ระยอง 22 มี.ค. – ตำรวจระดมกำลังปูพรมค้นหาตัวประกันชาวจีน บนเขายายร้า จ.ระยอง แต่ยังไม่พบตัว ขณะคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวจีนได้คาสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศ
จากกรณีนายหม่า หมิงชุน (MR.MA MINGSHAN) อายุ 33 ปี นักธุรกิจชาวจีน เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าภรรยาคือ นางสาวเซิน เหยียน อายุ 33 ปี และนายเหยียน ซิน พี่ชาย ถูกชายฉกรรจ์ชาวจีนไม่ทราบจำนวน ลักพาตัวไปพร้อมกับรถยนต์เอสยูวี นิสสัน เทอร่า สีดำ ขณะกำลังขับรถกลับบ้านพัก หลังไปส่งลูกชายวัย 3 ขวบ ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง โดยออกจากโรงเรียนมาได้ไม่ถึง 3 กิโลเมตร ก็ถูกลักพาตัวไป
พฤติกรรมของคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้า จากนั้นคนร้ายกระโดดขึ้นรถของภรรยาและขับพาไปทั้งคนและรถ จากนั้นคนร้ายใช้แอปพลิเคชันวีแชทโทรกลับมาเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทย 4.7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เหตุเกิดภายในซอยพรประนิมิตร 21 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา
กลางดึกวานนี้ (21 มี.ค) พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการให้นำกำลังชุดสืบสวนกว่า 50 นาย เดินทางไปกลางภูเขายายดา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ห่างจากจุดคนร้ายก่อเหตุประมาณ 40 กิโลเมตร
ปฏิบัติการค้นหาดังกล่าวต้องขับรถเส้นทางมุ่งหน้าขึ้นเขากว่า 2 กิโลเมตร และเดินเท้าเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร จนพบจุดต้องสงสัยที่คนร้ายส่งพิกัดขู่สามีของตัวประกัน พบเชือกไนลอนสีขาวยาวประมาณ 3 เมตร และถุงขนมช็อกโกแลต 11 ห่อ แต่ไม่พบตัวประกัน
ส่วนการแกะรอยรถต้องสงสัยที่ใช้ก่อเหตุ พบเป็นรถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร สีดำ เป็นรถที่ปล่อยเช่าให้กลุ่มคนจีนขับเที่ยวในพัทยา โดยเจ้าของรถตัวจริงเป็นสองสามีภรรยา เบื้องต้นให้เช่าวันละ 2,000 บาท เช่ามาตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจะเชิญสองสามีภรรยามาสอบปากคำและกันตัวไว้เป็นพยาน
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) ตำรวจควบคุมชาวจีนต้องสงสัย อายุประมาณ 30-35 ปี มาสอบสวนที่ สภ.หนองปรือ โดยควบคุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังเตรียมเดินทางออกนอกประเทศไทย ไปยังเมืองหนานหนิง ประเทศจีน สาเหตุที่ตำรวจไปควบคุมตัวเนื่องจากพบจุดเชื่อมโยงจากการนำพาสปอร์ตไปเช่ารถและเปิดโรงแรมย่านจอมเทียน ขณะที่ยังมีผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน แต่ออกนอกประเทศไทยไปแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 มี.ค. มุ่งหน้าไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ทั้งนี้ ช่วงบ่ายวานนี้ (21 มี.ค. ) ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตั้งแต่หมู่บ้านผู้เสียหาย ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติ ระยะทางรวมกันกว่า 3.2 กิโลเมตร มีกล้องของชาวบ้านจับภาพช่วงเวลา 08.48 น. พบรถยนต์ของผู้เสียหายขับผ่าน และทิ้งระยะห่างไม่ถึง 1.20 นาที มีคนของคนร้าย เป็นรถมิตซูบิชิปาเจโรสีดำ ขับตามมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นกล้องอีกมุมจับภาพคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุปาดหน้า แล้วลักพาตัวผู้เสียหายไป ลักษณะของคนร้ายเป็นชาวจีน 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สวมถุงมือสีขาวทั้ง 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ สะกดรอยตามรถของผู้เสียหาย ก่อนจะลงมือก่อเหตุลักพาตัว
การตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดพบความผิดปกติเรื่องห้วงเวลา เนื่องจากข้อมูลจากกล้องวงจรปิดพบว่ารถของผู้เสียหายกับรถของกลุ่มผู้ก่อเหตุทิ้งห่างกันเกือบ 1 นาที แต่คนร้ายยังสามารถติดตามรถของเหยื่อได้ทัน จึงเกรงว่าหนึ่งในตัวประกันจะรู้เห็นกับกลุ่มผู้ก่อเหตุหรือไม่ ตำรวจเริ่มตัดประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวออก และมุ่งประเด็นขัดแย้งผลประโยชน์ธุรกิจผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่ง อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
นอกจากนี้พยานคนสำคัญเปิดเผยว่าเคยเห็นรถต้องสงสัยตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 17 มี.ค. และมาทุกวัน กระทั่้งวันเกิดเหตุวันที่ 20 มี.ค. พบรถยนต์ต้องสงสัย ภายในรถมีชาวจีน 5-6 คน มาจอดรถติดเครื่องยนต์เป็นเวลาหลายชั่วโมงจนผิดสังเกต ตั้งแต่ 7 โมงเช้า และมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์สีดำ มาจอดเพิ่มอีก 1 คัน ทั้งหมดสวมหมวก ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า และสวมถุงมือ ก่อนจะได้ยินเสียงเร่งเครื่องขับไปอย่างรวดเร็ว จนมาทราบว่ามีการลักพาตัว
ด้านนายนนท์ อายุ 26 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 มี.ค. มีชายชาวจีน 2 ค เข้ามาซื้อรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์สีดำ ราคา 14,000 บาท และให้เงินอีก 1,000 บาท ใช้ลูกน้องในร้านไปซื้อหมวกกันน็อกเต็มใบ 2 ใบ ระหว่างตรวจเช็กสภาพรถจักรยานยนต์ก่อนส่งมอบ เริ่มพบว่าชาวจีนทั้งสองมีพฤติกรรมแปลกๆ ทั้งคู่พยายามเดินหลบมุมกล้องวงจรปิดไปนั่งหลบหลังร้าน และไม่ยอมให้เอกสารหลักฐานในการซื้อขาย อ้างว่าต้องการใช้รถจักรยานยนต์ไม่กี่วัน แล้วจะนำมาขายคืนให้ ก่อนจะมีชายต่างด้าวอีก 1 คน เดินตามเข้ามาสบทบ
ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเดินทางมาเก็บรอยนิ้วมือแฝง พร้อมทั้งตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้าย โดยมีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และรถยนต์ของผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังได้ตรวจดีเอ็นเอบนร่างกายของนายหม่า หมิงชุน รวมถึงเพื่อนชาวจีนที่เพิ่งเชิญตัวมาสอบปากคำ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงของคนร้าย เนื่องจากแนวทางการสอบสวนพบว่าผู้เสียหายและกลุ่มผู้ก่อเหตุรู้จักกันเป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย