“ครูบาไก่” ปฏิเสธคลิปฉาว-บุกรุกที่ดินป่าไม้

ขอนแก่น 26 ม.ค. – “ครูบาไก่” โต้ทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ได้บุกรุกที่ดินป่าไม้เพื่อสร้างวัด แจงให้ทนายดำเนินการ


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หรือวัดครูบาไก่ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากพระสุวิทย์ ชินวโร หรือครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์ดังกล่าว วัย 30 ปี ถึงประเด็นที่นางคมคาย หรือบุ๋ม, นางสาววาสนา หรืออิคคิว ร้องเรียนที่กองปราบปราม และ ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบครูบาไก่ โดยกล่าวหาว่าวัดบุกรุกที่ป่าไม้ และเรื่องคลิปชายโกนผม โกนคิ้ว อ้างว่าเป็นครูบาไก่ กำลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย

ครูบาไก่มีสีหน้าเรียบเฉยดังเช่นทุกครั้ง นำหลักฐานเรื่องการตั้งที่พักสงฆ์และขอดำเนินการสร้างวัดป่ามาให้ดู ยืนยันทางวัดมีหลักฐานถูกต้องชัดเจน ตั้งแต่บุกเบิกหาที่ดินจนมาถึงการสร้างในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เคยทำการรังวัดมีแนวเขตชัดเจนว่าอยู่นอกเขตป่าไม้ เพราะเคยมีเรื่องร้องเรียนมาก่อนสร้างที่พักสงฆ์แห่งนี้ และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีการร้องเรียนเรื่องเดิม ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงมาตรวจสอบเหมือนเดิม และถือเป็นการดีที่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง เรื่องจะได้ชัดเจนมากขึ้น โดยที่ดินบริเวณที่ถูกร้องเรียนเป็นที่ ส.ป.ก. เนื้อที่ 31 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยแนะนำว่าหากจะสร้างวัดสามารถทำได้ แต่ทางวัดใช้ที่ดินในการขอโฉนดสร้างวัดเป็นที่ดินคนละแปลงกับที่ ส.ป.ก. โดยเป็นที่ดินใบจอง น.ส.2 มีเนื้อที่ 12 ไร่ ที่ชาวบ้านนำมาถวายให้วัด มีเอกสารสิทธิครอบครองถูกต้อง ตรวจสอบได้ ไม่กังวลว่าจะมีหลักฐานอื่นๆ ขึ้นมาอีก หากมีก็เอาออกมาทั้งหมดพร้อมกันได้ จะได้ชี้แจงไปในคราวเดียว


ส่วนเรื่องคลิป ครูบาไก่บอกว่าเห็นคลิปนี้ตั้งแต่ก่อนจะมีการออกข่าว โดยมีลูกศิษย์นำมาให้ดู ซึ่งได้คุยกับลูกศิษย์อยู่ว่าเขาจะกล้าเอาคลิปนี้มาเผยแพร่จริงหรือ เพราะไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งนำออกมาจริงๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ตัวเองอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีของทนายธรรมราชที่ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับประเด็นเปิดรับบริจาคทำบุญสร้างท้าวเวสสุวรรณขนาด 8 นิ้ว โดยมีอิคคิวและบุ๋มเป็นเจ้าภาพ มาเสนออยากสร้างท้าวเวสสุวรรณ ทางวัดก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ก่อนจะมีการเปิดรับบริจาคร่วมทำบุญสร้าง แต่ก็ทิ้งไว้อย่างที่เห็น ไม่มีการสร้างต่อแต่อย่างใด ส่วนเงินที่ได้จากการบริจาค มีการอ้างว่าโอนเข้ามาในบัญชีวัดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะบัญชีนั้นเป็นของอิคคิว เงินก็ต้องเข้าบัญชีอิคคิว ทางวัดเป็นแค่สถานที่ ถมดินขุดสระเท่านั้น เผื่องบประมาณ 400,000 บาทของทางวัด ส่วนการสร้างท้าวเวสสุวรรณกับศาลานั้น ทางอิคคิวจะเป็นคนสร้างเองทั้งหมด ยืนยันวัดไม่มีส่วนรับรู้ เพราะเป็นเพียงสถานที่เท่านั้น ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้

ระหว่างการชี้แจง ญาติโยมและลูกศิษย์ที่มานั่งฟังได้ร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว เพราะหลักฐานต่างๆ ที่อีกฝ่ายนำมาโจมตีนั้นมีแต่เรื่องเท็จ ไม่มีหลักฐานที่เป็นจริง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบประวัติกลุ่มคนเหล่านี้


อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนสวน สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้เรียกทางอิคคิวและบุ๋ม พร้อมลูกศิษย์อีก 2 คน มาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาตามที่ครูบาไก่ได้แต่งตั้งทนายความเข้าแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้

