นครศรีฯ ขึ้นธงเหลืองเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ

นครศรีธรรมราช 4 ธ.ค. – เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ขึ้นธงเหลือง เตือนประชาชนเฝ้าระวัง เตรียมพร้อมเก็บย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด


ผู้สื่อข่าวรายงานในวันนี้ (4 ธ.ค.65) ว่า หลังจากมีปริมาณฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในเกือบทุกพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้ระดับน้ำตามลำคลองสายต่างๆ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในบางพื้นที่ราบลุ่มต่ำ หรือริมลำคลอง เริ่มมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งบ้างแล้ว ล่าสุดในการป้องกันและเฝ้าระวังน้ำท่วมพื้นที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการติดตั้งป้าย พร้อมปักธงสัญลักษณ์เพื่อแจ้งเตือนภัยตามคลองสายต่างๆ ที่ผ่านเขตเทศบาลฯ เพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวัง เตรียมพร้อมเก็บย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งน้ำฝนสะสมในคลองต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ใช้สัญลักษณ์ธงสีเหลือง ซึ่งหมายถึง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งน้อยกว่า 1.50 เมตร และให้ประชาชนในเขตตัวเมืองเฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

นายกณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช แจ้งว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เพื่อดูแลประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำตามจุดลำคลองสายหลักที่ไหลผ่านตัวเมือง จำนวน 12 เครื่อง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามตรอกซอยและพื้นที่ลุ่มต่ำ จำนวน 45 เครื่อง เพื่อให้ระบายน้ำเป็นไปตามระบบ ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ต้นน้ำ และบริเวณพื้นที่ริมคลองสายหลัก พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำตลอด เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โทร. 075-345118, 075-342880 ต่อ 138 หรือสายด่วน 199 ตลอด 24 ชั่วโมง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย