คุมคนร้ายทำแผนชิงทองกลางห้างดัง อ.สะเอา จ.สงขลา

สงขลา 5 ม.ค. – ตำรวจสงขลาคุมตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 24 บาท มูลค่า 800,000 บาท จากร้านทองแห่งหนึ่งกลางห้างดังใน อ.สะเดา จ.สงขลา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวบอกสำนึกผิด พร้อมขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย


จากเหตุการณ์นายปรีชา อายุ 20 ปี บุกเดี่ยวใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ร้านทองกลางห้างดังใน อ.สะเดา จ.สงขลา ช่วงเย็นวานนี้ (4 ม.ค.) กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่วินาทีสวมเพียงหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินถือมีดเข้ามาในเคาน์เตอร์ร้านทอง ก่อนพูดข่มขู่พนักงานให้นั่งลง และกระโดดขึ้นไปบนเคาน์เตอร์ หยิบสร้อยคอทองคำไปได้ 24 บาท มูลค่า 800,000 บาท แล้ววิ่งออกไปจากร้าน โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยนำรถจักรยานยนต์ที่เช่ามาไปจอดทิ้งไว้ในเมืองสะเดา ห่างจากห้างที่ก่อเหตุ 2 กิโลเมตร และเช่ารถยนต์ชาวบ้าน 1,000 บาท ให้มาส่งที่ อ.หาดใหญ่ ก่อนถูกตำรวจจับกุมได้หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ขณะหนีมาเปิดห้องพักอยู่ที่แมนชั่น ย่านถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 กลางเมืองหาดใหญ่ พร้อมยึดทองคืนมาได้ทั้งหมด

จากการสอบสวนผู้ต้องให้การรับสารภาพก่อเหตุจริง ลงมือเพียงลำพัง เพื่อหาเงินไปซื้อปืนและจ้างฆ่าลูกน้องเก่าที่ร่วมกับแฟนเก่าโกงเงินไป 300,000 บาท ก่อนเกิดเหตุได้เอาโทรศัพท์มือถือไปแลกกับการเช่ารถจักรยานยนต์ เพื่อนำมาใช้หลบหนี หลังชิงทองเสร็จได้ขี่กลับไปจอดทิ้งไว้ให้เจ้าของไปตามคืน เพราะรถมีจีพีเอสติดอยู่ ก่อนจ้างรถยนต์ชาวบ้านให้มาส่งที่ อ.หาดใหญ่ เตรียมเข้ากรุงเทพฯ เช้าวันนี้ (5 ม.ค.) แต่ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมเสียก่อน ส่วนที่เลือกก่อเหตุร้านทองร้านนี้เพราะลงมือสะดวก เนื่องจากอยู่ใกล้ห้องน้ำ พร้อมกับขอโทษ ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ


เบื้องต้นตำรวจแจ้งเพียงข้อหาเดียว คือชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ และเมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวจคุมตัวนายปรีชาที่อยู่ในชุดเสื้อเกาะอกสีขาวสวยงามเหมือนผู้หญิง ออกจากห้องขัง สภ.สะเดา ออกมาแถลงข่าวและขอโทษ นายปรีชาถึงกับร่ำไห้สำนึกผิด ขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย

จากนั้นตำรวจจึงนำตัวนายปรีชาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากจุดแรก ร้านขายตั๋วโดยสาร บริเวณด่านนอกชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่นายปรีชาซื้อตั๋วรถโดยสารไปยังมาเลเซีย และยืมรถจักรยานยนต์จากญาติของเจ้าของร้านขายตั๋ว อ้างว่าจะขับไปทำธุระ 15 นาที
จุดที่ 2 ร้านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนำโทรศัพท์มือถือไอโฟน 12 ไปจำนำ จุดที่ 3 ที่ห้างจุดเกิดเหตุ ตั้งแต่เดินเข้าไปในห้าง ก่อเหตุชิงทอง และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

จุดที่ 4 บนถนนภายในซอยกาญจนวนิชย์ ซอย 20/1 เขตเทศบาลเมืองสะเดา ที่นำรถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ จุดที่ 5 บนถนนสายเลี่ยงเมืองสะเดา ที่เดินออกมาและว่าจ้างชาวบ้านให้ขับรถยนต์ไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ โดยตลอดการทำแผนทั้ง 5 จุด ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุวุ่นวาย จากนั้นจึงคุมตัวกลับมาควบคุมต่อที่ สภ.สะเดา เพื่อรอส่งตัวไปฝากขังที่ศาล จ.สงขลา


พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา เปิดเผยว่า ตอนแรกต้องหาตั้งใจชิงทรัพย์ร้านทองใน อ.หาดใหญ่ แต่ร้านนี้อยู่ใกล้ ประกอบกับอยู่หน้าห้องน้ำ ลงมือสะดวก จึงเปลี่ยนมาเป็นร้านนี้แทน โดยเดินเข้าออกดูลาดเลา 2 รอบ จึงลงมือก่อเหตุ โดยลงมือเพียงคนเดียว ส่วนคนอื่น ทั้งเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาก่อเหตุ และเจ้าของรถยนต์ที่ขับพาไปส่ง อ.หาดใหญ่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ ตำรวจยึดไว้เป็นของกลาง เพื่อประกอบคดี และจากการตรวจสอบประวัตินายปรีชา พบว่าถูกแจ้งความคดีฉ้อโกงที่ จ.หนองคาย และคดี พ.ร.บ. ที่ จ.เชียงใหม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน