“ครูบาไก่” ปฏิเสธคลิปฉาว-บุกรุกที่ดินป่าไม้

ขอนแก่น 26 ม.ค. – “ครูบาไก่” โต้ทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ได้บุกรุกที่ดินป่าไม้เพื่อสร้างวัด แจงให้ทนายดำเนินการ


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หรือวัดครูบาไก่ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากพระสุวิทย์ ชินวโร หรือครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์ดังกล่าว วัย 30 ปี ถึงประเด็นที่นางคมคาย หรือบุ๋ม, นางสาววาสนา หรืออิคคิว ร้องเรียนที่กองปราบปราม และ ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบครูบาไก่ โดยกล่าวหาว่าวัดบุกรุกที่ป่าไม้ และเรื่องคลิปชายโกนผม โกนคิ้ว อ้างว่าเป็นครูบาไก่ กำลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย

ครูบาไก่มีสีหน้าเรียบเฉยดังเช่นทุกครั้ง นำหลักฐานเรื่องการตั้งที่พักสงฆ์และขอดำเนินการสร้างวัดป่ามาให้ดู ยืนยันทางวัดมีหลักฐานถูกต้องชัดเจน ตั้งแต่บุกเบิกหาที่ดินจนมาถึงการสร้างในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เคยทำการรังวัดมีแนวเขตชัดเจนว่าอยู่นอกเขตป่าไม้ เพราะเคยมีเรื่องร้องเรียนมาก่อนสร้างที่พักสงฆ์แห่งนี้ และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีการร้องเรียนเรื่องเดิม ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงมาตรวจสอบเหมือนเดิม และถือเป็นการดีที่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง เรื่องจะได้ชัดเจนมากขึ้น โดยที่ดินบริเวณที่ถูกร้องเรียนเป็นที่ ส.ป.ก. เนื้อที่ 31 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยแนะนำว่าหากจะสร้างวัดสามารถทำได้ แต่ทางวัดใช้ที่ดินในการขอโฉนดสร้างวัดเป็นที่ดินคนละแปลงกับที่ ส.ป.ก. โดยเป็นที่ดินใบจอง น.ส.2 มีเนื้อที่ 12 ไร่ ที่ชาวบ้านนำมาถวายให้วัด มีเอกสารสิทธิครอบครองถูกต้อง ตรวจสอบได้ ไม่กังวลว่าจะมีหลักฐานอื่นๆ ขึ้นมาอีก หากมีก็เอาออกมาทั้งหมดพร้อมกันได้ จะได้ชี้แจงไปในคราวเดียว


ส่วนเรื่องคลิป ครูบาไก่บอกว่าเห็นคลิปนี้ตั้งแต่ก่อนจะมีการออกข่าว โดยมีลูกศิษย์นำมาให้ดู ซึ่งได้คุยกับลูกศิษย์อยู่ว่าเขาจะกล้าเอาคลิปนี้มาเผยแพร่จริงหรือ เพราะไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งนำออกมาจริงๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเองอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีของทนายธรรมราชที่ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับประเด็นเปิดรับบริจาคทำบุญสร้างท้าวเวสสุวรรณขนาด 8 นิ้ว โดยมีอิคคิวและบุ๋มเป็นเจ้าภาพ มาเสนออยากสร้างท้าวเวสสุวรรณ ทางวัดก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ก่อนจะมีการเปิดรับบริจาคร่วมทำบุญสร้าง แต่ก็ทิ้งไว้อย่างที่เห็น ไม่มีการสร้างต่อแต่อย่างใด ส่วนเงินที่ได้จากการบริจาค มีการอ้างว่าโอนเข้ามาในบัญชีวัดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะบัญชีนั้นเป็นของอิคคิว เงินก็ต้องเข้าบัญชีอิคคิว ทางวัดเป็นแค่สถานที่ ถมดินขุดสระเท่านั้น เผื่องบประมาณ 400,000 บาทของทางวัด ส่วนการสร้างท้าวเวสสุวรรณกับศาลานั้น ทางอิคคิวจะเป็นคนสร้างเองทั้งหมด ยืนยันวัดไม่มีส่วนรับรู้ เพราะเป็นเพียงสถานที่เท่านั้น ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้

ระหว่างการชี้แจง ญาติโยมและลูกศิษย์ที่มานั่งฟังได้ร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว เพราะหลักฐานต่างๆ ที่อีกฝ่ายนำมาโจมตีนั้นมีแต่เรื่องเท็จ ไม่มีหลักฐานที่เป็นจริง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบประวัติกลุ่มคนเหล่านี้


อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนสวน สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้เรียกทางอิคคิวและบุ๋ม พร้อมลูกศิษย์อีก 2 คน มาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาตามที่ครูบาไก่ได้แต่งตั้งทนายความเข้าแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้

