต่คดีความไม่คืบหน้า บางรายบ้านอยู่ติดกับนางโจ ก็ถูกแจ้งตำรวจว่าค้ายาบ้า จนถูกตรวจค้นบ้าน แต่ไม่พบยาเสพติด แต่ก็ยังไม่จบ นางโจยังคอยกลั่นแหล้งตลอด 7 ปี ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ขายของไม่ได้
ทางด้าน นางโจ คู่กรณี ได้เปิดวงจรปิดในบ้านให้ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง น.ส.ขนม มากับแม่แล้วเปิดประตูร้านเสียงดัง ทำเสียงแข็งบอกว่าให้ไปคุยกับแม่ของเขาเรื่องนัดไกล่เกลี่ยที่ศูนย์ดำรงธรรม มาโวยวายหน้าบ้านทำให้พี่สาวของตนไม่พอใจ ไล่ให้กลับแต่ก็ไม่ยอม พี่สาวตนจึงฉีดน้ำใส่ 2 ครั้ง เป็นน้ำเปล่า ไม่ได้มีสารเคมีเจือปน และเล่าวว่า น.ส.ขนม ได้บอกกับตนให้ช่วยเอาเงินไปปล่อยเงินกู้ให้ เพราะอยากมีรายได้ โดยมีเงิน 30,000 บาท ตนรับปากจะปล่อยให้ แต่ต้องเอามาอีก 20,000 บาท รวมเป็น 50,000 บาท โดยตกลงกันว่าจะจ่ายรายเดือน แต่ลูกค้าของตนจ่ายเป็นรายวัน น.ส.ขนม จึงโวยวาย ไม่พอใจ ทั้งที่ตนส่งดอกให้ตลอด มีช่วงโควิดที่ขาดส่งบ้าง ทาง น.ส.ขนม ไปบอกคนอื่นว่าให้ตนกู้เงินโดยไม่คิดดอก แต่จริงๆ แล้วคิดดอกตลอด เคยกู้มา 3,000 บาท แค่วันเดียวตนจ่ายคืน 3,300 บาท ตนหาลูกค้ามาให้ เพราะตนเห็นใจแม่เขาที่ป่วย พอตนรู้ว่า น.ส.ขนม เอาตนไปนินทากับคนอื่นโดยเฉพาะลูกค้าร้านเสริมสวยของตน และมีการส่งคลิปเสียงของตนให้คนอื่นๆ ตนจึงไม่ส่งเงินให้ แล้วบอกให้ไปฟ้องศาลเอาเอง รวมเงินที่กู้มาทั้งหมด 70,000 บาท ตอนนี้เหลืออยู่ 63,000 บาท
ล่าสุดวันนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย สามารถเคลียร์กันลงตัวแล้ว โดยนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ สส.โป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี ได้นัดทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยเจรจาต่อหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากเจรจาผ่านไป 1 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่า นางโจจะชดใช้หนี้สินที่ติดค้างอยู่ 63,000 บาท โดยผ่อนชำระสัปดาห์ละ 1,000 บาท จนกว่าจะหมดหนี้สิน เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม
น.ส.ขนม (เจ้าหนี้) บอกว่า วันนี้ตกลงกันเฉพาะเรื่องเงินที่ยังค้างอยู่ คือ 63,000 บาท ซึ่งวันนี้จะมีการทำบันทึกข้อตกลงกับทางร้อยเวรที่ สภ.ไทรน้อย ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น การฉีดน้ำใส่แม่ของตน ยังต้องรอผลตรวจจากแพทย์ก่อน และพนักงานสอบสวนนัดสอบปากคำพรุ่งนี้ (11 มี.ค.) ยืนยันไม่เคยพูดถึงคู่กรณีกับบุคคลที่ 3 คิดว่าอาจจะเป็นจากการพูดและข้อความที่ส่งมาไม่ตรงกันตนจึงส่งไปถามคนอื่น อันนี้ยอมรับ ส่วนทางคู่กรณีจะเอาผิดตน ตนก็แล้วแต่ทางคู่กรณี วันนี้คงเคลียร์ได้แค่เรื่องเงิน
ด้านนางโจ บอกว่า เรื่องเงินตนเองยอมผ่อนจ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท จนครบยอด ในส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่ได้มีการพูดคุย ส่วนเรื่องการนำตนไปพูดให้เสียหาย หรือการอัดคลิปเสียงตนและส่งไปให้บุคคลอื่นนั้น จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะตนก็ได้รับความเสียหายและอับอาย ส่วนกรณีที่พี่สาวฉีดน้ำใส่นั้น ตนเองยอมขอโทษยาย แต่จริงๆ แล้วพี่สาวไม่ได้ตั้งใจฉีดใส่ยาย.-สำนักข่าวไทย