บุกรวบโจรวิ่งราวทรัพย์ พบเคยติดคุกมาแล้ว 5 ครั้ง

ตรัง 31 ธ.ค. – ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดตรัง บุกรวบ “ช้าง บางขัน” หลังก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์หญิงสาวใน จ.ตรัง 2 อำเภอ รวม 3 ราย พบประวัติเคยต้องโทษคดีเกี่ยวกับทรัพย์มาแล้วถึง 5 ครั้ง แต่ยังไม่เข็ด


ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ร่วมกับตำรวจ สภ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช รวมกว่า 10 นาย จับกุมนายทวีวัฒน์ หรือช้าง บางขัน อายุ 48 ปี หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง ฐานความผิด “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” พร้อมด้วยของกลาง 10 รายการ เช่น รถจักรยานยนต์สีดำ 1 คัน และสีน้ำเงิน 1 คัน, หมวกกันน็อก รองเท้า กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันเกิดเหตุ

เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมให้รายละเอียดว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 66 วิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายในพื้นที่ อ.เมืองตรัง จำนวน 2 ราย โดยขี่รถจักรยานยนต์จาก อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ ต.บางรัก อ.เมืองตรัง เหยื่อเป็นหญิงสาว ได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระกริ่ง 1 องค์ แต่เมื่อขี่จักรยานยนต์ไปทาง ต.บางหมาก อ.กันตัง ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าทองปลอม จึงนำไปโยนทิ้ง


จากนั้นวันเดียวกัน เวลาประมาณ 12.49 น. ขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเหรียญกิ้วอ่อง 1 องค์ จี้หยกรูปหัวใจ 1 ชิ้น บริเวณถนนกันตัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ก่อนหลบหนีไป โดยได้นำทองรูปพรรณที่วิ่งราวมาไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ได้เงิน 21,000 บาท

ก่อนหน้านี้วันที่ 11 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 15.47 น. ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์บริเวณหน้าร้านซูเปอร์มาร์ท ถนนตรัง-ปะเหลียน ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พระกริ่ง 1 องค์ โดยครั้งนั้นนำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เงิน 28,000 บาท

จาการพลิกแฟ้มคดีพบว่า ผูต้องหารายนี้เพิ่งพ้นโทษมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมาถูกจับกุมอีกครั้งในครั้งนี้ และยังพบอีกว่าผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจำคุกในเรือนจำมาแล้วถึง 5 ครั้ง


กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ 2 เหตุการณ์ เหตุการณ์แรก ผู้ต้องหาได้ลงจากรถจักรยานยนต์ปรี่เข้าไปกระชากสร้อยคอทองคำของหญิงสาวรายหนึ่งที่กำลังจะเดินเข้าไปซื้อของภายในซูเปอร์มาร์ท ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ก่อนวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป

ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 ผู้ต้องหาจอดรถจักรยานยนต์รอดูท่าทีของหญิงสาวรายหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามากระชากสร้อยคอทองคำ และทำร้ายหญิงสาว ทำให้ฝ่ายหญิงไม่สามารถสู้แรงคนร้ายได้ ประกอบกับคนที่เห็นเหตุการณ์คิดว่าเป็นสามีภรรยาทะเลาะกัน และยังถูกฝ่ายผู้ต้องหาขู่จะแทงให้ตาย จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามหรือช่วยเหลือ เบื้องต้นตำรวจนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน และจะนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดตรังต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น