“บุ๋ม-อิคคิว” ร้อง ผบ.ตร.ย้าย ผกก.สภ.มัญจาคีรี สนิท “ครูบาไก่”
อีกด้านวันนี้ อิคคิว และบุ๋ม ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้โยกย้ายผู้กำกับการ สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “ครูบาไก่” ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมคดีที่ตนทั้งสองถูกกล่าวหาหมิ่นพุทธศาสนา และให้การเท็จ ระบุโรงพักได้รับเงินสนับสนุนเทคอนกรีตหน้าโรงพัก กว่า 500,000 บาท และสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ โดยมีภาพถ่ายเป็นหลักฐาน และก่อนหน้านี้ผู้กำกับยังให้สัมภาษณ์ว่าออกหมายเรียกตนทั้งสองมาให้ปากคำ ทั้งที่ความจริงช่วงนั้นตนทั้งสองคนยังไม่ได้รับหมายเรียก จึงทำให้สังคมเข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างครูบาไก่ เริ่มตั้งแต่ปี 2564 เนื่องจากเลื่อมใสศรัทธาในตัวครูบาไก่ จึงถวายเงินบูรณะวัดหลายอย่าง ทั้งสร้างกุฏิ หล่อองค์พระ และสร้างศาลาการเปรียญ รวมกว่า5 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 7 สิงหาคม 2565 มีชายลึกลับ ทราบชื่อภายหลังว่า “นายเจน” ทักข้อความและส่งภาพลับของครูบาไก่มาให้ดู และอ้างว่าเป็นแฟนของครูบาไก่ จึงนำภาพไปสอบถามครูบาไก่ ซึ่งยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ตนทั้งสองให้อภัยตามที่ครูบาไก่ร้องขอ แต่หลังจากนั้นทราบว่าครูบาไก่ได้กลับไปหาผู้ชายอีกคนที่ จ.ลพบุรี ทำให้พวกตนหมดศรัทธาจึงถอยห่างออกมา

กระทั่งต่อมาปรากฏคลิปภาพชายหัวโล้นรูปร่างอ้อนแอ้น แต่ไม่ระบุว่าเป็นครูบาไก่ กำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย จึงไปแจ้งความกองปราบฯ ให้ช่วยตรวจสอบ พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาขัดแย้งกับครูบาไก่ จนต้องออกมาเคลื่อนไหว และไม่ต้องการเงินที่บริจาคไปกลับคืนมา เพียงต้องการให้สังคมช่วยตรวจสอบ และต้องการให้ออกมารับความจริงอย่างลูกผู้ชาย

นอกจากนี้ยังปฏิเสธว่าไม่ใช่ต้นคิดในการสร้างเรื่องราวเพื่อสร้างวัตถุมงคลกำไลข้อมือตามที่ถูกตั้งข้อสงสัย พร้อมปัดว่าฝ่ายครูบาไก่ต่างหากที่เป็นฝ่ายเสนอให้ไปร่วมลงทุนสร้งวัตถุมงคลดังกล่าว

“จตุรงค์” เรียกร้องเร่งสอบวินัย “ครูบาไก่”
ด้านนายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา บอกว่า คลิปดังกล่าวไม่เห็นหน้าจึงไม่สามารถจับสึกได้ มองว่าหลักฐานต้องชัดกว่านี้ เมื่อไม่เห็นหน้าต้องยกประโยชน์ให้ เรียกร้องให้ผู้กล่าวหา เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติ คณะสงฆ์ธรรมยุติ จ.ขอนแก่น จัดการเรื่องนี้ กรณีขี่เจ็ตสกี แม้จะเป็นอาบัติน้อย ปลงอาบัติได้ แต่ภาพนอนเล่นน้ำตกนั้นถือว่าร้ายแรงกว่า เพราะเป็นอาบัติ ปาจิตตีย์ บุญกุศลมีหายไป จึงไม่อยากให้ครูบาไก่แก้ตัวว่าเป็นการอาบน้ำ ไม่ใช่การเล่นน้ำ

ส่วนเจ้าคณะปกครองทำอะไรได้หรือไม่นั้น ตอนแรกเหมือนมีท่าทีจะจัดการเรื่องนี้ให้มารายงานตัวภายใน 7 วัน แต่ตอนนี้เจ้าคณะปกครองสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติ จ.ขอนแก่น เหมือนเตะถ่วง เช่น รอให้คดีจบก่อน ตนมองว่าไม่จำเป็น การสอบอธิกรณ์หรือสอบวินัยสามารถทำได้เลย หากเจ้าคณะจังหวัดธรรมยุติขอนแก่น และเจ้าคณะปกครองของครูบาไก่ ไม่ตรวจสอบเรื่องนี้จริงจังจะทำให้ครูบารูปอื่นๆ มัวหมองไปด้วย หากสังคมเข้าใจผิด

ทั้งนี้ มองว่าอิคคิวไม่หยุดแค่นี้ จะขุดหลักฐานออกมาเรื่อยๆ และจากการเคลื่อนไหวของอิคคิวที่ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ ครูบาไก่มีความเสี่ยงปาราชิกใน 3 เรื่อง หรือต้องขาดจากความเป็นพระ หากตรวจสอบได้ว่าผิดจริง คือ 1.ที่ถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์ 2.เรื่องเงิน ทั้งการติดสินบนตำรวจ การรุกป่า 3.การอวดอุตริ เช่น การมีดวงตาทิพย์ เห็นญาณ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย