อุบลราชธานี 25 ม.ค. – ตำรวจอุบลราชธานีรวบตัว “เจ๊ปุ้ย” ผู้ต้องหาร่วมฆ่าเศรษฐินีเมืองจันทบุรี ทิ้งสระน้ำ เจ้าตัวรับสารภาพอยู่ในเหตุการณ์ฆ่าแต่ไม่ได้ลงมือ
ตำรวจสอบสวนกลาง และกองกำกับการสืบสวนจันทบุรี นำหมายศาลเข้าจับกุมนางโสมสุดา หรือเจ๊ปุ้ย อายุ 42 ปี นายทุนเงินกู้ชาว ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง บ้านไทรย้อย ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ฐานร่วมกันฆ่า น.ส.ปณิฐิ อายุ 77 ปี เศรษฐินี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นหรือทำลายศพ
จากการสอบถามเจ๊ปุ้ย ให้การรับสารภาพว่า ตนเองรู้จักกับ น.ส.ปณิฐิ มาประมาณ 6-7 ปี เนื่องจากบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน และยังทำธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบด้วยกัน โดยที่ผ่านมา น.ส.ปณิฐิ ปล่อยเงินกู้ร้อยละ 50 แล้วเก็บไม่ได้ จึงนำเอาโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนหลายแห่ง โดยมีตนเองเป็นคนค้ำประกันให้ แต่ตนไม่เคยได้ส่วนแบ่งค่าจ้างหรือค่าลายเซ็นแต่อย่างใด รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท รวมทั้งดอกเบี้ย ต่อมา น.ส.ปนิฐิ ไม่สามารถเก็บเงินที่ปล่อยกู้ได้ จึงมาบังคับให้ตนซึ่งเป็นคนค้ำ รับผิดชอบ ตนกับนายกฤษ จึงเข้าไปเคลียร์ปัญหากับ น.ส.ปนิฐิ ช่วงคืนวันที่ 19 ม.ค. 67
ขณะนั้น น.ส.ปนิฐิ กำลังยืนให้อาหารสุนัขอยู่หน้าบ้าน ตนจึงเข้าไปคุยจนมีปากเสียงกัน นายกฤษเห็นว่าคุยไม่รู้เรื่องจึงเข้าไปล็อกคอ น.ส.ปนิฐิ แล้วลากเข้าไปในห้องโถงของบ้าน ก่อนจะบีบคอ น.ส.ปนิฐิ จนแน่นิ่ง แล้วนำเชือกมารัดคอ จากนั้นนายกฤษเข้าไปถอดกล้องวงจรปิดและตัวบันทึกใส่กระสอบ พร้อมทั้งอุ้มร่าง น.ส.ปนิฐิ โยนข้ามกำแพงไปทิ้งที่สระน้ำ ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นวันที่ 20 ม.ค. ตนได้เดินทางมาเที่ยวที่ จ.อุบลราชธานี ก่อนจะโดนจับได้ในวันนี้ (25 ม.ค.)
“เจ๊ปุ้ย” ยันไม่ได้ลงมือฆ่าแต่อยู่ในเหตุการณ์
เจ๊ปุ้ย ยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงมือฆ่า น.ส.ปนิฐิ แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์ รู้เห็นทุกอย่าง การฆ่าหรือการนำศพไปทิ้ง นายกฤษเป็นผู้ที่ทำแต่เพียงผู้เดียว ส่วนเรื่องเงิน โฉนดที่หายไป ยืนยันตนเองและนายกฤษไม่ได้เอาไป