ยะลา 14 ก.พ.66 เทศบาลนครยะลา แถลงข่าวจัด “มลายูเดย์@ยะลา ปีที่ 8” ส่งเสริมเศรษฐกิจท่องเที่ยว อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมมลายูบนดินแดนแหลมมลายู และกระชับสัมพันธ์ไมตรีกับมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ในวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์นี้ ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา
.
วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) เทศบาลนครยะลาได้จัดการแถลงข่าว งานมลายูเดย์@ยะลา ปีที่ 8 ณ ห้องประชุมเทศบาล โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว คือ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ทุกท่านคงจำได้ในช่วงปี 2563-2565 โลกของเราประสบวิกฤตเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงจังหวัดยะลาเองด้วย ขณะนั้นก็มีนายกพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ที่พยายามแก้ปัญหาในการป้องกันการลุกลามในจังหวัดยะลามากขึ้น ซึ่งจากวิกฤตดังกล่าวส่งผลให้การท่องเที่ยวลดลง เศรษฐกิจของจังหวัดยะลาเองก็ซบเซาเนื่องจากที่ผ่านมาต้องพึ่งพาภาคการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ทุเรียน ส้มโชกุน เงาะ หรือลองกอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยสภาพอากาศทั้งสิ้น อย่างที่ทุกท่านทราบปีที่แล้วเรามีปัญหาสภาพอากาศ ทำให้ทุเรียนมีผลผลิตลดลงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้จังหวัดยะลาเองต้องปรับตัว มุ่งส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับวิสัยทัศน์ว่า คุณภาพชีวิตมั่นคง เกษตรมั่งคั่ง ท่องเที่ยวยั่งยืน ซึ่งเรามีโครงการกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสองคนที่ผ่านมาพยายามรณรงค์เรื่องของการท่องเที่ยว เราเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม เรามีธรรมชาติที่สวยงาม ส่วนภาครัฐเองก็พยายามที่จะผลักดันโครงการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Sky Walk ขึ้นมาเป็น Landmark ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว นั่นแสดงให้เห็นว่า รายได้จากภาคการเกษตรอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่เราต้องการรายได้จากภาคการท่องเที่ยวเข้ามาเสริมด้วย ซึ่งสำหรับวันนี้เป็นงานแถลงข่าว “มลายูเดย์” ซึ่งเราห่างเหินไปสองปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ตรงนี้ต้องขอบคุณท่านนายกพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ ที่ได้จัดกิจกรรมนี้เป็นปีที่ 8 ก็ทราบจากตัวเลขว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมวันละหนึ่งหมื่นถึงหมื่นสองพันคน ก็หวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดยะลาได้ดีโดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว
.
Mr.Muhammad Ridzuan Abu Yazid กงสุลใหญ่มาเลเซีย ประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในนามของประเทศมาเลเซีย เราได้เตรียมตัวเพื่องานมลายูเดย์ @ยะลา ครั้งนี้ โดยประสานไปยังการแสดงของตัวแทนของมาเลเซีย ในการแสดงขับร้องอาชีด ตามในโปสเตอร์เพื่อมาร่วมในงานมาลายูเดย์ @ยะลา ปีที่ 8
.
Mr. Agus Cahyono Rasyid กงสุลฝ่ายเศรษฐกิจสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในนามของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ครั้งนี้ก็จะสนับสนุนกิจกรรมมาลายูเดย์ @ยะลา ปีที่ 8 อย่างเต็มที่ ด้วยกิจกรรมหลักๆ ก็คือ จะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ ทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรมมลายูของประเทศอินโดนีเซีย
.