“บุ๋ม-อิคคิว” ร้อง ผบ.ตร.ย้าย ผกก.สภ.มัญจาคีรี สนิท “ครูบาไก่”
อีกด้านวันนี้ อิคคิว และบุ๋ม ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้โยกย้ายผู้กำกับการ สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “ครูบาไก่” ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมคดีที่ตนทั้งสองถูกกล่าวหาหมิ่นพุทธศาสนา และให้การเท็จ ระบุโรงพักได้รับเงินสนับสนุนเทคอนกรีตหน้าโรงพัก กว่า 500,000 บาท และสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ โดยมีภาพถ่ายเป็นหลักฐาน และก่อนหน้านี้ผู้กำกับยังให้สัมภาษณ์ว่าออกหมายเรียกตนทั้งสองมาให้ปากคำ ทั้งที่ความจริงช่วงนั้นตนทั้งสองคนยังไม่ได้รับหมายเรียก จึงทำให้สังคมเข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างครูบาไก่ เริ่มตั้งแต่ปี 2564 เนื่องจากเลื่อมใสศรัทธาในตัวครูบาไก่ จึงถวายเงินบูรณะวัดหลายอย่าง ทั้งสร้างกุฏิ หล่อองค์พระ และสร้างศาลาการเปรียญ รวมกว่า5 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 7 สิงหาคม 2565 มีชายลึกลับ ทราบชื่อภายหลังว่า “นายเจน” ทักข้อความและส่งภาพลับของครูบาไก่มาให้ดู และอ้างว่าเป็นแฟนของครูบาไก่ จึงนำภาพไปสอบถามครูบาไก่ ซึ่งยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ตนทั้งสองให้อภัยตามที่ครูบาไก่ร้องขอ แต่หลังจากนั้นทราบว่าครูบาไก่ได้กลับไปหาผู้ชายอีกคนที่ จ.ลพบุรี ทำให้พวกตนหมดศรัทธาจึงถอยห่างออกมา

กระทั่งต่อมาปรากฏคลิปภาพชายหัวโล้นรูปร่างอ้อนแอ้น แต่ไม่ระบุว่าเป็นครูบาไก่ กำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย จึงไปแจ้งความกองปราบฯ ให้ช่วยตรวจสอบ พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาขัดแย้งกับครูบาไก่ จนต้องออกมาเคลื่อนไหว และไม่ต้องการเงินที่บริจาคไปกลับคืนมา เพียงต้องการให้สังคมช่วยตรวจสอบ และต้องการให้ออกมารับความจริงอย่างลูกผู้ชาย

นอกจากนี้ยังปฏิเสธว่าไม่ใช่ต้นคิดในการสร้างเรื่องราวเพื่อสร้างวัตถุมงคลกำไลข้อมือตามที่ถูกตั้งข้อสงสัย พร้อมปัดว่าฝ่ายครูบาไก่ต่างหากที่เป็นฝ่ายเสนอให้ไปร่วมลงทุนสร้งวัตถุมงคลดังกล่าว

“จตุรงค์” เรียกร้องเร่งสอบวินัย “ครูบาไก่”
ด้านนายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา บอกว่า คลิปดังกล่าวไม่เห็นหน้าจึงไม่สามารถจับสึกได้ มองว่าหลักฐานต้องชัดกว่านี้ เมื่อไม่เห็นหน้าต้องยกประโยชน์ให้ เรียกร้องให้ผู้กล่าวหา เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติ คณะสงฆ์ธรรมยุติ จ.ขอนแก่น จัดการเรื่องนี้ กรณีขี่เจ็ตสกี แม้จะเป็นอาบัติน้อย ปลงอาบัติได้ แต่ภาพนอนเล่นน้ำตกนั้นถือว่าร้ายแรงกว่า เพราะเป็นอาบัติ ปาจิตตีย์ บุญกุศลมีหายไป จึงไม่อยากให้ครูบาไก่แก้ตัวว่าเป็นการอาบน้ำ ไม่ใช่การเล่นน้ำ

ส่วนเจ้าคณะปกครองทำอะไรได้หรือไม่นั้น ตอนแรกเหมือนมีท่าทีจะจัดการเรื่องนี้ให้มารายงานตัวภายใน 7 วัน แต่ตอนนี้เจ้าคณะปกครองสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติ จ.ขอนแก่น เหมือนเตะถ่วง เช่น รอให้คดีจบก่อน ตนมองว่าไม่จำเป็น การสอบอธิกรณ์หรือสอบวินัยสามารถทำได้เลย หากเจ้าคณะจังหวัดธรรมยุติขอนแก่น และเจ้าคณะปกครองของครูบาไก่ ไม่ตรวจสอบเรื่องนี้จริงจังจะทำให้ครูบารูปอื่นๆ มัวหมองไปด้วย หากสังคมเข้าใจผิด

ทั้งนี้ มองว่าอิคคิวไม่หยุดแค่นี้ จะขุดหลักฐานออกมาเรื่อยๆ และจากการเคลื่อนไหวของอิคคิวที่ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ ครูบาไก่มีความเสี่ยงปาราชิกใน 3 เรื่อง หรือต้องขาดจากความเป็นพระ หากตรวจสอบได้ว่าผิดจริง คือ 1.ที่ถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์ 2.เรื่องเงิน ทั้งการติดสินบนตำรวจ การรุกป่า 3.การอวดอุตริ เช่น การมีดวงตาทิพย์ เห็นญาณ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]