บุรีรัมย์ 22 ธ.ค. – รวบแล้ว 2 โจร ขับเก๋งตระเวนลักทรัพย์จากร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า แบบไม่สนกล้องวงจรปิด เจ้าของร้านสุดทน ประกาศตั้งรางวัลนำจับ อ้างพิษโควิดทำธุรกิจค้าขายเจ๊ง จึงต้องหันมาลักทรัพย์ไปขายตามตลาดนัด
กรณีคนร้ายเป็นชายสูงวัย 2 คน คนหนึ่งรูปร่างอ้วน อีกคนรูปร่างผอม ขับรถเก๋งขโมยสินค้า อาทิ เต้าเสียบแบบ 2 หัว 140 ตัว มูลค่าความเสียหายประมาณ 20,000 บาท ไปจากร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าใน จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 24-25 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม หวนกลับมาที่ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า สาขานางรอง เพื่อหวังขโมยสินค้าอีก แต่พอเห็นรูปของตัวเองที่ถูกประกาศตั้งรางวัลนำจับ ทำให้ล่าถอยกลับไป
เมื่อมาให้เห็นตัวเป็นๆ กันอีกครั้ง ตำรวจชุดสืบสวนภูธรบุรีรัมย์ ชุดสืบสวน สภ.บ้านกรวด และชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย เร่งออกหาข่าวติดตามตัว 2 โจรสูงวัยมาดำเนินคดี ใช้เวลาเพียงข้ามวัน ชุดสืบสวนแกะรอยตามเจอ 2 โจร และตระครุบตัวได้ขณะทั้งคู่ขับรถยนต์คันที่ใช้ขโมยสินค้าตระเวนอยู่ในพื้นที่ อ.ประโคนชัย ขณะเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม ทั้ง 2 คนไม่ได้ขัดขืน และยอมรับว่าก่อเหตุลักขโมยของในร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าจริง ส่วนการตรวจค้นพบเต้าปลั๊กไฟ 2 กล่อง ซึ่งเป็นของกลางที่ขโมยไปด้วย จึงพาตัวไปทำแผนที่ร้านที่เกิดเหตุ และคุมตัวไปสอบปากคำต่อ
นายสงวน อายุ 59 ปี อ้างว่าช่วงโควิดระบาด ธุรกิจค้าขายที่ทำอยู่เกิดเจ๊ง จึงหันมาลักขโมยของตามร้านค้าในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน เพื่อนำไปขายตามตลาดนัดในกรุงเทพฯ ซึ่งเต้าเสียบไฟขายกล่องละ 200-300 บาท พอขายหมดจะกลับมาขโมยไปขายอีก
ด้านนายนิธิวัฒน์ อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาอีกคน บอกว่ารู้จักกับนายสงวน ไม่ได้ทำงานอะไร เขาแค่ชวนมาด้วยก็มา ไม่ได้เจตนาจะลักทรัพย์ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้งคู่ร่วมกันทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด พาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร
คดีนี้เจ้าของร้านขอบคุณตำรวจที่ช่วยติดตามจับกุมตัวขโมยได้ และคิดว่าทั้งคู่ไม่ได้ก่อเหตุแค่ร้านตัวเอง และเพื่อความปลอดภัยของร้านทั้ง 7 สาขา จะติดกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก.-สำนักข่าวไทย