ทำแผนฆ่าฝังดินหนุ่มวัย 26 อ้างรำคาญมาถามหาอดีตแฟน

บุรีรัมย์ 5 ธ.ค. – ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าฝังดินหนุ่มวัย 26 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างก่อเหตุเพราะโมโหผู้ตายเซ้าซี้ถามหาอดีตแฟน ทั้งที่ไม่ได้คบหากันแล้ว แต่หลอนไปเอง เพราะป่วยและชอบดื่มเหล้า ก่อนชกต่อยกัน แต่สู้ไม่ได้ จึงชักปืนมายิง แล้วนำศพฝังร่องน้ำกลางไร่อ้อย


ความคืบหน้าคดีฆ่าฝังดินกลางสวน ซึ่งมีผู้พบศพนายธิติศักดิ์ อายุ 26 ปี ชาวบุรีรัมย์ ที่พ่อแม่เข้าแจ้งความหายตัวออกจากบ้านกว่า 10 วัน กระทั่งมาพบถูกฆ่าแล้วนำมาฝังในร่องน้ำกลางไร่อ้อย พื้นที่ ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

ล่าสุด พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แถลงข่าวการจับกุมนายคนาวิน เพื่อนบ้านวัย 37 ปี ผู้ต้องหาฆ่าฝังดินอำพรางศพนายธิติศักดิ์ หลังพบศพเมื่อช่วงสายวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนำของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งอาวุธปืน พร้อมกระสุน จอบ ไฟฉายส่องสว่าง และมีดปลายแหลม มาประกอบการแถลงข่าว พร้อมทั้งให้พ่อแม่ของผู้ตายมาร่วมรับฟังและซักถามข้อสงสัยด้วย


จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุบริเวณไร่อ้อย ด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านเสลาโสรง เริ่มจากจุดแรกที่ผู้ต้องหากำลังยืนดักหนูนา แล้วผู้ตายมาถามหาอดีตแฟนของผู้ต้องหา จุดที่ 2 บริเวณริมขอบสระ ที่ทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะชกต่อยกัน แล้วผลักผู้ตายล้มข้างขอบสระ ก่อนใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต แล้วใช้เชือกรัดคอ แขน และข้อเท้า ผูกติดกับขอนไม้ เพื่อถ่วงน้ำ แต่ไม่จม จุดที่ 3 คือ จุดที่ลากศพไปฝังในร่องน้ำกลางป่าอ้อย พร้อมทำพิธีสะกดวิญญาณ และจุดที่ 4 คือ จุดที่วางเหรียญเพื่อสะกดวิญญาณ ซึ่งผู้ต้องหาให้ความร่วมมือในการทำแผนฯ ชี้จุดเป็นอย่างดี ท่ามกลางชาวบ้านและญาติที่มามุงดู

นางลิ้ม แม่ของผู้ตาย ซึ่งมาดูการทำแผนฯ ด้วย ร้องไห้ไม่เชื่อว่า นายคนาวิน ก่อเหตุคนเดียว เพราะลูกชายเป็นคนรูปร่างใหญ่ น่าจะมีคนอื่นร่วมก่อเหตุด้วย ขอให้ตำรวจติดตามผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ทุกคน ทั้งนี้ จะไม่อโหสิกรรมให้ผู้ต้องหา เพราะลงมือฆ่าลูกชายอย่างโหดเหี้ยม อยากให้ลงโทษสถานหนักหรือประหารชีวิต

นายคนาวิน ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 24 พ.ย.65 ตนเดินมาจากกระท่อม ห่างจากจุดเกิดเหตุ 260 เมตร เพื่อไปดักหนูนาที่ริมสระน้ำใกล้จุดเกิดเหตุที่พบศพ ขณะกำลังใช้ไฟฉายคาดหัวส่องหาหนู ผู้ตายได้เดินมาหา แล้วถามว่าเห็น น.ส.โบว์ อดีตแฟนที่ผู้ต้องหาเคยคบหาหรือไม่ ผู้ต้องหาบอกว่าไม่เห็น จากนั้นผู้ตายขอบุหรี่ 2 มวน พอสูบหมดก็ยังถามหา น.ส.โบว์ ซ้ำอีก ผู้ต้องหาจึงเกิดความรำคาญ เพราะผู้ตายมีอาการหลอน เนื่องจากเคยรักษาอาการทางประสาท และชอบดื่มสุราเป็นประจำ จึงคิดไปเองว่าตัวเองยังคบหากับอดีตแฟนสาว จึงมาถามหาจากตน อีกทั้งผู้ตายยังแสดงอาการโมโหและจะเข้าทำร้าย ตนจึงใช้มือปัดป้อง จนเกิดเหตุชกต่อยกันชุลมุนบริเวณขอบสระ กระทั่งผู้ตายเสียหลักล้ม ด้วยอารมณ์โมโห ประกอบกับผู้ตายรูปร่างใหญ่กว่า ตนคงสู้ไม่ได้ จึงไปหยิบปืนพกสั้นจากกระเป๋าสะพายที่แขวนไว้บนต้นกล้วยมายิงใส่ผู้ตาย 1 นัด ด้วยความตกใจและกลัวความผิด จึงคิดอำพรางศพ เดินกลับไปที่กระท่อม เอาเชือกไนลอนสีเขียวที่คอกวัวไปมัดคอ มือ และข้อเท้าของผู้ตาย เพื่อผูกติดกับขอนไม้บริเวณขอบสระ หวังถ่วงน้ำไม่ให้ศพลอยขึ้นมา แต่เมื่อผลักลงน้ำแล้วศพไม่จม จึงเปลี่ยนใจแกะเชือกออก แล้วลากศพไปที่ร่องน้ำ ห่างจากสระ 10 เมตร


จากนั้นก็ทำพิธีสะกดวิญญาณคนตายตามความเชื่อที่เคยดูจากยูทูบ โดยเอาหญ้าคาที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมามัดรวบแล้วผูกที่ศีรษะคนตาย รวมทั้งแขนข้างซ้าย และข้อเท้าซ้ายด้วย แล้วท่องนะโม 3 จบ พร้อมกล่าวคำสะกดวิญญาณ ก่อนเอาดินฝังกลบร่างผู้ตาย และวางเหรียญบาท 2 เหรียญไว้ที่ข้างกอกล้วยใกล้กับศพ ตามความเชื่อไม่ให้ไปผุดไปเกิด จากนั้นวันที่ 25 พ.ย. ได้นำเสื้อผ้าที่สวมใส่วันเกิดเหตุไปเผาทำลายหลักฐาน และเอาปืนที่ใช้ก่อเหตุห่อใส่ถุง พร้อมกับกระสุนปืน นำไปทิ้งในสระน้ำชลประทาน

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก