ปูพรมค้นหา 2 ตัวประกัน ถูกแก๊งจีนจับตัวเรียกค่าไถ่ 4.7 ล้าน

ระยอง 22 มี.ค. – ตำรวจระดมกำลังปูพรมค้นหาตัวประกันชาวจีน บนเขายายร้า จ.ระยอง แต่ยังไม่พบตัว ขณะคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวจีนได้คาสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศ


จากกรณีนายหม่า หมิงชุน (MR.MA MINGSHAN) อายุ 33 ปี นักธุรกิจชาวจีน เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าภรรยาคือ นางสาวเซิน เหยียน อายุ 33 ปี และนายเหยียน ซิน พี่ชาย ถูกชายฉกรรจ์ชาวจีนไม่ทราบจำนวน ลักพาตัวไปพร้อมกับรถยนต์เอสยูวี นิสสัน เทอร่า สีดำ ขณะกำลังขับรถกลับบ้านพัก หลังไปส่งลูกชายวัย 3 ขวบ ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง โดยออกจากโรงเรียนมาได้ไม่ถึง 3 กิโลเมตร ก็ถูกลักพาตัวไป

พฤติกรรมของคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้า จากนั้นคนร้ายกระโดดขึ้นรถของภรรยาและขับพาไปทั้งคนและรถ จากนั้นคนร้ายใช้แอปพลิเคชันวีแชทโทรกลับมาเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทย 4.7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เหตุเกิดภายในซอยพรประนิมิตร 21 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา


กลางดึกวานนี้ (21 มี.ค) พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการให้นำกำลังชุดสืบสวนกว่า 50 นาย เดินทางไปกลางภูเขายายดา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ห่างจากจุดคนร้ายก่อเหตุประมาณ 40 กิโลเมตร

ปฏิบัติการค้นหาดังกล่าวต้องขับรถเส้นทางมุ่งหน้าขึ้นเขากว่า 2 กิโลเมตร และเดินเท้าเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร จนพบจุดต้องสงสัยที่คนร้ายส่งพิกัดขู่สามีของตัวประกัน พบเชือกไนลอนสีขาวยาวประมาณ 3 เมตร และถุงขนมช็อกโกแลต 11 ห่อ แต่ไม่พบตัวประกัน

ส่วนการแกะรอยรถต้องสงสัยที่ใช้ก่อเหตุ พบเป็นรถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร สีดำ เป็นรถที่ปล่อยเช่าให้กลุ่มคนจีนขับเที่ยวในพัทยา โดยเจ้าของรถตัวจริงเป็นสองสามีภรรยา เบื้องต้นให้เช่าวันละ 2,000 บาท เช่ามาตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจะเชิญสองสามีภรรยามาสอบปากคำและกันตัวไว้เป็นพยาน


ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) ตำรวจควบคุมชาวจีนต้องสงสัย อายุประมาณ 30-35 ปี มาสอบสวนที่ สภ.หนองปรือ โดยควบคุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังเตรียมเดินทางออกนอกประเทศไทย ไปยังเมืองหนานหนิง ประเทศจีน สาเหตุที่ตำรวจไปควบคุมตัวเนื่องจากพบจุดเชื่อมโยงจากการนำพาสปอร์ตไปเช่ารถและเปิดโรงแรมย่านจอมเทียน ขณะที่ยังมีผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน แต่ออกนอกประเทศไทยไปแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 มี.ค. มุ่งหน้าไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

ทั้งนี้ ช่วงบ่ายวานนี้ (21 มี.ค. ) ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตั้งแต่หมู่บ้านผู้เสียหาย ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติ ระยะทางรวมกันกว่า 3.2 กิโลเมตร มีกล้องของชาวบ้านจับภาพช่วงเวลา 08.48 น. พบรถยนต์ของผู้เสียหายขับผ่าน และทิ้งระยะห่างไม่ถึง 1.20 นาที มีคนของคนร้าย เป็นรถมิตซูบิชิปาเจโรสีดำ ขับตามมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นกล้องอีกมุมจับภาพคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุปาดหน้า แล้วลักพาตัวผู้เสียหายไป ลักษณะของคนร้ายเป็นชาวจีน 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สวมถุงมือสีขาวทั้ง 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ สะกดรอยตามรถของผู้เสียหาย ก่อนจะลงมือก่อเหตุลักพาตัว

การตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดพบความผิดปกติเรื่องห้วงเวลา เนื่องจากข้อมูลจากกล้องวงจรปิดพบว่ารถของผู้เสียหายกับรถของกลุ่มผู้ก่อเหตุทิ้งห่างกันเกือบ 1 นาที แต่คนร้ายยังสามารถติดตามรถของเหยื่อได้ทัน จึงเกรงว่าหนึ่งในตัวประกันจะรู้เห็นกับกลุ่มผู้ก่อเหตุหรือไม่ ตำรวจเริ่มตัดประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวออก และมุ่งประเด็นขัดแย้งผลประโยชน์ธุรกิจผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่ง อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

นอกจากนี้พยานคนสำคัญเปิดเผยว่าเคยเห็นรถต้องสงสัยตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 17 มี.ค. และมาทุกวัน กระทั่้งวันเกิดเหตุวันที่ 20 มี.ค. พบรถยนต์ต้องสงสัย ภายในรถมีชาวจีน 5-6 คน มาจอดรถติดเครื่องยนต์เป็นเวลาหลายชั่วโมงจนผิดสังเกต ตั้งแต่ 7 โมงเช้า และมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์สีดำ มาจอดเพิ่มอีก 1 คัน ทั้งหมดสวมหมวก ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า และสวมถุงมือ ก่อนจะได้ยินเสียงเร่งเครื่องขับไปอย่างรวดเร็ว จนมาทราบว่ามีการลักพาตัว

ด้านนายนนท์ อายุ 26 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 มี.ค. มีชายชาวจีน 2 ค เข้ามาซื้อรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์สีดำ ราคา 14,000 บาท และให้เงินอีก 1,000 บาท ใช้ลูกน้องในร้านไปซื้อหมวกกันน็อกเต็มใบ 2 ใบ ระหว่างตรวจเช็กสภาพรถจักรยานยนต์ก่อนส่งมอบ เริ่มพบว่าชาวจีนทั้งสองมีพฤติกรรมแปลกๆ ทั้งคู่พยายามเดินหลบมุมกล้องวงจรปิดไปนั่งหลบหลังร้าน และไม่ยอมให้เอกสารหลักฐานในการซื้อขาย อ้างว่าต้องการใช้รถจักรยานยนต์ไม่กี่วัน แล้วจะนำมาขายคืนให้ ก่อนจะมีชายต่างด้าวอีก 1 คน เดินตามเข้ามาสบทบ

ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเดินทางมาเก็บรอยนิ้วมือแฝง พร้อมทั้งตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้าย โดยมีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และรถยนต์ของผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังได้ตรวจดีเอ็นเอบนร่างกายของนายหม่า หมิงชุน รวมถึงเพื่อนชาวจีนที่เพิ่งเชิญตัวมาสอบปากคำ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงของคนร้าย เนื่องจากแนวทางการสอบสวนพบว่าผู้เสียหายและกลุ่มผู้ก่อเหตุรู้จักกันเป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]