รวบแล้ว 4 ใน 7 โจรปล้นบ้านตายาย

นครศรีธรรมราช 2 ธ.ค. – รวบแล้ว 4 ใน 7 ปล้นบ้านตายาย ยกตู้เซฟกวาดเงินร่วมล้าน พบหลานชายเป็นคนวางแผนมานานกว่า 2 เดือน บอกยายรวย แต่ไม่เคยให้เงิน


กรณีคนร้าย 6 คน บุกเข้าไปในบ้านที่ตำบลบ้านราม อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าบ้านหลังนี้มีผู้เสียหายสองตายาย คือ นายเฉลียว อายุ 76 ปี และนางปราณี อายุ 73 ปี 2 อาศัยอยู่ โดยรอบบ้านนั้นลูกหลานติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ถึง 6 ตัว หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 65 เวลา 11.20 น. คนร้ายก่อเหตุเพียงประมาณ 5 นาที เข้ามาเอาตู้เซฟที่บรรจุทรัพย์สินไว้หลบหนีไปอย่างลอยนวล ตอนนั้นไม่มีคนอยู่บ้าน หลังจากผ่านไป 3 เดือน ครอบครัวของตายายเริ่มร้อนใจเปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าว หลังจากกลายเป็นข่าวโด่งดังปรากฏว่าตำรวจใช้เวลาเพียง 4 วัน สามารถติดตามคนร้ายได้ 4 ราย

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ชุดเจ้าหน้าที่ปองปราบปราม และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ได้คุมตัวนายวีรยุทธ หรือโก้ อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ตั้งแต่วานนี้ (1 ธ.ค.) ไปชี้จุดนำตู้เซฟที่ถูกตัดผ่าแล้วไปทิ้งในบ่อทราย ท้องที่ตำบลควนพัง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 40 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถตักยกขึ้นมาจากน้ำเนื่องจากมีน้ำหนักราว 400 กิโลกรัม อยู่ในสภาพถูกเจาะพังยับเยิน ก่อนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียด หลังจากนั้นได้เคลื่อนย้ายมายัง สภ.หัวไทร


ที่ สภ.หัวไทร ผู้เสียหายสองตายาย มารอดูผู้ก่อเหตุ และระบุว่าดีใจที่เจ้าหน้าที่จับกุม 4 คนร้ายไว้ได้แล้ว พร้อมทั้งยึดทรัพย์สินมาได้ส่วนหนึ่ง แต่ที่เสียใจคือหลานชายแท้ๆกลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ชักพาคนร้ายมาก่อเหตุ ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน โดยก่อนเกิดเหตุไม่นานยังมารับไปร่วมงานศพเพื่อนบ้าน และหลังจากเกิดเหตุแล้วยังวนเวียนมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งความแตก

ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นายภูริวัฒน์ อายุ 30 ปี และนายรัฐมนูญ อายุ 29 ปี เร่งสอบสวนอย่างละเอียด ส่วนนายชัยรัตน์ อายุ 56 ปีผู้ต้องหาที่มีอายุมากสุดในทีม ได้ถูกคุมตัวอยู่ในห้องควบคุม โดยนายชัยรัตน์ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินสดมาเพียง 8,000 บาทเท่านั้น และยังบอกด้วยว่าโชคดีที่ไม่ใครอยู่บ้านขณะเกิดเหตุ เนื่องจากมีผู้ร่วมทีมบางรายระบุว่าหากพบว่ามีคนอยู่ในบ้านจะต้องจับมัดและอาจต้องทำให้เสียชีวิต เพื่อเป็นการปิดปาก ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีขณะนี้ คือ นายธวัชชัย อายุ 38 ปี หลานชายของนางปราณีผู้เสียหาย นายปัญญา อายุ 41 ปี และนายธวัชชัย อายุ 39 ปี รวมผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด 7 ราย

นายวีรยุทธ ยอมรับว่านายธวัชชัย หลานชายของผู้เสียหายเป็นผู้วางแผนและมาชักชวน โดยทราบว่าวางแผนล่วงหน้ามาราว 2 เดือน แต่มาชวนตนเองประมาณ 7 วันก่อนเกิดเหตุ ส่วนตู้เซฟหลังจากได้ไปแล้วมี 4 คน ช่วยกันตัดเปิดและเอาทรัพย์สินในตู้ออกมาแบ่งกันมีทองรูปพรรณหลายเส้น พระเครื่องเลี่ยมทองหลายองค์ อาวุธปืน เงินสด สำหรับพระเครื่องเลี่ยมทองและทองคำรูปพรรณบางส่วนนั้นได้นำไปฝากญาติไว้ ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไปตรวจยึด ส่วนสาเหตุที่นายธวัชชัยบอกนั้น ไม่ได้ขัดแย้ง บอกว่าป้ามีฐานะดี แต่ไม่เคยให้เงินให้ทองกับเขา จึงชักชวนไปก่อเหตุ ส่วนอาชีพของนายธวัชชัย ทราบว่าเป็นข้าราชการแต่ไม่ทราบว่าหน่วยงานอะไร


สำหรับของกลางที่ยึดได้ขณะนี้ คือ อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นลูกซองสั้น และอาวุธปืนของผู้เสียหาย 1 กระบอก อีก 1 กระบอก กำลังติดตาม ส่วนทองคำบางส่วนถูกนำไปจำนำในร้านทองแห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราช อยู่ระหว่างติดตาม สำหรับข้อหาทั้ง 7 รายขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบตามพฤติการณ์ คือ ร่วมกันลักทรัพย์ บุกรุกเคหสถาน และร่วมกันในความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]