บุรีรัมย์ 30 ส.ค. – อดีตแฟนของนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ที่ถูก 2 ไอ้โม่งบุกสาดน้ำกรด เข้าพบตำรวจ สภ.นางรอง ยืนยันความบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว
ความคืบหน้ากรณีนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ถูก 2 คนร้ายสวมไอ้โม่งบุกสาดน้ำกรด ขณะนั่งกินข้าว ล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) นายไนท์ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นแฟนที่เพิ่งบอกเลิกกับน้องอั้ม นักเรียนหญิงชั้น ม.6 เมื่อ 2 เดือนก่อน และตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจเรียกให้มาพบ ได้เดินทางเข้าพบและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สาดน้ำกรดใส่น้องอั้ม โดยนายไนท์ ยอมรับว่า คบหากับน้องอั้มประมาณ 1 ปีกว่า แต่พอจับได้ว่าน้องมีชายคนอื่น จึงเลิกรากันได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว จากนั้นตนก็ไปทำงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา และไม่ได้ติดต่อกันอีก แต่ยอมรับว่า เคยส่งข้อความมาข่มขู่อั้ม เพราะโกรธที่อั้มไปมีคนอื่น โดยขู่ในลักษณะจะมาทำร้าย แต่ก็แค่ขู่เพราะเสียใจเท่านั้น ไม่ได้ทำหรือเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสาดน้ำกรดครั้งนี้ ซึ่งก็มีพยานจากเพื่อนที่ทำงานและกล้องวงจรปิดที่ทำงานว่า ช่วงเวลาดังกล่าวตนเองทำงานอยู่ฉะเชิงเทราจริง แต่ก็รู้สึกกังวลอยู่บ้างที่ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย
ด้านนายวิวัฒน์ อายุ 40 ปี น้าของน้องอั้ม กล่าวภายหลังให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจว่า ตอนนี้เป็นห่วงหลานมาก โดยเฉพาะดวงตา กลัวว่าจะมองเห็นไม่เหมือนปกติ ซึ่งวันนี้หมอจะผ่าตัดตาข้างขวาที่มองไม่เห็น ขอให้หลานปลอดภัย ส่วนอวัยวะภายนอกอื่นๆ ยังพอจะศัลยกรรมได้ ส่วนสาเหตุคิดว่าคนร้ายเจาะจงสาดน้ำกรดใส่หลาน ยายกับน้าแค่โดนลูกหลง จึงเชื่อว่ามูลเหตุน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของหลานเอง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรบ้าง ต้องรอสอบถามจากหลาน ตอนนี้ขอแค่ให้หลานปลอดภัย และอยากให้ติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
ส่วนด้านคดีความ พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผกก.สภ.นางรอง นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำคดีนี้โดยเฉพาะ ซึ่งได้รับความร่วมมือทั้งจากชุดสืบสวนภูธรภาค 3 และสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบในพื้นที่ สภ.นางรอง กระจายกำลังลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแส รวมถึงไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ควบคู่กับการสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ นำไปสู่การติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนเบื้องต้นมีหลายมูลเหตุจูงใจ ทั้งเรื่องเดิมที่เคยมีคดีความกันมาก่อน รวมถึงปัญหาส่วนตัวของน้องผู้บาดเจ็บเอง ว่าเป็นกรณีใดบ้าง เพื่อจะได้เป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งทางตำรวจทำงานกันอย่างเต็มที่. – สำนักข่าวไทย