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่า เทศบาลนครยะลาถือว่าเป็นประตูในของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเราเองก็พยายามที่จะส่งเสริมในเรื่องของอัตลักษณ์ และวัฒนธรรม เพื่อนำมาขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะงานมลายูเดย์ถือว่าเป็นต้นทางอันหนึ่งที่เทศบาลได้ดำเนินการ ประกอบกับสิ่งที่สำคัญในเชิงของพื้นที่ คือ การก่อให้เกิดการสร้างกระบวนการเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรมในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลฯ ได้รับความร่วมมืออย่างสูงจากทางมาเลเซีย อินโดนีเซีย วัฒนธรรมจังหวัด แล้วก็ทางจังหวัดยะลาจนกระทั่งงานมลายูเดย์ ก็ถือเป็นงานหลักในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยหลังจากเหตุการณ์คลี่คลายเราก็ได้มีการหารือร่วมกัน ผมเองก็ได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมคารวะทั้งทางด้านกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา และกงสุลใหญ่อินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา สิ่งที่สำคัญก็คือทั้งสองประเทศได้ให้การสนับสนุนในการจัดงานครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยกิจกรรมภายในงานมีทั้งการแข่งขันทักษะทางวิชาการ การแข่นขัน Choral Speaking การประกวดคุณธรรมภาษาไทย การขับร้องอนาชีดภาษามลายู รวมถึงการสัมมนาทางวิชาการการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขบนความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งก็จะมีการเชิญนักวิชาการจากทั้งอินโดนีเซียและมาเลเซียได้มาพูดคุยในประเด็นเหล่านี้ สุดท้ายก็เป็นเรื่องของนิทรรศการ การแสดง เพราะนั่นถือว่าเป็นกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้เข้ามาฟื้นฟูทำให้บ้านเมืองมีสีสัน แล้วก็มีนิทรรศการร่มมลายูเป็นครั้งแรก รวมถึงมีการชิมขนมพื้นบ้านต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนมีพื้นฐานมาจากงานมลายูเดย์ @ยะลา ที่เราทำเรื่องวัฒนธรรมให้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ก็อยากจะเรียนเชิญทุกท่านได้เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ โดยทางเทศบาลเราจะมีการไลฟ์สดผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เข้ามาร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนแล้วก็สร้างความเป็นเอกลักษณ์ในเชิงของพื้นที่จังหวัดยะลาของเรา
.
คุณอภิญญา สุวรรณ วัฒนธรรมจังหวัดยะลา กล่าวว่า งานมลายูเดย์เป็นงานที่ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วตั้งแต่ที่ยังไม่ได้มาปฏิบัติงานอยู่ที่จังหวัดยะลาก็ได้ยินข่าวคราว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ถ้าเป็นความหมายของภาษาอังกฤษก็จะเรียกว่า อินฟินิตี้ เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่มาก จะไม่มีจุดจบเลยสำหรับในครั้งนี้ ความสนุกความเพลิดเพลินหรือว่าเสน่ห์ทางด้านงานศิลปะและวัฒนธรรมนั้นไม่มีวันหมด ต้องขอขอบคุณทางเทศบาลฯ ซึ่งนำโดยท่านนายกพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ ทีมงานเทศบาลที่เข้มแข็งมาก ร่วมกันสร้างสรรค์งานที่เกี่ยวกับทางด้านวัฒนธรรมมาโดยตลอด สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นการลงทุนของทางเทศบาลที่สามารถสร้างผลกำไรตอบสนองให้กับประชาชน เพราะประชาชนคือผู้ที่ได้รับผลจากการสร้างงานตรงนี้ ขอเชิญร่วมประชาสัมพันธ์กันไปในส่วนของการจัดงานมาลายูเดย์ @ยะลา ช่วงของวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2566 ที่จะถึงนี้ วัฒนธรรมกินได้ วัฒนธรรมทานได้ วัฒนธรรมเที่ยวได้ ในขณะเดียวกันวัฒนธรรมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจได้ด้วยเช่นกัน อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตอนนี้คือ พลังแห่งความร่วมมือของพวกเรา เราไม่ได้ร่วมมือกันเฉพาะในจังหวัดยะลาเท่านั้น จังหวัดใกล้เคียงอย่างปัตตานี นราธิวาส ก็เช่นเดียวกัน แล้วเรายังข้ามวัฒนธรรมไปยังประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียอีกด้วย เป็นการเชื่อมโยงกันสานสัมพันธ์ไทยมาเลเซียอินโดนีเซีย เพราะฉะนั้นในโอกาสนี้ เรามาร่วมกันส่งเสริมประเพณีศิลปวัฒนธรรม เพื่อที่จะนำพาจังหวัดยะลาของเราให้ก้าวสู่สากล เอาวัฒนธรรมมาทำงาน เอาวัฒนธรรมมาทำเงิน แล้วก็เอาวัฒนธรรมมาทำดีให้ทุกกลุ่มทุกช่วงทุกวัย
